ชีวิตจริงเน่ากว่าละคร “จุ๊บแจง วิมลพันธ์” รักแท้แพ้กะเทย เผยเป็นฉากๆ นาทีจับอดีตผัวซ่อนชู้เด็กฝึกงานสาวประเภทสอง ควงเย้ยกินตับที่ฮ่องกง โรงแรมเดียวกับที่เคยไปกับตน พาไปสวีตสถานที่เดียวกับตนหวังเปิดตัว เขียนพรรณนาถึงกันชวนอ้วก รับใจสลาย ท้อแท้ อยากฆ่าตัวตาย แต่เชื่ออีกฝ่ายอาจเป็นได้แค่ผัวน้อย เพราะเคยเมาท์สาวประเภทสองมีเสี่ยเลี้ยง รับจ๊อบเด็กนั่งดริ๊งค์ บอกอดีตสามีมีกลิ่นเบี่ยงเบน เคยสารภาพถูกผู้ชายจึ๊กๆ กะเทยเลี้ยง แต่ยอมโง่เพราะรัก รับจ้าง 2 แสนแลกหย่า ตรวจเลือดป้องกันตัวเอง
ไม่ปล่อยให้ค้างคาใจกันนาน หลังจากที่มีอักษรย่อหลุดว่า ดาราดังหย่าสามีโปรดิวเซอร์ ปิดฉากรัก 21 ปีเหตุฝ่ายชายนอกใจ ไปกินตับสาวประเภทสอง ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานถึงฮ่องกง แถมยังเอาข้าวของเมียหลวงเปย์เมียน้อย โดย “จุ๊บแจง วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ” ซึ่งโด่งดังจากบท “จวง” ในละคร “บุพเพสันนิวาส” ก็ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกถึงเรื่องราวดังกล่าว ชนิดน้ำเน่ายิ่งกว่าละคร
“ถามว่าทำไมถึงออกมาพูดเรื่องที่เกิดขึ้น จริงๆ แล้วอยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ บางทียังมีสังคมที่ผู้หญิงถูกกระทำแบบนี้ แล้วอยู่ในมุมมืด อยู่ในหลืบที่คิดว่าถ้าเกิดบอกแล้วสังคมจะรับได้มั้ย คนข้างนอกจะรับได้หรือเปล่า เพราะผู้หญิงบางคนอาจจะโดนกระทำแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ยุคสมัยต่างๆ อาจจะรับได้ ไม่ว่าจะเป็นสาววาย หนุ่มวาย หรือสาวประเภทสอง แต่เราก็อยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับผู้หญิงที่โดนแบบนี้ ชีวิตของเราต้องอยู่ได้ ต้องก้าวต่อไป เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจและครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน”
“เหมือนเราช่วงหนึ่งก่อนที่จะจับได้ พอจับได้เดือนพฤษภาคมมันเหมือนโลกนี้ทั้งใบเราอยู่คนเดียว มันรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง อยากจะหลับไปโดยไม่ตื่น เราเคยคิดว่าเราจะฆ่าตัวตาย แต่พอเราหันไปมองมีครอบครัว มีคนรอบข้าง มีเพื่อน มีทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาเป็นกำลังใจ มันเลยทำให้เราฮึดสู้ค่ะ”
สุดช้ำ ขึ้นรับรางวัลจากละครบุพเพสันนิวาส เป็นวันที่หัวใจสลาย จับได้ผัวนอกใจคบสาวประเภทสอง หนีกันไปกินตับที่ฮ่องกง
“อดีตแฟนบอกว่าจะไปดูโลเกชั่นถ่ายที่เขาใหญ่ ถ้าดูเสร็จเขาจะกลับมา เขาก็ส่งข้อความมาบอกเราว่ากำลังจะขึ้นรถแล้ว เดี๋ยวพอถึงที่หมายจะส่งข้อความบอก ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เราขึ้นรับรางวัลบุพเพสันนิวาส นักแสดงหญิงสมทบ และคนรอบล้อมเราเต็มเลย พอเวลาผ่านมาถึงบ่าย 3 แล้ว ทำไมอดีตแฟนถึงยังไม่โทร.หา เราก็เลยโทรไป ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ จนถึงเกือบเที่ยงคืน เราเลยพูดกับแม่ว่าคนหายไปเกือบจะ 24 ชม. ไปแจ้งความเถอะ”
“หลังจากที่เตรียมตัวจะออกออกจากบ้าน มีข้อความส่งมาจากเขาว่า พี่ขอไม่กลับบ้าน 2-3 วันนะ พี่มีเรื่องเครียดเกี่ยวกับเรื่องงาน พี่ขอไปทบทวนอะไรบางอย่าง ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องร้องไห้ กลับมาพี่จะบอกทุกสิ่งทุกอย่าง และจำไว้ว่าพี่เป็นห่วงเรามาก นี่คือข้อความเดียวที่ได้”
“และคนที่รอ 4-5-6 มันก็เริ่มสับสนว่าเกิดอะไรกับชีวิต เราทำอะไรผิดเหรอ หรือมีปัญหาเรื่องงาน เราก็ร้องไห้ ส่งข้อความไปหาเขาก็ไม่ตอบ ติดต่อไม่ได้เลย จนวันอาทิตย์ประมาณช่วงบ่ายๆ น้องชายถามว่านี่ใช่โน้ตบุ๊คของพี่เขาหรือเปล่า เราก็บอกใช่ น้องก็เลยเปิดและไปคุ้ยในถังขยะที่เขาลบไปแล้ว”
“ปรากฏว่าเขาจองตั๋วไปฮ่องกง เราก็เอะใจเพราะชื่อไปกับผู้ชาย Mister แต่ชื่อเป็นผู้หญิง และไปพักโรงแรมที่เราเคยพัก เป็นเตียงเดี่ยวด้วย เราเปิดหาดูรูปก็ไม่มีในนั้น แต่อยู่ในโครงงานจึงทำให้เรารู้ว่าน้องคนนี้เป็นสาวประเภทสองที่เป็นน้องฝึกงานที่ช่อง ซึ่งตอนแรกๆ น้องคนนี้ยังมาทักทายเรา ช่วงละครบุพเพดัง มาขอถ่ายรูป แล้วเขาจะบอกได้ยังไงว่าเราไม่รู้ว่าเราเป็นแฟนกับอดีตแฟนของเรา มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด”
เห็นข้อความที่พรรณนาถึงชู้ถึงกับมือไม้สั่น ถามกลับตัวเอง นี่ใช่สามีเราเหรอ
“วันนั้นที่รู้ โอ้โห สิ่งแรกที่คิดเลยคือเราโทษตัวเองว่า เราบกพร่องในหน้าที่หรือเปล่า เราทำหน้าที่ของภรรยาหรือแฟนไม่ดีหรือเปล่า เราบ้าทำงานมากเกินไปหรือเปล่า เราก็ร้องไห้ เราไปเปิดดูในโน้ตบุ๊คเห็นรูปเขาที่ไปแปะในไฟว์โครงงานต่างๆ ไปกินข้าว ไปเดินเล่น ไปนู่นไปนี่ แอบถ่ายในห้องเอ็มซีอาร์ตอนเขาฝึกงานทุกช็อตไว้ และที่สำคัญเขียนไดอารี่ที่มีการพรรณนาถึงกันไว้ว่า เจอกันตั้งวันที่ 9 ม.ค. เห็นครั้งแรกชวนมาทำรายการก็ไม่มา พอวันที่ 11 ทนไม่ไหว ส่งสติ๊กเกอร์วันพระไปให้ วันนี้เด็กโทร.มาลาป่วยเลยเอาช็อตโกแลตไปให้ กินข้าวด้วยกันวันแรกรู้สึกเขินสุดๆ ซึ่งมันไม่ใช่แฟนเราเลย ผู้ชายอายุ 50 กับเราไม่เคยเป็นเลย เราเลยรู้สึกว่ามันใช่เหรอ ดูแล้วมันมือสั่น ร้องไห้ ทรุดลงไปเลย”
“วันนั้นเรารู้ไฟลต์กลับของเขา เราตามไปที่แอร์พอร์ตได้นะ แต่เราให้เกียรติเขา ซึ่งวันนั้นเขาก็ไม่กลับบ้าน เช้ามาเราก็สามารถตามไปที่ออฟฟิศที่ทำงานได้ เพราะเราเป็นพิธีกรช่องนั้น แต่เราก็ให้เกียรติที่ทำงาน เจ้านาย และตัวเขา”
“พอเขากลับมาก็เหมือนไม่พูดอะไร แม่ก็ถามเขาว่าไปไหนมา จุ๊บไม่สบายเข้าโรงพยาบาลเป็นห่วงมาก เขาก็ไม่พูดอะไร กินข้าวเสร็จก็ขึ้นห้องไป เราก็ถามเขาว่ามีปัญหาอะไรที่ทำงานหรือเปล่า ถ้ามันไม่ดีก็ออก หรือมีปัญหาอะไรกับเราหรือเปล่า ยื้อกันเกือบครึ่งชั่วโมง เราเลยตัดสินใจบอกไปว่า ฉันรู้แล้วว่าเธอหนีไปฮ่องกงกับน้องคนนั้น เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง เธอแอบไปคบกับสาวประเภทสอง หลอกฉันทำไม เธอเป็นแบบนี้ได้ยังไง เธอทำผิดไปแล้วนะ 20 ปี เธอปล่อยเวลาให้มันยาวไป อีกอย่าง 20 ปี ฉันมีคนในชีวิตเข้ามาเยอะแยะมากมาย ไม่เคยนอกใจเธอ แต่ตลอดเวลา เธอนอกใจฉัน”
ลั่นยอมก้มหัวกราบ 2 ครั้ง ขอร้องให้กลับมาเป็นครอบครัว แต่รับไม่ได้ นอกใจครั้งที่ 3 กับกะเทย
“ครั้งแรกและครั้งที่สองเป็นผู้หญิง เราไปกราบเขา กอดเขา ขอกลับมาเป็นครอบครัว และมีครั้งสองต่อมา แต่ครั้งสามมันหนักสุดไง เป็นสาวประเภทสอง เราเลยรับไม่ได้ และถามไปว่าแล้วเธอจะเอายังไงกับชีวิตคู่ของเรา เขาก็บอกว่า เขาขอออกไปอยู่ข้างนอกแล้วกัน ขอไปใช้ชีวิตที่เขาเหลืออยู่”
“แรกๆ เราก็เสียใจนะ ร้องไห้ คิดว่าคนที่เพิ่งเคยเจอกันแค่ 2-3 เดือน กับคนที่อยู่กันมา 20 ปี มันไม่มีความหมาย ความผูกพันอะไรเลยเหรอ ความทุกข์ยากลำบากที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามันไม่มีความหมายเลยเหรอ เขาบอกว่าเขาคลิกกัน คนนี้ถูกใจ เขาชอบ เขารู้แต่ว่าเขาขอโทษ เขาชอบเด็กคนนี้มาก เขาบอกเราว่าเขายังถามเด็กคนนี้เลยว่าทำของใส่เขาหรือเปล่า ตลกป่ะ”
“เราก็บอกเขาไปว่าอยากไปฮ่องกงทำไมไม่บอกฉัน เพราะเดี๋ยวฉันจะต้องไปถ่ายรายการและเธอก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว เขาตอบมาว่า น้องเขาอยากไหว้พระ พูดทำร้ายจิตใจเรามาก”
“เราถามว่าเขามีอะไรเกินเลยกันหรือยัง เขาบอกไม่ได้มีอะไรกัน ณ ปัจจุบันนี้ วินาที เขาก็บอกว่ายังไม่ได้มีอะไรกัน ถามว่าเชื่อมั้ย ไม่ มันคงเสร็จตั้งแต่แรก อุ้ย! ไม่ใช่ (หัวเราะ)”
เผยอดีตผัวเคยสารภาพ ถูกผู้ชายจึ๊กๆ แต่คิดว่าเป็นเรื่องอดีต เคยถูกเตือนว่ามีกลิ่น เป็นผัวสาวประเภทสอง แต่ตนก็ไม่ฟัง
“ใช่ ก็คือว่าตอนแรกเราก็ไม่คิด ตอนแรกเราก็สับสนว่าหรือว่าเขาลองแล้วติดใจ แต่ปรากฎว่าเรามองย้อนกลับไปต่อจิ๊กซอว์ต่างๆ ก่อนที่เราจะคบกัน เขาก็เคยมาสารภาพกับเรา ว่าสมัยก่อนเขาอยู่กับเพื่อนที่เป็นเก้ง อยู่ห้องเดียวกันแล้วคนนี้ก็กวนเขาทั้งคืน เขาก็เลยบอกอยากจะทำอะไรก็ทำ จะได้นอนสักที เราก็คิดว่านั้นคือเรื่องอดีต เพราะว่าปัจจุบันนี้เราโอเค”
“แล้วก่อนที่เราจะคบกันอีก ตอนที่ศึกษากัน ก็มีพี่ๆ ในวงการบันเทิงที่เป็นสาวประเภทสอง เขาก็เตือนว่าเขามีกลิ่นนะ แล้วก็บอกว่าคนนี้มีคนเลี้ยงเขานะ เขาเป็นผัวของสาวประเภทสองนะ เราก็มาถามเขา ว่าเธอเคยเป็นผัวของสาวประเภทสองมั้ย มีสาวประเภทสองเลี้ยงใช่มั้ย มีคนบอกฉัน อดีตแฟนเราเขาก็บอกว่าฉันเดินกับพี่ๆ สองประเภทสองเยอะ คนก็เลยมองเขาไปแบบนี้ เราก็โอเคอาจจะเป็นการเมาท์กัน เวลาพิสูจน์คน เราก็คิดแบบนั้น แล้วมันก็พิสูจน์มาเรื่อยว่าครั้งแรกก็คือนอกใจไปหาผู้หญิง ครั้งที่สองก็ผู้หญิง แต่ครั้งที่สามเป็นสาวประเภทสอง แรกๆ เราก็สับสน คิดว่าถ้าเป็นผู้หญิงเราก็คงจะกลับไปคืนดี เพราะว่าครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองเราก็ไปกราบขอให้กลับมาเป็นครอบครัว”
ยอมโง่เพราะความรัก
“ความรักไง ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามนะ ทุกวันนี้ก็ยังพูดแบบนี้ ถึงเราจะเจ็บมาเยอะ คือทุกคนมีความรัก เพราะเราเป็นผู้หญิงทำงาน เราโหยหาความรักมาเติมเต็ม พ่อเราเสียไปตั้งแต่ม.4 เขาเป็นฮีโร่ของเรา มาดูแลเหมือนเป็นพี่ชายคนโตของที่บ้าน เพราะยิ่งเราเป็นพี่สาวคนโต เราจะรู้สึกว่าเราต้องการคนมาช่วยเรา มาเป็นกำลังใจให้เรา เราก็เลยรู้สึกว่าพอจะเสียเขาไป เราเหมือนคนที่ล้มทั้งยืน”
ท้อแท้จะฆ่าตัวตาย แฉฝ่ายชายพยายามเปิดตัว ควงกันไปทุกที่ที่เคยไปกับตน
“ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มันท้อแท้ ไปทำงานก็เหมือนไม่มีจิตวิญญาณ แต่ว่าพอ 5 4 3 2 ความเป็นนักแสดงมันห้ามป่วย ห้ามเจ็บ ห้ามตาย เราต้องทำได้ เพราะกองนัดแล้ว คิวอีเวนต์รับแล้ว แต่เหมือนกับเราไม่มีกำลังใจ วันนี้อยู่ดีๆ บ้าร้องไห้ๆ อีกวันรู้สึกเข้มแข็งแล้ว อีกวันรู้สึกเหงาเหลือเกิน ช่วงแรกๆ สถานที่ต่างๆที่เคยไปด้วยกันไม่กล้าไปเลยนะ กลัวว่าเจอมั้ย กลัวเขามาด้วยกันแล้วเราจะทำใจได้หรือเปล่า แต่เขาพยายามเปิดตัวกับสาวประเภทสอง ร้านไหนที่เราไปกินข้าว ไปเดินเล่น เขาก็พาไป ซึ่งทุกคนก็กลับมาบอกเราหมด”
ถูกเขี่ยออกจากรายการหน้าตาเฉย
“เขาเขี่ยเราออกจากรายการนั้นแล้ว โดยให้เหตุผลกับผู้ใหญ่ว่า พี่จุ๊บแจงมีงานเยอะแล้ว พี่ครับไหวมั้ยครับไหวมั้ย หมายถึงพี่ที่ทำพิธีกรด้วยกันอะ ที่เป็นผู้บริหาร พี่ไหวมั้ย ถ้าพี่ไม่ไหวไม่เป็นไร ก็คือว่าจุ๊บแจงเขามีงานเยอะอยู่แล้ว เดี๋ยวเขาจะทำรายการกับเจ้าของช่องอีกคนหนึ่ง แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวเขาก็มีรายการ แล้วเราก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะได้ไม่ต้องทำ แล้วปรากฎว่าผ่านมาเดือนหนึ่งผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่เคยเห็นจุ๊บแจงเลย มาถ่ายหรือเปล่า อดีตแฟนเขาก็บอกว่ามาอัดแล้ว 2-3 เทป แต่จริงๆ คือเราไม่เคยได้ไปอัด เขาพยายามเขี่ยเราออกไป”
“เราเทิดทูนเขามาตลอด แต่เขากลับมาเขี่ยเราทิ้ง มันเจ็บทุกอย่าง เจ็บด้วยคำพูด ด้วยความรู้สึก ด้วยการกระทำ ด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง เจ็บมาก ตอนแรกไม่กล้าบอกเพื่อนๆ รอบข้าง กว่าทุกคนจะรู้เขาก็ออกจากบ้านไปแล้วนะ เขาออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอก คือไม่กล้าบอกใครมันเป็นเรื่องที่น่าอายนะ เพราะสิ่งแรกของผู้หญิงคือบกพร่องในหน้าที่หรือเปล่า ยุคสมัยนี้ 4.0 แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตคู่ เราก็คิดว่าเราบกพร่องมั้ย เราบ้าทำงานไปหรือเปล่า”
ยันเรื่องบนเตียงไม่มีปัญหา โร่ตรวจเลือด แฉกิ๊กอดีตผัวก็มีผัว อีกฝ่ายอาจเป็นได้แค่ผัวน้อย แถมเคยแฉเอง รับจ๊อบเด็กนั่งดริ๊งค์
“เป็นปกติ แล้วตอนที่เขาออกจากบ้านไป เราไปตรวจเลือดเลยนะ เราปกป้องตัวเองไง เราก็กลัวเพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จากเมื่อก่อนเขาไม่พกถุงยาง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เขามีถุงยาง เราก็ถามว่าเธอพกถุงยางอนามัยไปทำงานด้วยเหรอ เขาก็บอกว่ามันอยู่มานานแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนไม่มี”
“ถามว่าถูกหยามมั้ย จริงๆ แล้วเราคิดว่าเราบกพร่องหรือเปล่า เราอาจจะสู้สาวประเภทสองไม่ได้หรอกเรื่องอย่างนั้น แล้วด้วยความที่เขามีอาชีพ ทำงานอยู่แถวสุขุมวิท นานา เลิกเรียนเขาก็ไปทำงานตรงนั้น เขาก็อาจจะมีความชำนาญตรงนั้น แล้วที่สำคัญเขามีคนเลี้ยงดู แล้วสามีเราก็อาจจะไปเป็นผัวน้อย”
“เรารู้มาตั้งนานแล้ว รู้มาก่อนที่เขาจะคบกัน เพราะเขานั้นแหละมาพูดให้เราฟัง ว่าเด็กคนนี้เวลาฝึกงานต้องออกเร็ว 5 โมง เขาขยันนะ เขาไปทำงานรับนั่งดริ๊งค์พิเศษอยู่แถวซอยนานา สุขุมวิท เราก็บอกก็ดีแล้วน้องเขาขยันทำมาหากิน เราไม่ได้คิดอะไรไง เขาก็บอกว่าน้องเขามีแฟนมีคนเลี้ยงโน่นนี่ เราก็บอกเธอไปเป็นผัวน้อยเขาเหรอ ดีเนอะ เธอก็อยู่ของเธอ เขาก็อยู่ของเขา แล้วต่างคนต่างรับได้ แฟนเรารับได้ที่น้องเขามีคนเลี้ยง แล้วน้องคนนี้ก็รับได้ที่มีเรา อ้าวแล้วคนที่เสียเปรียบคือใคร เราไม่สามารถใช้สามีคนเดียวกับสาวประเภทสองได้ ที่สำคัญไม่ต้องมาดูดเงินฉันไปให้เขา”
เคยคิดอยากมีลูก แต่ไม่มีดีที่สุดแล้ว 21 ปี รับเจ็บใจ ขายของที่ตนซื้อให้ นำเงินไปซัปพอร์ตอีกฝ่าย
“มีคนพูด แต่ว่าปัจจุบันนี้คิดว่าอย่ามีเลย จะเป็นปัญหา ถ้าเกิดแต่งงานไปก่อน 28 ธันวาคม แล้วเขาเปิดเผยทีหลังไม่หนักกว่าอีกเหรอ เพราะว่าพูดได้เลยว่าถ้าแต่งงาน เราก็ต้องเป็นคนออกเงิน เพราะเขาก็ไม่มาออกให้เราอยู่แล้ว”
“21 ปีเราเต็มใจที่จะให้เงินเขา เพราะเราหาเงินได้มากกว่า แล้วการเป็นครอบครัว มันไม่ได้แบ่งแยก ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน เขาอยากได้อะไรเราเต็มที่ ถือว่าเงินของเธอ เธอก็ไปบริหารจัดการเองแล้วกัน แต่ที่เสียใจที่สุดก็คือเขาเอาเงินเขาที่ไม่เคยเลี้ยงข้าวเรา เอาไปเลี้ยงสาวประเภทสอง เราก็เลยรู้สึกเจ็บใจ และของที่เราซื้อให้ก็เอาไปขายเพื่อเอาเงินไปซัปพอร์ต เราก็เลยรู้สึกแย่ไง”
รับอีกฝ่ายเคยดูแลดี แต่เพิ่งมาเจอเซอร์ไพรส์ดอกใหญ่
“ต้องบอกว่าสิ่งแรกเลยคือเขาดูแลครอบครัวเราดี เขาเหมือนเป็นพี่ชายคนโต เป็นพ่อบ้านดูแลทุกอย่าง คือเราเป็นผู้หญิงทำงาน เป็นลูกคนโต พอมีคนมาช่วยตรงนี้ ไม่ใช่เขาไม่ดี ความเสมอต้นเสมอปลายกับครอบครัวหรือกับเรา เขามีอยู่แล้ว แต่ความเจ้าชู้หรือความที่เขาเปลี่ยนเพศไปแล้ว เราก็เพิ่งเซอร์ไพรส์ไง แต่หลังจากที่เราเลิกกับเขา ก็มีคนโน้นคนนี้มาบอกว่าเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เขาเรียนมัธยม เขาเรียนโรงเรียนชายล้วน เพื่อนเขาสมัยนั้นก็บอกว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชาย เราก็บอกบอก จริงเหรอ ตอนที่เขาเรียนมหาวิทยาลัยเขาก็มีแฟนเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วย ตอนเขามาทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง เพื่อนในวงการที่เคยทำงานกับเขาด้วยก็มาบอกว่าเขาก็กินสองประเภทสองมาตั้งแต่แรกแล้ว เราถูกหลอกมาตั้งแต่แรก แต่เราก็ไม่รู้ไง ไม่ได้คิด หลายๆ คนที่เป็นเขาก็เปลี่ยนกลับมามีครอบครัวได้”
“เราคิดว่าในชีวิตคนเราอาจจะมีผิดพลาดได้ด้วยหน้าที่การงาน หรือช่วงระยะคับขัน ความรักมันไม่จำเป็นจะต้องไปขุดคุ้ย เราไม่รู้อดีตเขาก็จะทำให้ชีวิตคู่ประคับประคอง แต่ที่เสียใจทุกวันนี้คืออย่างที่บอก เราอยู่ในวงการมา 27 ปี เรามีทั้งแม่ เพื่อน น้อง ลูกสาวที่เป็นสาวประเภทสอง เราได้รับความรัก ความอบอุ่นจากสาวประเภทสองเยอะมาก เรารักเขา แต่ที่เรามองอีกมุมคือความซื่อสัตย์ของแฟนเรามากกว่า”
ไม่ฟ้องหย่าเพราะอีกฝ่ายไม่มีเงิน กรวดน้ำอโหสิ อุทิศส่วนกุศลให้
“ฟ้องหย่าไปเขาก็ไม่มีเงินให้หรอกค่ะ จริง เราจะไปฟ้องทำไม ตอนแรกที่เขาไม่เซ็นใบหย่าเพราะเขาคิดว่าเดี๋ยวเขาก็กลับมา วันหนึ่งฉันอาจจะมาขอคุกเข่าขอร้องเธอให้อยู่ด้วยก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วอ่ะ มันเปลี่ยนไปแล้ว”
“ตอนแรกๆ เกลียดมากเลยนะ ไม่อยากมองหน้าเลย แต่พอหลังๆ เราได้ทำบุญ และได้กรวดน้ำ อโหสิกรรม อุทิศส่วนกุศลให้เขา เราก็โอเคขึ้น ในเมื่อเขาตัดสินใจจะไปใช้ชีวิตของเขา เราเคารพการตัดสินใจของเขา เขาก็ต้องเคารพเราด้วย นั่นคือคุณออกไป ชีวิตเราก็คือชีวิตเรา ชีวิตเขาก็คือชีวิตเขา”
ขายรถฮาเล่ย์ และทรัพย์สินที่อีกฝ่ายนำไปใช้กับสาวประเภทสองทั้งหมด จ้าง 2 แสนแลกใบหย่า
“ของทุกอย่างที่เป็นชื่อเรา คือเราขายหมด (หัวเราะ) เราเคยซื้อรถฮาเล่ย์ให้เขา เขาก็เอาไปซ้อนกับสาวประเภทสอง ซื้อมา 5 ปี เราซ้อนแค่ 2 ครั้ง และบทสำรองพี่ก็ไปอยู่ที่ห้องสาวประเภทสอง เขาซ้อนกันบ่อยมาก น้องคงเห็นว่าเท่ ขับฮาเล่ย์ เราก็ขายสิคะ”
“เขาบอกว่าถ้าเกิดเธอขาย ฉันขอสองแสนไปซื้อรถรอยัล เอนฟิลด์ เราก็บอกได้ ฉันให้เธอสองแสน แต่เธอต้องไปเซ็นใบหย่าให้ฉัน (เท่ากับว่าเราจ้างด้วยเงินสองแสนเพื่อที่จะได้ใบหย่ามา?) ใช่ เขาก็บอกว่าเธอแน่ใจเหรอว่าจะทำตาม เราก็บอกไปว่า ถ้าเธอเซ็นใบหย่าให้ฉัน ฉันจะให้เธอสองแสน ขอให้เธอเซ็น เขาก็บอกว่าแล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าถ้าเซ็นใบหย่าแล้วเธอจะไม่โกงฉัน มีต่อรอง เราก็เลยบอกไปว่า ทันทีที่เธอเซ็นใบหย่า ฉันให้เธอแน่”
บอกอรุณา ในเรื่องเมีย 2018 ก็คือตนนี่แหละ แค่ผิดที่ชู้เป็นสาวประเภทสอง
“เฮ้อ (ถอนใจ) ก็ถึงบอกไงว่าอย่างน้อยเราก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงใจแรงเชียร์ อรุณานะคะก็คือจุ๊บแจงนี่แหละค่ะ แต่อาจจะผิดจากผู้หญิงเป็นสาวประเภทสอง เราก็อยากจะให้ผู้หญิงหลายๆ คนที่อาจจะอยู่ในมุมมืด ไม่กล้าเปิดเผยตัว อาจจะโดนกระทำจากสามีหรือแฟนที่เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากผู้หญิงหรือสาวประเภทสอง เราก็อยากให้มีกำลังใจ คือผู้หญิงเรามันอยู่ได้ด้วยตัวเอง เพราะผู้หญิงมีความอดทน เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเก่งจะตายยุค 4.0 ผู้หญิงเก่ง ดูแลตัวเองได้ แต่ช่วงแรกๆ ทำแบบจุ๊บ มันจะเจ็บก็ให้มันเจ็บไปถึงที่สุด จะร้องไห้ก็ให้มันร้องไปถึงที่สุดและมันจะคิดได้เอง คือเราแค่อยู่กับเพื่อน ทำบุญเยอะๆ”
เล็งบวชชี-ปฏิบัติธรรม สะเดาะเคราะห์ล้างซวย ลั่นเคยถูกด่าดอก(ไม้) ด้วย
“(หัวเราะ) จริงๆ ก็คิดอยู่ แต่ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้มาก็ทำบุญทุกวัน ทำบ่อยมาก จนเขาก็มาแซวเรานะ ว่าเธอทำบุญบ่อยเนอะ เดี๋ยวอีกหน่อยจะให้เธอกับน้องสาวประเภทสองไปปฏิบัติธรรมร่วมกัน ดู คำพูด คือยังไม่รู้ตัว”
“เรื่องการบล็อกเขาทุกช่องทาง เราเคยบล็อกเขา เพราะเขาเคยด่าเราเป็นดอกไม้ เราฝากงานให้เขาทำ และเขาทำตัวไม่ดี คือไปทำงานเสร็จก็รีบออกเร็ว เพื่อไปกับสาวประเภทสอง ซึ่งที่ออฟฟิศก็โทร.มาฟ้องเรา เราก็บอกเธอทำตัวให้ดีๆ หน่อย เข้าออกงานให้ตรงเวลา เพราะฉันเป็นคนฝากงานให้เธอ ฉันไม่อยากฟังคนอื่นเขามาพูด เขาก็ด่าเราเป็นดอกไม้ มึงเป็นคนฝากงานให้กูเหรอ เท่านั้นแหละค่ะเลยบล็อกทุกอย่าง”
ยังเป๋อยู่กับชีวิตโสด
“แรกๆ ก็ยังเป๋อยู่นะ เพราะเราจัดการเอกสารทุกอย่าง เรามีบริษัททำโน่นทำนี่อยู่ใช่มั้ยคะ ก็เป๋ทำอะไรไม่ถูก ต้องทำเองทุกอย่าง ค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ เรียนรู้เป็นสเต็ป แต่ถ้าถามว่าตอนนี้คือชอบชีวิตโสดแล้ว มีความรู้สึกว่ามันอิสระ เมื่อก่อนครอบครัวจะเป็นที่หนึ่ง ไปไหนมาไหนจะห่วงแฟน ช่วงที่เขานอกใจเราเขาจะโทร.มาเช็กเราตลอดว่าอยู่ไหน ถึงไป ถามทุกวัน ถ้าติดต่อเราไม่ได้ก็จะโทร.ถามแม่ว่าจุ๊บกลับบ้านหรือยัง เขาไม่ได้เป็นห่วงหรอก กลัวไปเจอ”
ฝากบอกสาวประเภทสอง ได้ไปแล้วไม่ต้องเอามาคืนพี่ คุกเข่าต่อหน้าก็ไม่เอาแล้ว
“อย่างที่บอก เขาอยากจะออกไปใช้ชีวิตของเขาที่เหลืออยู่ ตอนนี้เราไม่เป็นไรแล้วและคงไม่มีทางได้กลับมาหรอก เพราะเราก็มีชีวิตที่ดีแล้ว อยากฝากถึงน้องสาวประเภทสองเนอะ ว่าได้ไปแล้วก็อย่าเอามาคืนพี่เลย เอากลับไปเถอะ และขอให้ชีวิตคู่ของเขารักกันยาวนาน อวยพรให้เขา เพราะตอนนี้เราก็แฮปปี้กับชีวิตของเราแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำงาน ไม่ต้องให้เขากลับมาหาเรานะ เพราะมาคุกเข่ายังไงเราก็ไม่เอาแล้ว”
คนต่อไปจะไม่เลี้ยงใคร ให้ผู้ชายเลี้ยง
“ถามว่าเข็ดมั้ย ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ตอนนี้เราก็ประคับประคองความรักของเรา สิ่งแรกเลยคือเราต้องสวย ต้องดูแลตัวเอง ถ้ามีคนใหม่เข้ามาก็ต้องดู เราต้องไม่เลี้ยงเขาค่ะ คราวนี้ต้องให้เขาเลี้ยงเรา (หัวเราะ) ก็พร้อมเปิดรับค่ะ ถ้าสมมติใครจะรับผู้หญิงอายุ 40 กว่าไปเป็นแฟน (หัวเราะ) แต่ทำงานเก่งนะ และรักเดียวใจเดียวด้วย”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)