“อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” เปิดใจไม่กั๊ก อยากได้รางวัลจากละครเรื่องรากนครา แต่ยันไม่ยึดติด ถวายรางวัลให้เสด็จพ่อ ร. 5 ย้ำในโลกศิลปะไม่มีใครเป็นที่หนึ่ง ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ศิลปะวัดกันไม่ได้ เรียก “แต้ว ณฐพร” ถ่ายเพิ่มหนังนาคี งบบานปลายก็ไม่เป็นไร หอมแก้มเมียทีเดียวก็จบ เผยหมดเคราะห์ ลูกเรียนจบ อยากทำอะไรไม่บังคับ ตัวใครตัวมันเรื่องความคิด
เจ้าพ่อกวาดรางวัล ฟาดเรียบทุกสถาบันต้องยกให้ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ล่าสุดคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากละครเรื่อง “รากนครา” จากเวทีนาฎราช ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าทุกครั้งที่ขึ้นรับรางวัล ก็เหมือนเป็นรางวัลแรกในชีวิต
“ดีใจทุกปีอยู่แล้วครับ ดีใจทุกๆ ครั้งที่ได้มีโอกาสขึ้นมารับรางวัล ถือว่าเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกคนนะ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ผมไม่เท่าไหร่หรอก ทีมงานสำคัญที่สุด รางวัลนี้ทุกคนในทีมงานผมได้ถ่ายรูปด้วย เพราะเป็นรางวัลของการทำงานร่วมกัน”
“ผมมีความเชื่อว่างานกำกับของผมมันถ่ายทอดผ่านการทำงานของทุกคน ไม่ใช่ว่าเราต้องการและเราเก่งคนเดียว ไม่ใช่ ผมยืมมือคนเก่ง ยืมมือ ยืมเท้า ยืมความคิด ยืมการทำงานของเขามาและรวบรวมเอามาเป็นชิ้นงาน รางวัลอะไรก็ตามทีมงานทุกคนต้องได้ถ่าย”
ทำงานหนักก็อยากจะได้รางวัล
“ก็ทำงานกันหนักครับ เพราะว่ามันเป็นละครรีเมก และเราปรับแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่แล้วตรงที่ว่าทั้งเรื่องอู้คำเมืองหมดเลย ทีมงานและนักแสดงทุกคนต้องทำงานหนักครับ ก็หายเหนื่อยครับ ทำงานจริงๆ แล้วไม่ได้หวังรางวัลนะ แต่อยากได้”
ตู้แน่นก็ไม่เป็นไร เปิดใจถวายรางวัลให้เสด็จพ่อ ร.5 ทุกครั้ง ไม่ยึดติด
“ไม่เป็นไรครับ ยังมีที่ใส่ได้อีกเยอะ (ยิ้ม) มาเหอะ เก็บได้หมดแหละ ไม่ต้องห่วง จริงๆ เรียนตรงๆ เลยว่าพอผมได้รางวัลปุ๊บสิ่งแรกที่ผมทำคือผมถวายรางวัลนี้ให้กับเสด็จพ่อร.5 ทุกครั้ง เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่รางวัลเราแล้ว พอถวายให้ท่านรางวัลก็ไม่ใช่ของเรา ก็ไม่ต้องไปยึดติด เพราะวันรุ่งขึ้นเราก็ต้องทำงานชิ้นใหม่อีกที่ไม่รู้ว่าคนจะชอบมั้ย กรรมการชอบมั้ย จะได้รางวัลอีกมั้ย มันก็เปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ อย่าไปยึดติดมัน”
บอกทุกครั้งเหมือนเป็นรางวัลแรกในชีวิตเสมอ
“ถูกต้อง ดีใจ เมื่อกี้อ่านรางวัลเองยังตื่นเต้นเลย อย่าเป็นชื่อคนอื่นนะมึง กูจะอ่านชื่อกูเอง ทุกเวทีมีชื่อเรา เพราะทีมเราดีครับ พูดตรงๆ เลยว่าทีมงานผมดี ทุกคนพอได้รับมอบหมายให้ทำงานแล้วเขาคิดเยอะมากกว่าทำเพื่อเงินหรือมากกว่าทำให้ผ่านไปวันๆ เขามีการบ้านมาส่งเราทุกวัน เราก็นั่งคุยกัน เถียงกัน ถกกัน ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับทีมงานด้วย”
ศิลปะวัดกันไม่ได้ ใครเก่งกว่าใคร
“ศิลปะมันวัดกันไม่ได้นะว่าใครดีกว่า ใครเก่งกว่าใคร ผมเรียนให้ทราบตรงๆ ก็ไม่มีใครทำเรื่องรากนคราในปีนี้ เราเจ้าเดียวที่ทำ ถ้าทำเรื่องเดียวกันแล้วมาแข่งกันมันยังพอวัดกันได้ ทุกคนก็ทำงานศิลปะที่แตกต่างกันไป ละครแต่ละเรื่องมันไม่ได้หมายความว่าเรื่องนึงดีกว่าหรือไม่ดีกว่าเลย ผู้กำกับก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผู้กำกับคนนี้เก่งกว่าหรือไม่เก่งกว่าเลย”
“เพียงแต่ว่ากรรมการชอบใครมากกว่า เราไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินรางวัลตรงนั้น ดังนั้นหน้าที่ของเราผมเชื่อว่าทุกคนคิดเหมือนกันก็คือทำให้มันดีที่สุด ได้ไม่ได้มันอีกเรื่องนึง ใครก็อยากได้รางวัล เพียงแต่ว่า ณ วินาทีที่เราทำงานเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด อันนี้สำคัญกว่าและสำคัญที่สุดคือต้องมีความสุขในการทำงาน”
ไม่มีที่หนึ่งบนโลกศิลปะ มีแต่ใครชอบ-ไม่ชอบ
“มันไม่มีที่หนึ่งบนโลกของศิลปะ ไม่มีใครเก่งกว่าใคร มีแต่ใครชอบไม่ชอบ และคนที่ชอบมีอำนาจในการตัดสินรางวัลก็จะมอบให้สิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะฉะนั้นศิลปะมันเท่ากันหมด ในความเป็นศิลปินทุกคนมีคุณค่าเท่ากัน และชิ้นงานของพวกคุณแต่ละคน ผมเชื่อว่ามีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ต่างกันเลย เพียงแต่ว่าใครได้เท่านั้นเอง ใน 1 ปีนี่ละคร 40-50 เรื่องเป็น 100 เรื่องผมว่าคุณค่าทางศิลปะมันเท่ากัน สำคัญที่สุดคุณจะรู้คำตอบเองว่าในขณะที่คุณทำงานคุณชุ่ยไม่ชุ่ย คุณตั้งใจไม่ตั้งใจ และคุณมีความสุขกับมันมั้ย มันมีคำตอบอยู่แล้วครับ ในความเป็นศิลปินผมยังนิยมชมชอบและชื่นชมกับชิ้นงานของเพื่อนๆ เราทุกคน ใครจะขึ้นมารับก็ช่างมันเถอะ”
ต.ค. หนัง “นาคี” เข้าฉาย โอดโดนด่า ทำซีจีไม่จบ
“วันฉายยังไม่รู้ แต่ประมาณช่วงตุลาคมครับ เมเจอร์เป็นคนวางโปรแกรมครับ เราไม่เกี่ยว ตอนนี้ก็ไล่ทำซีจีให้มันเสร็จ โดนด่าอยู่เนี่ย มันยากนะ มันไม่จบหรอกจนกระทั่งผมปล่อยให้ทีมงานทำเลย เพราะพวกนี้เขาทำงานละเอียดฝุ่น ขี้ไคล น้ำลายอะไรต่อมิอะไร เขาใส่ละเอียดยิบเลย เพราะฉะนั้นต่อให้ไม่บอกให้หยุดมันก็ไม่หยุดหรอก เขาอยากทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ทีมงานสำคัญครับ ถ้าทุกคนมีหัวใจเดียวกันมันไปด้วยกันได้หมดแหละ ไม่ได้ทำเพราะเงิน ไม่ได้ทำเพราะชุ่ย ตั้งใจทำให้มันดี ผมว่าไม่ต้องมานั่งพูดอะไรกันเยอะ”
เรียก “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ถ่ายหนังนาคี “เพิ่ม เผยงบบานปลายก็ช่าง หอมแก้ม “แดง ธัญญา วชิรบรรจง” ทีเดียวก็หายโกรธแล้ว
“กำลังครับ มันไม่มีปิดไม่มีเปิดกล้องหรอก พอผู้กำกับมันคิดอะไรได้ มันอยากได้ตรงนี้ มานั่งดูตอนตัดต่อแล้วอยากได้อีกก็ลองเติมๆ เข้าไป ก็บอกเขาครับ แต่ถ่ายเพิ่มไม่เยอะ นิดเดียว (แดง ธัญญาบอกว่างบบานปลาย?) พูดทำไมล่ะ เอาน่า ทำให้มันดี จ่ายหน่อยก็ช่างมัน คนจ่ายเงินหอมแก้มทีเดียวก็หายโกรธแล้ว ไม่มีปัญหา”
หมดเคราะห์ซะที ลูกเรียนจบ อยากทำอะไรไม่บังคับ เป็นตระกูลตัวใครตัวมันเรื่องความคิด
“เขาก็ดีใจนะ ผมเองก็ดีใจ หมดเคราะห์ไปสักที จ่ายตังค์ปีนึงๆ ก็ได้รูปมานี่แหละ วันนั้นก็มีความสุข คนเป็นพ่อแม่เนอะลูกเรียนจบ ลูกบวช ลูกแต่งงาน มันก็มีความสุข อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีๆ กับเขาเราก็มีความสุข ยิ่งอะไรที่ฝ่าฟันกันมา กว่าจะส่งเรียนจบก็ดีใจอยู่แล้วครับและภูมิใจกับเขา ก็ตั้งมั่นไว้ว่ามันต้องมารับใช้เรา เราจะใช้งานมัน แต่ไม่บังคับนะ”
“คือตระกูลผมเป็นตระกูลที่ตัวใครตัวมันอยู่แล้วในเรื่องความคิด เขาจะคิดอยากทำอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้าเขามาทำในสิ่งที่เราทำอยู่มันก็ต่อยอดไป แต่ถ้าเกิดเขาอยากจะไปทำอะไรใหม่ก็เรื่องของเขา แต่เขาเรียนมาทางด้านนี้อยู่ แต่ลูกชายผมเรียนด้านฟิล์ม ลูกสาวก็เรียนทางด้านอาร์ตเหมือนกัน ก็คุยกันเยอะนะ เขาก็จะบอกว่าป๊าอย่าล้าสมัยนะ (ยิ้ม) เขาก็จะให้เราดูโน่นนี่”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)