“สงกรานต์” น้ำตาไหล ยอมรับผิด ขอไม่หย่าอยากดูแล “แอฟ-ลูก” สะเทือนใจฝ่ายหญิงรอวันหย่า

สะเทือนใจ น้ำตาลูกผู้ชาย “สงกรานต์” ยอมรับผิด แต่คงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ ขอไม่หย่า อยากดูแล “แอฟ” และลูก สะเทือนใจฝ่ายหญิงรอวันหย่า ที่ผ่านมาแอฟให้แต่สิ่งดีๆ มีความรักให้ห่วงใยต่อกัน วันนี้ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ขอเป็นที่พึ่งให้แอฟตลอดไป

หลังจากเกิดปัญหาทำให้ต้องทำให้ฝ่ายภรรยาอย่าง “แอฟ ทักษร” ต้องหอบผ้าหอบผ่อนพร้อมอุ้มลูกน้อย “น้องปีใหม่” ออกจากคฤหาสน์โบนันซ่า จนเป็นข่าวใหญ่โตถึงขั้นฝ่ายหญิงประกาศออกสื่อว่ายังไงก็ขอ “หย่า” ล่าสุดได้เจอ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ที่มาเดินสายโปรโมตพร้อมกับ “กึ้ง เฉลิมชัย” ในโครงการ p80 king of battle ultimate military obstacles ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7-8 ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงเรื่องราวเตียงหักในครั้งนี้ว่า ตนเองเป็นคนผิดเอง ขอไม่หย่า อยากดูแลแอฟและลูก วันนี้ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ถ้ามีอะไรยินดีเป็นที่พึ่งให้แอฟเสมอ

“สำหรับชีวิตตอนนี้เข้าที่เข้าทางขึ้นทุกอย่างค่อยๆ แก้จุดแก้ปมในชีวิตเริ่มลงตัวขึ้น ก็โอเคนะเรื่องงานลงตัว เรื่องครอบครัวพยายามคุยกันให้เรียบร้อย กว่าจะผ่านมาได้ก็ยากเหมือนกัน เหมือนช่วงนั้นทุกอย่างเข้ามาทีเดียว ไตรชงเลย ชง 3 ปีติดเลย ที่ผ่านมาผมไม่อยากสาวความ ให้มันเงียบไปดีกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัว พูดไปไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาจึงเลือกที่จะเลี่ยงดีกว่า”

ข้อสรุปวันนี้คือจะทำให้ดีที่สุด
“อนาคตหรือครับ พยายามจะดูให้ดีที่สุด คงจะเน้นเป็นเรื่องของลูกให้ดีที่สุด เขาเริ่มโตเริ่มรู้เรื่องและเริ่มเข้าใจมากขึ้น ต้องพยายามทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ขาด”

ไม่ตอบทำไมถึงไม่ยอมหย่า
“อันนี้ผมขออนุญาตไม่ตอบดีกว่าครับ ต้องขออนุญาตจริงๆ”

ทุกวันนี้เจอ “แอฟ” ไม่ตะขิดตะขวงใจ
“เจอบ้างนะครับเวลาไปรับลูก คุยบ้าง (ไม่ตะขิดตะขวงใจ) ไม่นะ ผมไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไรเขา เขาให้ความรักและให้การดูแลกันตลอด เราไม่ได้ทะเลาะกันต้องตีกันต้องเกลียดกัน”

เลือกที่จะใช้ชีวิตคู่แบบยังไม่หย่าแต่ก็ไม่ได้ตัดขาด เผยมันเลยจุดที่ไม่อยากเสีย “แอฟ” ไปแล้ว
“ก็มันเป็นเรื่องที่ทั้งสองคนตกลงกันอย่างที่ว่ามันเป็นเรื่องของทั้งสองฝ่าย (ง้อไม่อยากเสียแอฟใช่ไหม) ตอนนี้มันคงเลยจุดนั้นมาแล้วะครับ ส่วนโอกาสที่กลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน ขออนุญาตไม่ตอบแล้วกันนะครับ”

ในขณะที่ “สงกรานต์” พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่ากระแสข่าวการเลิกรากันจะชัดเจนมากกว่า
“มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วในช่วงแรก เราไม่ได้เป็นแค่เป็นแฟนกันแต่ว่าเราเป็นครอบครัวแล้ว เราต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก ทำทุกอย่างให้มันใช้คำว่าครอบครัวได้ มันอีกหลายๆ อย่างที่เราพลาดไปแล้วเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไข เราต้องเดินต่อไป เรารู้ว่าหน้าที่ของเราคืออะไร คือลูกของเราไม่ให้เขาขาดด้วยความเป็นพ่อ เราต้องทำให้ดีที่สุดเราอยากมอบของที่ดีที่สุดให้กับลูกของเรา”

ยอมรับว่าความผิดพลาดที่ผ่านมาเกิดจากตัวเรา
“ใช่นะ”

เรื่องที่ “แอฟ” บอกว่าหายหน้าไป 2 ปีแล้วจู่ๆ เพิ่งกลับมาช่วงที่ตกเป็นข่าวเลิกรากัน เจ้าตัวแจงไม่ได้หายไปไหน
“ผมไม่ได้หายไปไหน ผมอยู่ที่นั่นนะ ใครอยากมาหาผมเขารู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ตรงไหน”

ขอไม่พูดถึงเรื่องมือที่ 3 เพราะพูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ
“แต่ว่าทุกอย่างมันพิสูจน์อยู่แล้ว หลายๆ อย่างทุกคนก็ทราบอยู่แล้วที่เห็นในข่าวผมขออนุญาตไม่พูดชื่อหรือไม่ย้อนกลับ (คือไม่มีจริง)ก็..(โล่งอกไหมหลุดคดีมือที่ 3)ไม่ได้โล่งอกนะ แต่ว่าผมเชื่อว่าผมพูดอะไรไปไม่มีคนเชื่อผมอยู่แล้ว ผมไม่พูดดีกว่า คือผมเลือกที่จะไม่พูดและเงียบๆ ไปดีกว่า อะไรประมาณนี้”

ทุกคนเชียร์ให้กลับมาคืนดีกัน
“ทุกคนนะครับ เขาหวังดีอยู่แล้วอยากเห็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว คุณป๋ารู้กันอยู่แล้ว(หัวเราะ)”

ไม่กล้าตอบว่า “แอฟ” จะใจอ่อนไหม ยอมรับสะเทือนใจที่แอฟให้สัมภาษณ์ว่ารอวันหย่า
“ไม่กล้าตอบแทน ที่เขาให้สัมภาษณ์ก็ต้องสะเทือนใจอยู่แล้ว ผมไม่โกหกนะ ถูกไหม แล้วเราใช้ชีวิตด้วยกันอยู่ 7-8 ปี เรามีความผูกพัน วันหนึ่งเขาพูดมาแบบนี้เราต้องรู้สึก (ยังรอให้แอฟใจอ่อน)มันเลยจุดนั้นมาแล้ว”

ยอมรับเจ็บปวดถึงขั้นน้ำตาไหล “แม่” เข้ามาปลอบมีอะไรขออย่าเก็บไว้
“ก็มีทีนึงครับ ก็ตอนที่แม่ผมเดินมาบอกว่ามีอะไรก็คุยได้นะ ไมต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้ พอได้ฟังคำนี้เราก็เสียน้ำตาไปตอนนั้นเลย (ตาเริ่มแดง) มันไม่ใช่แค่ผมเลิกกับแอฟแล้วทุกอย่างจะจบ แต่มันเกิดเอฟเฟกต์ไปกับทุกคนรอบข้างเป็นวงกว้าง ซึ่งถ้าเราเลิกกันมันก็จบกันแค่ 2 คน แต่มันรวมไปถึงมีพ่อแม่ปู่ย่าตายายรวมไปถึงลูก คือเราไม่สามารถจะจมอยู่ตรงนั้นได้ เราต้อง move on ไป”

สถานะวันนี้คือเพื่อน แม้วันนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อน แต่ก็พร้อมจะเป็นที่พึ่งให้ “แอฟ” เสมอ
“เป็นเพื่อนกันก็ได้ครับ ผมไม่เคยโกรธอะไรเขาเลย เขาเป็นคนที่มอบแต่สิ่งดีๆ ให้ผม แต่วันหนึ่งมันไปด้วยกันไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับ แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อน ผมก็บอกเขาเสมอว่า ถ้าเขาต้องการอะไร ผมพร้อมจะเป็นที่พึ่งให้เขาเสมอครับ”

ผู้สื่อข่าวถามตรงๆ วันนี้เรายังรักแอฟในฐานะภรรยาอยู่ไหม?
“(หัวเราะ) ไม่ตอบได้ไหม”

อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วแต่ก็จะดูแลอย่างเต็มที่
“ก็เดี๋ยวต้องหาคำอธิบายที่ให้เขาเข้าใจที่สุด ว่าถึงแม่พ่อกับแม่อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ได้พร้อมหน้ากัน แต่ปีใหม่ไม่ต้องห่วงนะ เราให้เต็มที่อยู่แล้ว บางทีเราไปเที่ยวกันสองคน แล้วมันมีความสนุกเกิดขึ้น เขาก็จะบอกเราว่าป๊ะป๋าชวนมามี้มาด้วยสิ (หัวเราะ) เขาก็จะมีถามถึง ก็ช่วงแรกๆ ก็มีความเสียใจแต่มันก็ผ่านมาแล้ว”

ไม่ปิดกั้นทำกิจกรรมครอบครัวพร้อมหน้ากัน พ่อแม่ลูก
“อันนี้ผมไม่ได้ปิดกั้นอะไรเลย คือแบบว่าเราสองคนก็มีหน้าที่ความเป็นพ่อความเป็นแม่อยู่แล้ว”

วันหนึ่งหากใครซักคนจะเดินเข้ามาแทนที่ “แอฟ” ต้องถามว่า ยอมรับสภาพที่ “สงกรานต์” เป็นได้หรือเปล่า
“ต้องถามคนที่เข้ามาว่าเขารับกับสภาพที่ผมเป็น หนึ่งขาก็พิการ ร่างกายก็เข้าเฝือกหมด ตำหนิเพียบทางกายภาพ และมีตำหนิอีกเรื่องทางทะเบียนราษฎร ต้องถามว่าเขาโอเคไหม”

โต้ข่าวจีบ “แมท ภีรนีย์”
“ผมตอบคำถามนี้เยอะมากเลยครับว่าจริงๆ ไม่มีอะไร (หัวเราะ) ไม่เคยเจอกันเลยครับ แต่ถามว่าผมงงไหม ไม่ได้งงอะไร เพราะผมเจอข่าวแบบนี้มาบ่อยแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ระหว่างแต่งงานอยู่ ก็มีข่าวแบบนี้ออกมาเหมือนกัน ก็ขอโทษมิ้นต์ด้วย ที่ทำให้เขาซวยไปด้วย ที่ถึงแม้เขาจะไม่ทำอะไรก็ตาม ไม่ได้มีการพูดคุยนอกรอบกับแมทเลย”

เผย 3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นมรสุมชีวิต
“คือมีอยู่ช่วงหนึ่งเราเจอมรสุมต่างๆ ทั้งตอนนั้นที่โครงการต้องขึ้นหลายๆ โครงการ มันยุ่งมากยุ่งที่สุด รวมไปถึงขาก็ทะลุ เจอเรื่องเยอะมากภายใน 3 ปี มันก็เลยทำให้เราไปไหนไม่ได้ ไม่ได้เป็นเคราะห์กรรมอะไร เกิดมาพ่อแม่ดูแลยังดี สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะตัวเองทั้งนั้น (หัวเราะ) ผมไม่โทษใครหรอกครับ”

“คือผมพูดอะไรออกไปก็คงไม่มีคนเชื่อ ผมขออนุญาตพูดถึงปีใหม่แล้วกันครับ อีกหน่อยเขาอาจจะได้ดูจะบอกว่า ป๊ารักหนูมากนะ หนูไม่ต้องห่วงอะไร ถึงแม้ว่ามันจะมีปัญหาไม่ได้อยู่กับมามี้ได้ตลอด แต่ไม่ต้องห่วงป๊าจะเติมในส่วนที่ขาดให้เต็มตลอดไม่ต้องห่วงนะ”