“กุ๊บกิ๊บ” ไม่ให้กำลังใจ “ดิว อริสรา” เชื่อสตรอง ผ่านทุกดรามา และคงไม่ได้อยู่ในจุดที่แนะนำอะไรได้ รอให้อีกฝ่ายอัปเดตเองดีกว่า เผยเลือกโรงเรียนนานาชาติให้ “เป่าเปา” เผื่อวันหนึ่ง “บี้ เคพีเอ็น” ต้องไปอยู่เมืองจีนถาวร ปลายปีเร่งปั๊มทายาทคนที่ 2 บอกจัดเต็มวิธีธรรมชาติ หลังจากพยายามแบบเบาๆ มาแล้ว หวนรับละครในรอบ 3 ปี รู้ซึ้งเล่นละครง่ายกว่าเลี้ยงลูก
ได้รับรางวัล mother of year 2018 พร้อมกับรางวัล parents of the year 2018 นักแสดงสาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ชี” ก็เผยว่าตนไม่ได้เลี้ยงลูกเก่ง และอยากให้แต่ละคนมีสไตล์การเลี้ยงลูกในเวอร์ชั่นตัวเองซึ่งดีที่สุด พร้อมเปิดใจกรณี “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” เพื่อสนิท เลิก “ไผ่ วันพ้อยท์”
“เรื่องได้รับรางวัล บ้านเราเป็นบ้านที่ธรรมดา กิ๊บไม่ได้เก่ง ไม่ได้ฉลาดที่สุด ไม่ได้ดูเป็นคนที่ดีพร้อมที่สุด แต่ใครๆ ก็สามารถเป็นพ่อแม่ที่ดีได้ ใครๆ ก็สามารถมีครอบครัวที่ดีและสมบูรณ์แบบได้ อยากให้ทุกคนมองว่ารางวัลนี้ฉันก็เป็นได้ ฉันก็ทำได้นะ เมื่อเรามีลูก มีครอบครัว เราควรจะเป็นเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด”
“เราก็จะเป็นพ่อแม่ที่ดี เมื่อเรามีความสุขในการเป็นพ่อแม่ มีความสุขในการเลี้ยงลูก ความสุขนี้จะส่งต่อไปที่ลูกด้วย เขาจะเติบโตอย่างมีความสุขและเป็นคนดีของสังคม บ้านกิ๊บเป็นบ้านที่สนุกสนาน เสริมสร้างการคิดบวก และเป็นบ้านที่ธรรมดา ธรรมชาติให้กับเขา ทุกบ้านก็มีสไตล์การเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไป บ้านกิ๊บที่เน้นมากที่สุดเลยคือเรื่องของอารมณ์และนิสัยใจคอ เราไม่รู้หรอกว่าเปาจะเก่งมั้ย แต่เราพยายามจะสร้างให้เปาเป็นคนดี มีจิตใจดี มองโลกในแง่บวก เราพยายามเน้นเรื่องนี้ที่สุด เราค่อนข้างปลูกฝังเรื่องของจิตใต้สำนึกให้คิดดี คิดบวก เชื่อว่าถ้าเราทำได้ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตเข้าทุกอย่างจะเลือกได้ เขาจะรู้แล้วว่าเขาควรจะทำอะไร”
“ถามว่าตีมั้ย ส่วนใหญ่จะเป็นเข้ามุม เราก็ต้องดูนิสัยลูกเรา กิ๊บยังมีความเชื่อแบบโบราณนะ ตีบ้างเล็กน้อย ไม่ได้ตีจริงจัง แต่เราดูแล้วว่าการตีใช้กับเปาไม่ได้ ที่ใช้ได้คือ กอด ให้เข้ามุม พูดคุย กิ๊บว่าก็ดีนะถ้าเราปลูกฝังลูกไม่ให้ใช้ความรุนแรง พอเขาโตขึ้นสุดท้ายมีอะไรเขาจะไม่ตัดสินด้วยการใช้ความรุนแรง เขาจะตัดสินด้วยวิธีอื่น เช่นการพูดคุย อะลุ่มอล่วย คิดว่าแล้วแต่บ้าน เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน”
ปวดหัวมาก พัฒนาจากเด็ก 2 ขวบเหมือนก้าวกระโดดไป 4 ขวบ
“ปวดหัวมากเลย ลืมตาขึ้นมาก็พูดไม่หยุด พูดทั้งวัน เขาจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อย่างกิ๊บพาไปหาหมอพัฒนาการ เขาก็จะบอกว่าตอนนี้เปาพัฒนาการเหมือนเด็กอายุ 3 ครึ่ง - 4 ขวบ เราจะต้องใส่ใจเรื่องอะไรบ้าง เขามีความเป็นตัวของตัวเองสูงเราจะต้องดูแลเขายังไง จัดการเขายังไง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์และมารยาทที่เราเคร่งกับเขา ด้วยเราเป็นคนของประชาชน เวลาเราออกไปข้างนอก ลูกเราต้องมีความอดทนทางด้านนี้เป็นพิเศษกับคน เวลาเจอคนก็ต้องไหว้บ่อยหน่อย มีมารยาทหน่อย ต้องรู้จักพูดขอโทษ เราจะไม่ค่อยปล่อยเรื่องพวกนี้ เขาก็จะมีเฮี้ยวๆ บ้างตามสไตล์เด็ก แต่ก็ถือว่ายังโอเคอยู่”
เลือกโรงเรียนนานาชาติให้ลูกเผื่อวันหนึ่งบี้อาจต้องไปอยู่เมืองจีนถาวร ตั้งใจมีลูกอีกคนปลายปีนี้ เตรียมจัดเต็มวิธีธรรมชาติ หลังจากพยายามแบบเบาๆ มาแล้ว
“กำลังเลือกอยู่ที่ดูแล้วเหมาะสมกับเขา ก็คงเลือกโรงเรียนนานาชาติ เพราะวันหนึ่งบี้อาจจะต้องไปอยู่ที่จีนแบบถาวร เราก็อาจจะย้ายครอบครัวไปอยู่ที่จีนเลย ซึ่งภาษาอังกฤษ-จีนจะเป็นสิ่งสำคัญ เราเลยจะค่อนข้างเลือกโรงเรียนที่ไปทางแนวนี้”
“แพลนย้ายไปเมืองจีนก็มองไว้ค่ะ ณ ตอนนี้ยังก่อน ให้เขาเข้าโรงเรียนที่ไทยไปก่อน ถ้า 1 - 2 ปีหน้าบี้งานหนักมาก กลับมายาก ตอนนี้ยังมีแว้บๆ มา 2 เดือนแว้บมาได้ที อยู่ได้เต็มที่ 7-9 วัน ต่อไปถ้ามันยากกว่านี้เราก็อาจจะย้ายไป จริงๆ เราเองก็มีแพลนจะย้ายกันไปอยู่แล้ว แต่เราก็ยืดเวลาออก เพราะตั้งใจว่าจะมีลูกอีกคนนึงให้ได้ภายในปลายปีนี้ เราเลยอยากจะอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ก่อน ก่อนหน้านี้พยายามอยากจะมีแต่ก็ไม่ได้เพราะบี้ไม่อยู่ เราอยากให้ทั้งคู่มีส่วนช่วยกันเลี้ยงลูกตั้งแต่อยู่ในท้องก็เลยเลื่อนไปก่อน ถ้าปลายปีนี้ติดเราก็อยากจะให้เขาเติบโตเบื้องต้นในครอบครัวใหญ่อยู่ด้วย เพราะเรารู้สึกว่ามันอบอุ่น”
“ก็ยังเน้นธรรมชาติค่ะ ธรรมชาติแบบใส่เต็มที่ ตอนนี้ยังธรรมชาติเบาๆ เลยไม่ติด ยังไม่จริงจัง ปลายปีจะจริงจังแล้ว ที่ผ่านมาพยายามเล่นๆ เท่าที่จะมีโอกาส (หัวเราะ) ซึ่งแทบจะไม่ได้มีโอกาสเท่าไหร่เพราะสามีมาก็อยู่แต่กับลูก หรือบางทีเฮ้ย...จะทักทายกันก็หลับไปแล้ว เราก็ค่อยๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ”
“เรื่องน้อง ก็ค่อยๆ เตรียมตัวเปา เราพยายามสอน พยายามถามเขาตลอด หานิทานพี่น้องมาเล่าให้เขาฟังให้เขาซึมซับ เขาก็ดูอยากมีน้อง อยากมีเพื่อน ตอนนี้ก็ฝึกเลี้ยงน้องทั้งวัน”
หวนรับละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ในรอบ 3 ปี ชี้เล่นละครง่ายกว่าเลี้ยงลูก
“เรื่องนี้กิ๊บรับไว้นานแล้ว ตอนแรกก็ลังแลจะรับหรือไม่รับดี เรากลัวไม่มีเวลา แต่พี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) บอกว่าสามารถยืดหยุ่นเวลาได้เราก็เลยโอเค ตอนนี้ก็พร้อมในระดับหนึ่ง ก็เล่นเป็นเพื่อนนางเอก กิ๊บไม่ได้เล่นละครมาเกือบ 3 ปีได้ พอไปถ่ายละครแล้วรู้สึกว่ามันง่ายไปเลย การเลี้ยงลูกคือยาก พอไปกองละครแล้วรู้สึกว่ามันนั่งว่างเกินไป ไม่ได้มามัวเดินจับลูก กลายเป็นว่าทำงานง่ายกว่าเลี้ยงลูก มันว่างมาก ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่”
“จริงๆ แล้วสามีเป็นคนอยากให้รับงาน นางบอกคนชอบมาถามว่าเมื่อไหร่เมียจะรับละคร ชอบกิ๊บเล่นละคร นางก็มาพูดกับเราว่าที่รักรับเถอะนะ นางก็อยากให้เมียได้ไปทำนั่นทำนี่บ้าง เขาก็อยากให้เราไปมีชีวิตอีกแบบด้วยไม่ใช่เลี้ยงลูกอยู่แต่บ้าน ตอนนี้ก็ขอรับเรื่องเดียวก่อน เดี๋ยวจะต้องเตรียมตัวมีน้อง ไหนจะไปจีนอีก ก็เรื่องนี้แล้วก็คงพักไปก่อน”
ไม่ให้กำลังใจ “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” เชื่อสตรอง ผ่านทุกดรามา
“ไม่ต้องให้กำลังใจอะไรเลย เขาผ่านได้ทุกดรามาอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา กิ๊บเองไม่ได้ถามรายละเอียด บางทีเราก็ยุ่งในการเลี้ยงลูก ก็จะได้แต่บอกเขาว่าก็ดูดีๆ ให้ผ่านไปให้ได้ ก็ให้กำลังใจเขาแต่เราไม่ได้มานั่งลงดีเทลอะไรมาก กิ๊บเชื่อว่าในเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะผิดจะถูก จะดีจะไม่ดี ทุกอย่างในชีวิตของคนมันจะมีอะไรสอนเราอยู่ในนั้นตลอด แล้วเขาจะโตขึ้นในทุกๆครั้งที่จะทำอะไร กิ๊บไม่ได้มองว่าเพื่อนเราผิดหรือถูก เพราะแต่ละคนก็ต่างมุมมอง ทุกคนมองไม่เหมือนกัน เราก็ได้แต่ให้กำลังใจ เติบโตขึ้นแล้วผ่านมันไปให้ได้”
ไม่อยู่ในจุดให้คำแนะนำ เรื่องรักเรื่องเลิกเป็นเรื่องปกติ รอให้เจ้าตัวอัปเดตดีกว่า
“(ส่ายหน้า) ก็เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก ก็เป็นเรื่องปกตินะ เราก็รอให้ผ่านไป สุดท้ายจบยังไง กลับมาคืนดีกัน หรือแยกกันเราก็รอให้เขาอัปเดตสุดท้าย มันเป็นเรื่องของเวลา เป็นเรื่องของคนสองคน เราไม่อยากจะให้คำแนะนำมาก พอเรามามีครอบครัวแล้วเรารู้ไงว่าการที่เราให้คำแนะนำมาก บางทีเราไม่ได้อยู่ ณ จุดนั้นคำแนะนำที่เราให้ไปมันจะถูกหรือผิด สิ่งที่ดี ที่สุดคือเวลา ให้เขาไปคิดกันเอาเอง ตัวกิ๊บอยู่ตรงนี้ตลอด พร้อมให้กำลังใจ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)