“ลีน่า จัง” เอาจริง ฟ้องหมิ่น “พลอย” พิมพ์ด่าว่าบ้า เผยถูกแฟนคลับอีกฝ่ายเฮโลด่าเป็นร้อย ลงขันจ้างตบ 2 หมื่นถึง 2 แสน เสียแรงยกเป็นนางเอกในดวงใจ หวั่นไม่ปลอดภัย เปิดใจไม่อยากโม้ ชนะรวดมา 8 คดี มั่นใจฟ้อง “โค้ชเอก” บุกรุกถ้ำหลวงมีคนเห็นด้วย 50 ล้านคน โวไปไหนมีแต่คนขอเซลฟี่เพราะเห็นด้วย จวกรัฐอย่าสองมาตรฐาน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ก.ค. “ลีน่า จังจรรจา” หรือ “ลีน่า จัง” ได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งความดำเนินคดีกับนางเอกสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ระบุถูกอีกฝ่ายพิมพ์คอมเมนต์ในข่าวที่ตัวเองแจ้งจับ “โค้ชเอก” นายเอกพล จันทะวงษ์ เมื่อวันก่อนว่า “บ้า” จนทำให้มีแฟนคลับเฮโลตามมาด่าตนเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ลีน่า จัง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว MGR ONLINE ว่า ตนยังถูกตั้งค่าหัว โดยเผยว่าหากใครตบตนจะให้เงิน 2 หมื่นถึง 2 แสน จึงขอเข้าแจ้งความในฐานะผู้ถูกละเมิด ห่วงชีวิตจะไม่ปลอดภัย
“วันนี้มาแจ้งความที่ สตช. ดำเนินคดีกับพลอย เฌอมาลย์ที่ไปคอมเมนต์ในไอจี ที่มีบางสำนักข่าวลงข่าวที่ดิฉันไปแจ้งความดำเนินคดีกับโค้ชเอก ที่ไปบุกรุกถ้ำหลวง และพลอยไปแสดงความคิดเห็นว่าบ้า ต่อมาในวันที่ 21 ก.ค. พลอยก็ได้โพสต์ในไอจีของตัวเองว่าเป็นคนทำจริง และปล่อยให้คนที่ติดตามในไอจีของตัวเอง ได้เข้ามาถล่มด่าในไอจีของดิฉัน เรียกว่าต่างกรรมต่างวาระ”
“และเลือกมาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ดิฉันทราบข่าวจากตอนอยู่บ้าน และอยู่ในพื้นที่เขต สน.พญาไท และปรากฏว่าตำรวจ สน.พญาไทแย่มาก เพราะเคยไปแจ้งความเอาไว้ แต่ไม่เคยดำเนินคดี ไม่ออกหมายเรียกกับผู้ต้องหาที่ฉันได้เคยแจ้งความไว้ วันนี้จึงต้องเดินทางมาที่ สตช. มาแจ้งดำเนินคดีกับพลอย และทาง สตช. จะมีหนังสือออกมา เพื่อส่งไปที่ สน.พญาไท และตำรวจที่ สน.พญาไทต้องทำเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดองคดีไว้หรือเปล่า”
“และตอนนี้ชีวิตดิฉันไม่ค่อยปลอดภัย การที่ดิฉันคิดต่างมุม ต่างคนต่างความคิด คิดต่างจากคุณพลอย คุณพลอยคือซุปเปอร์สตาร์ดังระดับประเทศ คุณเป็นนางเอกชื่อดัง คุณก็ต้องแสดงความคิดเห็นอย่างรอบคอบ การที่คุณพิมพ์คำว่าบ้าออกมามันทำให้แฟนเพจ ผู้ติดตามของคุณ ก็เข้าใจในตัวดิฉันผิด ประกาศมีการตั้งค่าหัว ในโซเซียลตั้งค่าหัวว่าใครมาตบดิฉันให้ 20,000 บาท และเอาคลิปที่ดิฉันเคยถูกทำร้ายร่างกายมาลง และมีการแชร์ออกไป จนบางคนก็บอกถ้าตบอีนี่ได้ให้ 200,000 บาท”
“แต่เราก็รู้ตัวคนมี่โพสต์นะ แต่เราไม่ดำเนินคดี เพราะเขาเป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ดชั่วๆ และการที่เราดำเนินคดีกับคุณพลอยเพราะเป็นมีชื่อเสียง เพราะเวลาคุณโพสต์อะไรไป คนเขาก็ต้องเชื่อถือคุณ มันมีผลกระทบต่อตัวดิฉัน ส่วนนักเลงคีย์บอร์ดชั่วๆ พวกนั้น ไม่ต้องการดำเนินคดี มันเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องลงมาจัดการ ไม่ใช่หน้าที่ฉัน ซึ่งรัฐปล่อยให้คนพวกนี้มานั่งข่มขู่ ซึ่งมันเป็นความผิดอาญาแผ่นดินอยู่แล้ว ที่ขู่ลงขันให้มาตบดิฉัน”
ยันไม่ได้เปิดศึก “พลอย” แต่มาแจ้งความในฐานะประชาชนที่ถูกละเมิด เผยตั้งแต่แจ้งจับ “โค้ชเอก” ชีวิตไม่ปลอดภัย ออกไปกินข้าวไม่ได้ หวั่นถูกคนทำร้าย
“ไม่ได้เปิดศึกค่ะท่านขา แต่มาในฐานะประชาชนคนนึงที่ถูกละเมิด ชีวิตตอนนี้ก็ไม่ปลอดภัย ออกจากบ้านไม่ได้เลย หิวข้าวก็ไม่ได้กิน เพราะกลัวออกไปแล้วจะมีคนมาทำร้ายร่างกาย เพียงแค่ดิฉันไปแจ้งจับโค้ชเอก แต่ไม่ได้แจ้งจับเด็กเพราะโค้ชเอกบรรลุนิติภาวะแล้ว อายุ 25 แล้ว ส่วนเด็กอายุเพิ่ง 14 ปี ความผิดไม่มี ดิฉันว่าด้วยตามกฎหมาย และใช้สิทธิตรงนี้ในฐานะนักกฎหมาย อย่าให้รัฐใช้ 2 มาตรฐาน”
“และอยู่ดีๆ จะมาดำเนินคดีกับดิฉันที่ไปเที่ยวถ้ำและไปถ่ายคลิปมาดำเนินกับฉัน ที่จับปรับ 500 บาท แต่ยังไม่มีหมาย ส่วนมีเสียงอื้ออึงนั้นไม่มี เป็นการไปเที่ยวส่วนตัวค่ะท่านขา ส่วนน้องพวกนั้นที่อยู่ในคลิปไม่มีความผิดเลย เขาไปเที่ยวของเขาเอง และก็ไม่ได้มีการจ้างวานอะไรเลย เป็นการหยอกล้อเด็กเฉยๆ ว่าถ้าอุ้มฉันลงไปได้จะให้ 500 แต่ไม่ได้มีการจ่ายเงินอะไร”
บอกพลอยเป็นนางเอกในดวงใจ เคยชอบมาก เสียใจที่ตัดสินตนแบบนี้ มาด่าบ้าทำให้คนรังเกียจ
“ในส่วนคดีของคุณพลอยมีโทษฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานะ เป็นแบบต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งมี 2 ครั้ง และครั้งหลังที่โพสต์ลงในไอจีของคุณพลอยเอง ยอมรับว่าเป็นคนทำจริง และยังมาพูดจากว่า ไม่บ้าก็ไม่ต้องเดือดร้อน จนผู้ติดตามเข้าไปด่าอีกเยอะมาก และไม่มีการบล็อกหรือลบทิ้งไป ปล่อยเอาไว้อย่างนั้น ซึ่งมันผิดกฎหมาย จึงต้องมาดำเนินคดีในวันนี้”
“ไม่ได้เปิดศึก ดิฉันไม่กล้าไปรบกับใครหรอก ก็อยากจะบอกคุณพลอยว่า คุณพลอยเป็นนางเอกในดวงใจของดิฉันนะค่ะ ฉันชอบมากเลย แต่เสียใจนิดนึงที่คุณพลอยตัดสินในตัวดิฉันแบบนี้ การที่คุณพลอยเห็นต่างกับดิฉัน แต่คุณพลอยดันมาใช้คำด่าแทนคำว่าไม่เห็นด้วย มาใช้คำว่าบ้า ซึ่งทำให้คนที่เชื่อถือคุณพลอย ก็มารังเกียจในตัวดิฉัน ทำให้ดิฉันเสื่อมเสียและชีวิตตอนนี้ก็ไม่ปลอดภัยด้วย”
ไม่แจ้งความเอาผิดพวกไม่มีตัวตนเพราะไม่มีค่าพอ ยันห่วงความปลอดภัยแต่ไม่หยุดเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“ไม่แจ้งค่ะ (อันนี้ 2 มาตรฐานมั้ย?) ไม่ได้ 2 มาตรฐานค่ะ เพราะคนอื่นไม่มีค่าพอ ไม่มีค่าพอที่จะทำให้คนเชื่อ เป็นพวกเพจอวตาร ไม่มีตัวตน เป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ดที่จะทำลายล้างทุกคน”
“ถามว่าทำไมดิฉันไม่อยู่เฉยๆ จะได้ปลอดภัย คือกรณีของคุณพลอยแสดงความคิดว่าบ้า ก็มีหลายสื่อเอาไปลง ถ้าหากไม่มาใช้สิทธิ์ในการมาแจ้งความ ก็ทำให้เกรียนคีย์บอร์ดชั่วๆ มารุมด่ากันสนุกสนาน เพราะแต่ละคำด่าว่าอีนี่ชั่ว เลวด้วยสันดาน ต้องจ้างคนไปตบ แต่ที่ดิฉันไม่หยุดเพราะดิฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ”
ปัดสร้างกระแส ขวางโลก “โค้ชเอก” บุกรุกถ้ำหลวงจริง จวกรัฐอย่าสองมาตรฐาน
“คือไม่ได้สร้างกระแสหรือโหนกระแส แต่การกระทำของโค้ชเอกในการบุกรุกถ้ำหลวงสำเร็จแล้ว เพราะในหลักฐานจากเจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าเด็กๆ ไม่ได้มีการแจ้งว่าจะเข้าไป และการเข้าไป เจ้าหน้าที่ต้องเป็นคนพาเข้าไป และเจตนาของโค้ชเอกถ้าไม่จงใจเข้าไปพักในถ้ำ ก็รีบออกมา เพราะเขาเองก็เคยเข้าไปในถ้ำมาแล้วซึ่งมีหลักฐานจากในเฟซบุ๊กของโค้ชเอกเอง”
“ถามว่าการทำแบบนี้ทำให้คนมองว่าเราเป็นบ้า ไม่บ้าค่ะท่านขา บ้านี่หมายถึงคนที่มีสติคุ้มคลั่ง ไม่สมประกอบ ต้องแพทย์วินิจฉัยว่าบ้า ต้องเข้ารักษาที่ รพ. ศรีธัญญา แต่ดิฉันมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เพียงแต่ที่ออกมาทำตรงนี้ว่าเตือนสติรัฐว่าอย่าทำกฎหมายให้เป็น 2 มาตรฐาน เพียงแค่คนบุกรุกถ้ำหลวง และมีคนมาสนใจ ทำให้คุณมีขื่อเสียงไปทั่วโลก และก็ละเว้นการดำเนินคดีเขา เพราะการบุกรุกเขาสำเร็จแล้ว การที่เขาไม่ออกจากถ้ำตามเวลาที่กำหนด ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั่นเกิดขึ้นที่หลัง”
“กับเด็กเราก็ห่วงใยค่ะ และถ้าเข้าไปดูเพจของดิฉันก็จะมีคลิปให้กำลังใจน้องๆ และมีมอบเงินให้จ่าแซมด้วย แต่แค่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ไปเชียร์เด็กเป็นฮีโร่ จนทำให้กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ บางสื่อก็บิดเบือนว่าดิฉันแจ้งความกับโค้ชเอกและเด็กๆ เอาหินไปขูดถ้ำ ซึ่งไม่จริง แต่ข้อมูลต่างๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ขั้นสำนวนคดี”
มั่นใจคนไทยอีก 50 ล้านคนคิดเหมือนตนแต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะกลัวภัยมืด
“ถ้าไม่สำเร็จก็หมายถึงตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นะ และที่ดิฉันมั่นใจว่าคนอีก 50 ล้านคนคิดเหมือนดิฉันก็เพราะว่าล่าสุดไปอยุธยามา มีคนมาขอเซลฟี่และบอกว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำ เมื่อวานนั่งรถไปศาลคนขับแท็กซี่ก็บอกว่าเห็นด้วย ขนาดในศาลก็ยังมีคนมาขอถ่ายเซลฟี่ หรือเราไปกินอาหารที่โคราช เจ้าของร้านก็มาขอเซลฟี่และไม่คิดเงินค่าอาหารด้วย แม้พระที่เป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดแถวนั่นยังออกมาให้กำลังใจค่ะ”
“คนที่เห็นด้วยกว่า 50 ล้าน แต่เขาไม่ออกมาแสดงตัว เพราะกลัวภัยมืด แต่เขาดีใจที่มีผู้หญิงคนนึงออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน”
โต้สิ่งที่ทำทุกวันนี้ เพราะว่าง ไม่มีใครคุยด้วย เป็นโรคซึมเศร้า
“ไม่เป็นค่ะท่านขา ดิฉันเองมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง มีงานเยอะมาก มีสินค้ามาจ้างเป็นพรีเซ็นต์เยอะมาก เราไม่ได้ว่างค่ะ แต่เราแค่มองเห็นว่ามันเกิดเหตุการณ์ 2 มาตรฐาน เพราะมีเด็กไทยอีกเยอะ ที่ไม่มีจะกิน ทำไมไม่เอางบ 400 ล้านมาช่วยเหลือ เราเอางบ 400 ล้านไปช่วยเด็กที่หนีพ่อแม่ไปเที่ยวถ้ำ และเยาวชนจะมีพฤติกรรมเลียนแบบว่าไม่ตั้งใจเรียน ไม่ต้องขยัน เพราะขนาดเด็กติดถ้ำหนีพ่อแม่ไปเที่ยวก็ยังได้ดีเลย”
วอนอย่าตัดสินจากความเห็นต่าง ไม่อยากจะโม้ เพิ่งฟ้องชนะมา 8 คดี ทำอาชีพทนายช่วยเหลือฟรีไม่คิดเงิน
“สุดท้ายอยากจะกราบเรียนทุกท่าน อย่าติดสินคนอื่นที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากตัวเองว่าเป็นบ้า ดิฉันไม่ได้บ้าค่ะ ดิฉันมีมูลนิธิช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย แต่ไม่ได้เอามาพูดเพราะไม่ได้อยากคุยโม้ ล่าสุดเดือน พ.ค. ไปเป็นทนายช่วยฟ้องคดีชนะมา 8 คดี เราทำอาชีพทนายช่วยเหลือฟรีไม่คิดตังค์ค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)