หมอวินิจฉัย แม่อยู่ได้ 72 ชม. “เอกชัย” ไม่ยอมให้แม่ตาย เดินสายทำบุญ บวชพระ ฟื้นราวปาฏิหาริย์ เผยมีเงินเป็นล้านก็สู้ไม่ได้ ตั้งเป้าจะบวชพระทุกๆ ปี และจะบวชหลังอีกแม่ออกจากรพ. โอดเพิ่งผ่าตัดลำไส้ออก เหตุอั้นอึ-ฉี่มานานกว่า 30 ปี ยอมรับอยากอุปการะ “โค้ชเอก” ทีมหมูป่า ทำดีไม่ต้องสนดรามา
ประสบความสำเร็จจากหนังเรื่องเทริด ภาพยนตร์ปลุกกระแสมโนราห์ภาคแรกจนเป็นที่น่าพอใจ เลยทำให้นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่ “เอกชัย ศรีวิชัย” ตัดสินใจทำภาคสองต่อ ในชื่อมโนราห์ ผลิตโดยค่ายเอ็มพิคเจอร์ส ล่าสุดก็ได้เปิดกองให้สื่อเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศถ่ายทำโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ณ สตูดิโอ One Shot ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าเรื่องนี้จริงๆ จะถือเป็นต้นกำเนิดของมโนราห์ เพราะสร้างให้เห็นถึงความเป็นมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่ใช่เชิงสารคดีแน่นอน เพราะมีหลากหลายทุกอารมณ์
“อันนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองที่ได้กำกับภาพยนตร์จริงๆ จังๆ และเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาจากเรื่องแรกด้วยเรื่องเทริดนะครับ ภาคนี้ก็เลยตั้งชื่อว่ามโนราห์ ซึ่งดูแล้วมันบันเทิงมากขึ้น จริงๆ ภาคนี้น่าจะเป็นภาคแรก เพราะว่ามันกลับไปเล่าเรื่องราวของความเป็นที่มาที่ไปของคนที่จะใส่เทริดได้ แล้วก็ให้เห็นถึงต้นกำเนิดของมโนราห์และคนที่สวมเทริดจริงๆ ว่าคือใคร มาจากไหน ยังไง”
“ในส่วนของเรื่องความรักต้องบอกว่าในเรื่องของวัฒนธรรมถ้าคนที่มองจากข้างนอกอาจจะมองว่าน่าเบื่อ เหมือนเรานั่งดูสารคดีอะไรสักอย่าง ตอนเทริดภาคแรกก็เห็นแล้วมันไม่ใช่เป็นเรื่องราวที่นำสื่อสาระเกี่ยวกับวัฒนธรรมอย่างเดียว แต่พอมาภาคนี้มันเป็นความรักของเด็กรุ่นใหม่ที่ข้ามภพข้ามชาติแล้วมาเจอกัน แต่ถ้าความรักไม่เกิด วัฒนธรรมมันก็จะไม่เกิด มโนราห์คนแรกก็จะไม่มี”
“จริงๆ ความเป็นมาของมโนราห์มันมีเยอะมากเลย แล้วแต่ว่าเราจะหยิบของใครมาเล่า ตัวเราเองที่เรียนมโนราห์มาตั้งแต่เด็กก็รับคำบอกเล่าจากพ่อว่าคณะโนราห์โน่นนี่ก็จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ชื่อของตัวละครมันก็จะกลับไปกลับมากันนิดๆ หน่อยๆ อย่างเช่น เกาะสีกะชังที่โดนลอยแพไป บางคนก็เรียกเกาะสีชัง บางคนก็เรียกเกาะชัง ชื่อแต่ละคนก็จะไปคนละนิดละหน่อย”
“แต่ผมเลือกที่จะเล่าในตำราของพ่อขุนอุปถัมภ์นรากร แต่เราก็มาดัดแปลงเรื่องของเส้นความรักให้มันดูเป็นภาพยนตร์มากขึ้น แต่ไม่ได้เสียหายเรื่องของประวัติศาสตร์ของโนราห์แต่อย่างใด ยังคงเป็นเรื่องราวของโนราห์ตามแบบฉบับที่พ่อขุนอุปถัมภ์นรากรเขียนเล่าไว้ เพียงแต่ผมมาใส่เรื่องของความรักให้มันฟินน่ะ”
เสื้อผ้าย้อนยุค 112 เอาแฟนตาซีเป็นที่ตั้ง เพราะไม่มีใครบอกได้ว่ายุคนั้นแต่งตัวกันยังไง
“เสื้อผ้าจะมีสองภพ ณ ปัจจุบันก็จะเป็นเสื้อผ้าปัจจุบัน แต่เมื่อข้ามไปเมืองสติณปุระ คือเราทำรีเสิร์จในยุคนั้นว่าเมื่อยุค 112 มันไม่มีใครยืนยันอะไรได้เลยว่าเสื้อผ้าต้องเป็นแบบไหนยังไง เพราะฉะนั้นผมก็แค่คิดเอาว่าในยุคนั้นวัฒนธรรมของชมพูทวีปมันเข้ามาเยอะมาก เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าในยุคนั้นก็ควรจะมีกลิ่นของชมพูทวีป กลิ่นของอินเดียเข้ามาเป็นแนวคิด ก็เลยมีกลิ่นไปในทางนั้น”
“แต่เอาเข้าจริงๆ ปี 112 ไม่รู้ใครตัดเย็บ (หัวเราะ) ไม่รู้เขาแต่งกันยังไง ไม่รู้เขาตัดกันยังไง คือถ้าว่ากันตามยุคจริงๆ แล้วหนังจีนโปเยโปโลเยก็คงเสื้อผ้าสวยแบบนั้นไม่ได้ ก็ยุคโบราณเหมือนกัน แต่เสื้อผ้าสวย เราก็เอาความเป็นแฟนตาซีและความสวยงามเข้ามาเป็นที่ตั้งครับ อย่าไปมองว่าอันนั้นผิดมั้ย อันนี้ผิดมั้ย เพราะเอาจริงๆ คนในยุค 112 ก็ไม่มีใครมาเล่าให้เราฟังได้ แต่เราความบันเทิง ความสนุก แถมด้วยได้ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์และศิลป์เกี่ยวกับแขนงมโนราห์ คิดว่าจะได้ดูกันวันที่ 18 ตุลาคมนี้ทั่วประเทศและในอาเซียนทั้งหมด จะได้ไปฉายเที่ยวนี้แหละ จะได้ไปพูดภาษาฝรั่งเศสภาษาอังกฤษกับเขาบ้างแล้ว (หัวเราะ)”
เผยเพิ่งไปผ่าตัดลำไส้ออก เหตุเพราะอั้นทั้งปัสสาวะและอุจจาระมานานกว่า 20-30 ปี
“ก็ไปผ่าตัดลำไส้ออก เพราะมันอักเสบบ่อยจนกระทั่งเมื่อก่อน 1 ปีครั้ง แล้วก็มา 5-6 เดือนครั้ง แล้วก็ 2 เดือนครั้ง ตอนนี้เดือนนึงเป็น 2-3 ครั้งแล้ว เกิดจากที่เราเป็นคนอั้นทั้งปัสสาวะและอุจจาระ เพราะเวลาอยู่หลังเวทีคอนเสิร์ตมันไม่มีห้องน้ำ และเป็นคนที่นั่งห้องน้ำสาธารณะไม่ได้ ต้องเป็นห้องน้ำที่เรานั่งแล้วเราสบายใจ คือปัจจุบันนี้นั่งห้องน้ำที่ต้องนั่งยองๆ ไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องอั้นๆ เอาไว้ ก็เป็นอย่างนี้มา 20-30 ปีแล้ว มันก็เลยทำให้มีการติดเชื้อ พอติดเชื้อบ่อยๆ เข้าก็ให้ยาฆ่าเชื้อ พอยาฆ่าเชื้อหมดก็กลับมาเป็นอีก คุณหมอก็เลยบอกว่าเอาออกเถอะ ก็เอาออกไปประมาณฟุตกว่าๆ จริงๆ ลำไส้เรามีเยอะนะ หลายเมตรเลย ก็เลยยังไม่รู้ว่าที่ตัดไปมันจะมีผลอะไรกับร่างกายเรามั้ย เพราะเพิ่งตัดไปได้เดือนเดียวเอง”
“เรื่องที่ต้องระวัง คือผมเป็นคนที่โลดโผนนะ ชอบหัวเราะเสียงดัง ก็ลืมไปว่าเราอายุเท่าไหร่แล้วมันก็มีเจ็บจุกเหมือนกันนะ ก็พยายามเลิกอั้น ก็พยายามคิดว่าห้องน้ำนี่สะอาดหอม (หัวเราะ) ก็ต้องดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกินด้วย ก็เลือกจะไม่ทานเนื้อหมู จะกินปลามากกว่า ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงนะ แข็งแรงมาก ความดันไม่มีเลย น้ำตาลก็ปกติหมด”
ยอมรับช่วงแม่ป่วยที่ผ่านมาถือว่าแย่ที่สุดในชีวิต หมอบอกอยู่ได้แค่ 72 ชม. แต่ตนก็สู้ทำบุญทุกอย่างจนตอนนี้แม่อยู่มากว่า 24 วันแล้ว
“เรื่องคุณแม่ป่วยนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา เพราะผมเป็นคนที่ทำให้แม่ทุกอย่าง ตั้งแต่เด็กจนโตมาเราไม่เคยมีอะไรที่ทำให้แม่ไม่ได้ พอมาวันนี้แม่นอนอยู่บนเตียงแต่เราทำอะไรให้แม่ไม่ได้ เราต้องพึ่งหมออย่างเดียว ก็เลยมีความตั้งใจว่าอยากจะทำหนังสั้นเกี่ยวกับเรื่องสโตรกนี่ว่ามันเกิดขึ้นอย่างไรและแก้ไขอย่างไร ต้องทำยังไง”
“ก็ขอกับทางผู้ใหญ่ของเมเจอร์ว่าอยากจะขอฉายในโรงด้วย คนที่ได้ดูก็จะได้ดูแลพ่อแม่ผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดเราได้ จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจอย่างที่ผมเป็น อาการของโรคนี้ก็คือจะชักเกร็ง ลิ้นจุกปาก ตาเหลือก น้ำลายไหลและหมดสติ เราต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลภายใน 3 ชม. แล้วก็ทำสแกนคอมพิวเตอร์ว่าตีบหรือแตก ถ้าตีบหมอก็จะฉีดยาขยายลิ่มเลือด แต่ส่วนมากคนจะไม่รู้ว่าถ้าเลย 3 ชม.จะฉีดไม่ได้นะ เส้นเลือดจะแตก”
“อย่างของแม่ผมนี่กะระยะเวลาไม่ได้ เพราะไปเจอแม่ตอน 3 ทุ่มก็เลยไม่ได้ฉีด ก็เลยต้องปล่อยให้สมองส่วนที่ตายมันบวมให้สุด ซึ่งของแม่มันบวมจนมาทับอีกด้านหนึ่งและจะทับก้านสมอง หมอก็เลยวินิจฉัยว่าแม่น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 72 ชม. คือถ้าเป็นปกติทั่วไปทุกคนก็ต้องยอมใช่มั้ย แต่ผมไม่ยอม ผมกับน้องสาว 3-4 คนเปลี่ยนเวรกันเฝ้า และก็ออกไปทำบุญ”
“วันนึงผมทำประมาณ 8-9 วัด ไถ่ชีวิตโคกระบือ ทำทุกอย่างเพราะหมอบอกว่าแม่ไม่รอด แล้วก็บวชพระ บอกเลยว่าต่อจากนี้ไปทุกปีผมจะเป็นเจ้าภาพบวชพระ 3 นาคทุกปี ออกเงินให้เองหมดเลย เพราะเห็นผลเลยว่าพอบวชพระเสร็จ 14.05 น. แม่ฟื้นตอน 14.15 น. แม่ฟื้นกลับมาลืมตาได้ แต่ยังไม่รู้สึกตัว และจนถึงวันนี้แม่ดึงผ้าห่มมาห่มเองได้แล้ว พยักหน้าได้ ถือว่าแม่กลับมาแล้ว”
“ผมเชื่อว่าของแบบนี้มีจริงๆ เชื่อว่าแรงอธิษฐาน แรงของความรัก แรงของครอบครัวและคนใกล้ตัวที่ทำให้มีผลจริงๆ และผมบนไว้ด้วยว่าถ้าแม่หายกลับบ้านได้ผมจะบวชที่ท่าแค และจะเดินสายปฏิบัติธรรมตามวัดที่ไหว้ทั้งหมดเลย และจะปฏิบัติธรรมทุกวันพระ ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ตลอดชีวิต”
“จากที่คุณหมอบอกว่ามีเวลาอีกแค่ 72 ชม. แต่ตอนนี้ก็ผ่านมา 24 วันแล้วที่แม่อยู่โรงพยาบาล ตอนนี้แม่อยู่ที่ศิริราชครับ ถ้าแม่กลับบ้านได้เมื่อไหร่ก็มีกลองยาวดังขึ้นทันทีเลย จะบวชทันทีเลย เอาจริงๆ แล้วคนเรารวยขนาดไหน วันที่เราเจ็บป่วยนอนอยู่ในห้องเราไม่เคยขอเงินเพิ่มไม่ว่าจะกี่ล้าน ขอแค่ให้แม่เราหาย บอกได้เลยว่าสุขภาพสำคัญกว่าเงิน ฉะนั้นก็อยากบอกทุกคนว่าให้ดูแลคุณพ่อคุณแม่ให้ดีๆ ไม่อยากให้เกิดกับใครเลย เพราะเรารู้ว่าตอนเรานั่งอยู่หน้าห้องนั่นมันทรมานขนาดไหน อย่าให้ใครได้เจอเลย ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่าดูแลพ่อแม่ครอบครัวยังไง เพราะมันเกิดได้ตลอดเวลา แม่ผมแข็งแรงมาก อารมณ์ดีมาก เดินตลาดทุกวัน”
เผยยังตั้งใจจะอุปการะ “โค้ชเอก” ทีมหมูป่าอยู่ ไม่สนใครจะมาดรามาใส่ตน บอกทำดีไม่ต้องสนใจใคร
“เรื่องจะอุปการะโค้ชเอกทีมหมูป่า อันนี้มันเกิดก่อนที่แม่จะป่วย ก็ตั้งใจว่าพอเขาออกจากถ้ำก็จะไปหาเขา แต่แม่มาป่วยก่อน ทุกอย่างก็เลยทุ่มเทไปที่แม่ทั้งหมดเลย ตอนนี้ท่านก็ยังบวชอยู่ ก็ตั้งใจว่าให้แม่ดีขึ้นอีกสักอาทิตย์นึงก็จะไปหาท่าน ก็ยังมีความตั้งใจจะอุปการะอยู่ เพราะท่านเป็นเด็กน่ารักมาก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเอามาอยู่บ้านนะ การเป็นพ่อทูนหัวอยู่ที่ไหนก็ได้”
“ไม่ใช่การให้เงินด้วย แต่เป็นการให้ข้อคิด การดูแลในเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งเรื่องพวกนี้ผมมีกำลังทำได้เท่านั้นเอง ก็แบ่งความรักให้กับเขา ผมว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก เป็นต้นแบบเรื่องของความรับผิดชอบ มีสติ แต่ยังไม่มีโอกาสพูดคุยกันเลย เจอกันแต่ทางเฟซบุ๊ก ก็อยากจะไปกราบท่านเพราะพระใหม่จะได้บุญสูง”
“กระแสดรามามันมีแต่พูด ไม่สนใจหรอก ช่างมันเถอะ โลกมันมีดำกับขาวถ้าเรามัวแต่ไปหาที่มันดำตลอด ความขาวมันจะเกิดขึ้นได้ยังไง ถ้าเราไปสนใจพวกอย่างนี้ ถ้าเราจะทำอะไรสิ่งที่ดีก็ทำเถอะ ถ้าเรามัวแต่ไปฟังมันก็ไม่จบไม่สิ้นหรอกประเทศนี้หรือโลกนี้ อย่าไปให้ความสำคัญมันเลย เพราะเรารู้เจตนาตัวเราเองว่าเราอยากจะทำอะไร ถ้าเราทำเป็นแบบอย่างที่ดี และมีคนทำตามผลประโยชน์มันก็ตกแก่ประเทศชาติทั้งนั้น”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)