“มารีญา” ลุ้นผู้ประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 แนะให้เตรียมสติ เตรียมสมอง ขอให้สตรองที่สุด จะเก็บความรู้สึก 1 ปีที่ผ่านมาในความทรงจำตลอดไป เดินหน้าทำโครงการเพื่อเยาวชน
กำลังจะมีสาวงามเจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวร์ส ไทยแลนด์ 2018 งานนี้นางงามรุ่นพี่อย่าง “มารีญา พูลเลิศลาภ” เผยระหว่างมาร่วมงาน SAHA GROUP EXPORT & TRADE EXHIBITION ครั้งที่ 22 ณ บูทเครื่องสำอาง BSC ฮอลล์ 100 ไบเทคบางนา ยอมรับว่าเป็นเวลาที่เร็วมาก จะเก็บเป็นความทรงจำที่จะอยู่ในใจตลอดไป พร้อมแนะน้องๆ ให้เตรียมสติ และสมองในรอบสุดท้ายให้ดี
“ลุ้นค่ะ เมื่อวานนี้ก็ได้ไปซ้อมนิดนึงค่ะ ก็ได้ไปเห็นน้องๆ ก็รู้สึกเหมือนปีที่แล้วเลยว่าความตื่นเต้น ความลุ้นทุกอย่าง แฟนนางงามก็ลุ้น เราก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ ไม่น่าเชื่อว่า 1 ปีผ่านมาแล้ว เร็วมาก เร็วขึ้นด้วย ไม่ถึงปี (หัวเราะ) ทุกครั้งที่เจอทุกคนก็มีสิทธิ์แน่ๆ มารีญาก็ได้สัมภาษณ์น้องๆ ด้วย ได้เห็นแค่แป๊บเดียว แต่แค่นั้นก็รู้สึกว่าทุกคนมีความสามารถที่จะทำได้ แค่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ต้องดูเวลาเขาโชว์บนเวทีด้วยค่ะ”
“เรายังไม่ได้เทรนด์อะไรน้องๆ ค่ะ รออยู่ แต่จริงๆ แล้วไม่อยากแนะนำอะไรมากค่ะ เพราะน้องๆ คงได้ยินจากหลายๆ ฝั่ง และสำหรับมารีญาเองได้ยินเยอะมันจะทำให้เรางง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้เป็นตัวของตัวเอง ให้เชื่อมั่นในตัวเองว่าเรามาเพื่ออะไร เราต้องการทำอะไรในชีวิตเรา ให้คิดถึงจุดนั้นให้ชัดเจน ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่ชัดเจนเราก็สามารถทำอะไรที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ก็อยากให้น้องๆ เก็บความมุ่งมั่นอันนั้นไว้ อย่าท้อค่ะ”
แนะสาวงามเข้ารอบสุดท้ายให้เตรียมใจและสมองให้ดี
“ต้องเตรียมใจค่ะ เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ยากที่สุด นี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น ก็ขอให้เขาเตรียมใจและเตรียมสมองให้ดี เพราะมันจะมีหลายฝั่งพูด จะมีคนที่รักเรา จะมีคนที่ติเราด้วย แต่เราต้องฟังและสตรองเอาไว้ค่ะ เตรียมใจ เตรียมสมองค่ะ เพราะมารีญาคิดว่าใจสำคัญที่สุดค่ะ เราต้องมีสติสำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะตอนตอบคำถามมันจะตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าอะไรจะมาบ้าง เราต้องมีสติค่ะ อันนี้แหละที่ยาก”
รับรู้ถึงความรักของคนไทย จะเก็บไว้ในใจตลอดชีวิต
“รู้สึกถึงความรักของคนไทยมากที่สุดค่ะ ความรู้สึกนั้นจะเก็บไว้ในใจตลอดชีวิต เพราะช่วงที่มารีญาประกวดอยู่และยืนอยู่บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส พอย้อนหลังกลับไปดูวิดีโอคลิปของคนไทยที่เชียร์เรา มารีญาไม่รู้ว่าคนไทยเชียร์เยอะขนาดไหน ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยเชื่อในตัวเราขนาดไหน และความรู้สึกนั้นเป็นความรู้สึกที่ดีมาก อยากให้คนไทยเชื่อมั่นในคนที่อยู่รอบข้างเรา เพื่อนเรา เพราะมันทำให้เรามีพลัง ความรู้สึกนั้นเป็นความทรงจำมากค่ะ ก็หวังว่าจนถึงวันนี้ทุกคนก็ยังจะคงมีความรู้สึกนั้นให้มารีญาอยู่ค่ะ (หัวเราะ) ถ้าไปไหนแล้วมีคนมาขอมารีญาถ่ายรูปนี่คือเขาดีใจที่เจอเรา เราก็ดีใจไปด้วย”
ขอเวลาเดินหน้าทำโครงการเพื่อเยาวชน
“ตอนนี้มารีญาก็ได้คุยกับกองแล้ว มารีญาอยากจะขอเวลานิดนึง เพราะอยากจะเริ่มเก็บรีเสิร์จของเรา มารีญาอยากจะเข้าไปสัมภาษณ์เยาวชนค่ะ อยากจะรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เพราะจากที่เคยพูดตั้งแต่แรกเราก็มีในหัวแล้วล่ะว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง แต่เราไม่รู้ว่านี่คือปัญหาจริงๆ หรือเปล่า เราต้องไปดูเอง เพราะเราก็อ่านจากอินเตอร์เน็ต อ่านข้อมูลทุกอย่าง แต่ทุกอย่างที่เราอ่านมันมาจากการคัดเลือกแล้ว สมมติตอนที่มารีญาไปทำงานที่ UNFPA ก็รู้ว่าสถิติบางอย่างของเด็กมาจากคนที่สัมภาษณ์แบบใส่สูท ซีเรียสๆ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าปัญหาจริงๆ แล้วของเด็กๆ คืออะไร นี่มารีญาก็กำลังเตรียมตัวจะเริ่มแล้วค่ะ อีก 2 อาทิตย์จะเข้าไปที่โรงเรียนแล้วสัมภาษณ์เองเลย และจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาทำโปรเจกต์ของเรา และมารีญาคิดว่าจะเริ่มด้วยแคมเปญค่ะ แต่ตอนนี้มารีญายังไม่อยากจะแน่นอนมาก เพราะว่าอยากจะเปิดให้มันสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ในที่สุดก็อยากจะทำเป็นโครงการค่ะ แต่อาจจะอีกหลายปี ก็จะเริ่มจากแคมเปญต่อแคมเปญก่อนค่ะ”
“ตอนนี้มีประมาณ 8-10 โรงเรียนแล้วที่คอนเฟิร์มมา ในเขตกรุงเทพฯ ก่อนค่ะ ตื่นเต้นมาก เพราะอันนี้คือสิ่งที่อยากทำตั้งแต่แรกเลย แต่ยังไม่มีโอกาส ตอนนี้ก็มีโอกาสแล้วค่ะ ตื่นเต้นมากค่ะ ก็จะมีมารีญา คุณแม่ แล้วก็มีทีมงานไปด้วยค่ะ เพราะมารีญาเคยสอนที่โรงเรียนมาบ้าง ก็เลยมีคอนเนกชั่นบ้างค่ะ”
“แรกเริ่มนี่ยังไม่มีการคัดเลือกค่ะ ก็จะเป็นโรงเรียนที่ยอมให้เราเข้าไปก่อนค่ะ อยากจะให้เป็นสถานที่เปิดหน่อยค่ะ อาจจะเป็นสยามก็ได้ ไปสัมภาษณ์เด็กๆ เลย สมมติถามว่าน้องๆ สมัยนี้ชอบดูอะไรกัน อิทธิพลส่วนใหญ่มาจากที่ไหน สำหรับมารีญารู้สึกว่ามันมาจากสื่อต่างๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า อาจจะมาจากบ้าน อาจจะมาจากโรงเรียน ก็ต้องดูว่าจุดไหนที่เราสามารถแทรกได้ ก็เอาแคมเปญที่น่าสนใจและสามารถสอนน้องๆ เกี่ยวกับความเคารพได้ เพราะสองเรื่องที่มารีญารู้สึกอยากจะทำมากก็คือ ความเคารพของกันและกัน ของตัวเองและกับสิ่งแวดล้อมค่ะ เพราะเราอยู่ไม่ได้ถ้าเราไม่มีสิ่งแวดล้อม ก็อยากจะสามารถทำอะไรที่จะผลักดันเด็กๆ ให้เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นค่ะ”
“ตอนนี้ยังไม่ได้หาข้อมูลค่ะ เรารู้คร่าวๆ ค่ะว่าเรื่องเป็นยังไง แต่หลังจากที่เราสัมภาษณ์เด็กๆ มันอาจจะเป็นเรื่องอื่นก็ได้ มันอาจจะแตกออกไปอีกก็ได้ ไม่อยากจะไปตีกรอบก่อนค่ะ อยากจะสัมภาษณ์ก่อน ก็อีก 2 อาทิตย์ได้เริ่มแน่นอนค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)