xs
xsm
sm
md
lg

เคลียร์ครั้งแรก! “เพชร” ขอร้องเพื่อนอย่าฟ้อง “ตั๊กแตน” ไม่แค้นถูกแฉซุกเมียน้อย เสียดายรักจบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เพชร สหรัตน์” เสียดายเวลา 2 ปี อยู่กินฉันท์สามีภรรยา “ตั๊กแตน” เป็นช่วงเวลาที่ดี เจ้าชู้แต่ไม่เคยนอกใจ ไม่โกรธไม่แค้นถูกแฉซุกเมียน้อย ลั่นขอร้องเพื่อนอย่าฟ้องอดีตเมีย ส่วนสาว “แจมมี่” ไม่ได้สานสัมพันธ์ด้วย พูดทะลึ่งขอจับฮิแหน่เป็นเรื่องปกติ บอกยังห่วง อีกฝ่ายรักใครทุ่มให้เต็มที่

หลังจากที่อดีตภรรยา "ตั๊กแตน ชลดา" เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์หมาดๆ กรณีเตียงหัก พร้อมประกาศตัดขาด ต่อจากนี้เหม็นกลิ่นความรัก ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอตัว “เพชร สหรัตน์” อดีตสามีซึ่งมาร่วมงานประกาศรางวัลพระราชทาน “พระสุรัสวดี” (รางวัลตุ๊กตาทอง) ครั้งที่ 31 ยอมรับว่าทุกอย่างเคลียร์จบหมดแล้ว ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เพลงยกให้อดีตเมีย

“ชีวิตโสดสบายดีครับ ตอนนี้ทำงานอย่างเดียว เรื่องที่ต้องเคลียร์จบหมดแล้วครับ ทั้งเรื่องการหย่าอย่างที่ทุกคนได้ทราบ เราหย่ากันเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เพลงผมเป็นคนเขียนทั้งหมดให้กับคุณตั๊กแตน เรื่องรายได้ของลิขสิทธิ์เพลงอันนี้ผมไม่ได้รับค่าลิขสิทธิ์เพลงแต่จะรับหรือเปล่าอันนี้ยังไม่ทราบ เพราะว่าส่วนมากเวลาที่ไปรับเช็คจะเป็นคุณตั๊กแตนไปรับที่ตึกแกรมมี่ เอาตรงๆ ผมไม่กล้าไปรับเพราะด้วยความที่ผมอยู่อีกค่ายหนึ่งและผมก็ไม่อยากทำให้มันประเจิดประเจ้อ ซึ่งค่ายที่เป็นต้นสังกัดถ้าทราบก็อาจจะไม่พอใจ ผมเรียนให้ทราบว่าผมไม่ได้เป็นคนไปรับเช็คค่าลิขสิทธิ์เลย”

“เรื่องลิขสิทธิ์เพลง จริงๆ ผมตั้งใจทำเพลงให้น้อง เราคุยกันว่าถ้าทำเพลงแนวลูกทุ่งภาคกลางมาหลายอัลบั้ม และช่วงหลังๆ กระแสดร็อปลงมาบ้าง เลยลองเปลี่ยนแนวอีสานซึ่งเป็นแนวถนัดของผมเอง ตอนที่อยู่ด้วยกันเราก็ทำด้วยใจไม่ได้คิดเรื่องเงินอยู่แล้ว เราเต็มที่ ยกให้เขาเลยครับ ไม่ได้มีอะไรติดค้างเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์เพลง”

เผยค่าคอนเสิร์ตโอนเป็นเงินเข้าบัญชีอดีตเมีย ส่วนเครื่องจักรซื้อกลับคืนมาแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่เชี่ยวชาญธุรกิจ
"ทรัพย์สินโดยส่วนใหญ่ ทั้งเรื่องค่าคอนเสิร์ตของผมเอง ทางเจ้าภาพจะรู้ดีว่าเวลาที่จ่ายเงินค่าคอนเสิร์ตเขาจะโอนเงินเข้าบัญชีของคุณตั๊กแตน แต่ว่าก็ใช้ด้วยกัน ไม่ได้หมายความว่าโอนเข้าบัญชีตั๊กแตนแล้วจะไม่ได้ใช้ด้วยกัน โดยส่วนใหญ่ค่าคอนเสิร์ตเราก็ใช้ด้วยกัน รวมถึงเรื่องของโรงงาน ที่เป็นชื่อของน้องตั๊กแตน แต่จริงๆ เป็นธุรกิจที่ผมทำมานานแล้วพอน้องเข้ามาทำด้วย ผมก็โอนถ่ายเป็นชื่อของน้องแทน พอมีปัญหากัน น้องก็จะเป็นคนจัดการเรื่องธุรกิจไว้ก่อน พวกเครื่องจักรต่างๆ ส่วนที่เป็นเครื่องจักรผมซื้อกลับคืนมาจากน้องเขา เพราะน้องไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้เพราะเขาไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจพวกนี้อยู่แล้ว ผมเลยขอซื้อเครื่องจักรกลับคืนมาเพื่อดำเนินการต่อ น้องก็ควรจะได้ในส่วนนี้ ถ้าผมไม่ซื้อกลับคืน น้องก็คงต้องเก็บไว้เป็นเศษเหล็กเพราะทำอะไรไม่ได้”

บ้านใครบ้านมัน ไม่เกี่ยวข้องกัน
บ้านใครบ้านมันอยู่แล้ว บ้านที่อยู่สายไหมเป็นบ้านของผมอยู่แล้วที่คุณแตนมาอยู่ด้วย ผมซื้อก่อนที่จะรู้จักกับคุณแตน บ้านคุณแตนที่อยู่รังสิตก็ยังเป็นบ้านของคุณแตน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเรื่องบ้าน”

ไม่โกรธแค้น ไม่ได้สานสัมพันธ์ “แจมมี่” สาวที่ถูกแฉ แถมขอร้องไม่ให้แจ้งความ
“โดยส่วนตัวผมติดตามผลงานของน้องตลอด ไม่ได้มีความโกรธแค้น ไม่ได้มีอะไรติดค้างกัน อย่างอีกคนที่เป็นประเด็นข่าวกับผม เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาของเขาไปตามปกติ มีช่วงหนึ่งที่เขากลับมาเมืองไทย ไปเช็กได้เลยว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกันต่อ และในช่วงที่เกิดปัญหาเรื่องการโพสต์ ผมก็ขอร้องเพื่อนๆ ด้วยซ้ำว่าอย่าไปแจ้งความกับน้อง เพราะตอนนั้นเรื่องราวมันไปถึงขั้นที่จะไปแจ้งความ พรบ.คอมพิวเตอร์ เพราะไปโพสต์แบบไม่มีการเซ็นเซอร์อะไรเลย ผมก็ขอร้องเพื่อนๆ ไม่ให้ไปมีเรื่องมีราว ทุกคนก็แยกย้ายกัน ก็จบลงด้วยดี หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้ติดพันอะไรกัน ไม่มีอะไรติดค้าง เคลียร์กันโดยไม่มีปัญหา”

เชื่อตั๊กแตนรู้อยู่แก่ใจ ปิดคนอื่นได้แต่ปิดตัวเองไม่ได้
“ผมมองว่าทุกคนรู้ความจริงอยู่แก่ใจว่าอะไรคืออะไรกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น แล้วแตนทำอะไรอยู่ ผมทำอะไรอยู่ผมจะรู้ เราปิดคนอื่นได้ แต่เราไม่สามารถปิดตัวเองได้ ผมกล้าบอกได้ว่า อย่างคุณแจมมี่ ที่เป็นประเด็นข่าวผมไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกับเขา ไม่ได้มีอะไรต่อ ผมก็อยู่อย่างนี้ แต่ผมก็เข้าใจลักษณะของคนเป็นภรรยาไปเห็นข้อความอย่างนั้นก็ต้องมีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันหนักเกินที่เขาจะรับได้ เราเข้าใจเขา แต่ว่าเรื่องราวต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นผมมองว่าใครทำอะไรคนนั้นก็จะรู้อยู่”

แชตทะลึ่งเป็นเรื่องปกติ
“ถ้าหมายถึงเรื่องแชต จริงๆ ถ้าคนที่สนิทกันจะรู้ว่าผมเป็นคนพูดมาก ชอบหยอกคนนั้นคนนี้ และเป็นคนทะลึ่งอยู่แล้วครับ ยิ่งเพื่อนๆ ที่มีอายุเท่ากันก็จะพูดแล้วหยอกล้อกัน ข้อความค่อนข้างที่จะรุนแรงบ้างก็มี เพราะน้องเขาก็เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเนื่องจากปกติไม่ได้อยู่ไทยอยู่แล้ว เขาอยู่ที่ฮาวาย พอมาถึงเราก็เจอกันที่ร้านลาบ คนเยอะมาก เราก็ต้องรักษาภาพอยู่แล้วในส่วนหนึ่ง แต่ด้วยความที่เรานั่งอยู่ในร้านนานและเจ้าของร้านรู้ว่าเป็นเพื่อนกัน ก็หยอกล้อกัน ทุกอย่างก็เต็มที่ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ผมเป็นคนที่ไม่ได้ปิดนะ ถ้าผมมี ผมก็บอกว่าผมมี ตอนแรกที่คบกันหลายๆ คนก็บอกให้ปิด แต่ผมก็ไม่ปิดเพราะจะใช้ชีวิตลำบากมาก คบใครเราก็บอกว่าเราคบ อีกอย่างผมก็โฟกัสไปที่งานมากกว่า”

ยอมรับเจ้าชู้ แต่มีความรับผิดชอบ
“ผมเจ้าชู้อยู่แล้ว ผมว่าทั้งหมดเราอย่ามาปฏิเสธการใช้ชีวิตของตัวเองเลย แต่เราต้องมีความรับผิดชอบมากกว่า ตอนผมอยู่กับน้องแตน ผมไม่ดื่มเลยนะเพราะน้องไม่ให้ดื่ม หลังๆ พอเราไม่ดื่มเพื่อนก็เริ่มที่จะถอยออกมาบ้าง ผมมองว่าเรื่องเจ้าชู้ถ้าผมอยู่แบบเป็นจริงเป็นจัง ผมก็เลิกได้นะครับ แต่พอเรามีความรู้สึกว่าความลับที่อยู่ภายในครอบครัวจะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

ถึงเจ้าชู้แต่ไม่เคยนอกใจ
“ไม่เคยครับ เพราะเวลาผมไปไหน ผมค่อนข้างจะตัวติดกับแตนตลอด เราจะไปด้วยกันตลอด เว้นแต่ช่วงหลังๆ พอมีปัญหา มีอะไรที่อึดอัดใจ ก็เริ่มมีไปคุยกับเพื่อนบ้าง เริ่มคุยกับคนอื่นบ้าง ผมเชื่อว่าคนสองคนเวลาใช้ชีวิตร่วมกันมันจะมีคำมั่นสัญญาที่ให้ต่อกันนะครับ พอทุกอย่างมันโอเค คำมั่นสัญญาก็ยังคงที่ แต่ถ้ามีอะไรที่มีความรู้สึกว่าเริ่มอึดอัดใจก็ต้องหาทางระบายออกไป ก็เป็นเรื่องธรรมดา”

“ระหว่างที่เป็นสามีภรรยาผมไม่เคยนอกใจครับ และอีกสิ่งหนึ่งกับข้อความต่างๆ ที่คนอื่นเขาโพสต์หลายครั้ง ไม่ว่าจะบอกว่าจับผมได้มาหลายครั้ง โดยนิสัยของแตน แตนเขาเป็นคนที่รับไม่ได้เรื่องพวกนี้ แตนคงไม่ทนมาหลายครั้งนะครับ เพราะเขาเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว ถ้าจับได้ว่ามีใคร เขาไม่เอาอยู่แล้ว จบเป็นจบ ก็มีครั้งนี้แหละที่พีกและแรงสุด จนถึงขั้นรับไม่ได้”

เสียดายเวลา 2 ปี ลั่นเป็นเวลาที่ดี
ผมเสียดายนะ เพราะแตนเป็นคนขยัน เป็นคนตั้งใจทำงาน และช่วงที่อยู่กับเราก็ถือว่าโอเค ถือว่าดีมากๆ ก็เสียดาย อยากจะบอกว่าสิ่งต่างๆ ที่เลวร้ายที่มันเกิดขึ้น ผมลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอย่างน้อยๆ ก็พิสูจน์ให้ผมกับคุณแจมมี่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้คบเป็นแฟนจริงๆ และอยากจะบอกหากมันทำให้เขารู้สึกว่ามันเลวร้าย ผมไม่ดี ก็ขอโทษ ช่วงนั้นที่ผมไม่ได้ตอบหรือพูดอะไร เพราะแค่ผมไอผมก็โดนด่าแล้ว ผมก็เลยต้องเงียบ และต้องขอโทษพี่ๆ สื่อมวลชนหลายๆ ท่านมากๆ ที่พยายามให้ผมออกมาอธิบาย ตอนนั้นทราบดีว่าถ้าอธิบายมันน่าจะแย่ รอจังหวะดีๆ ค่อยมานั่งคุย และบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีใครมาอยู่ด้วยกันด้วยความที่ไม่รักกัน ผมว่ารักกัน และถึงจุดๆ หนึ่ง ควรจะเดินจากกันด้วยสิ่งดีๆ มากกว่า”

เจอครั้งสุดท้ายวันจดทะเบียนหย่า ยังห่วงใย ชี้อีกฝ่ายรักใครทุ่มเต็มที่ กลัวผิดหวัง
ไม่ได้คุยเลยครับ แม้กระทั่งเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นของน้องล่าสุดยังพยายามที่จะคุยอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะคุยยังไงแบบไหน ก็ได้แต่คุยกับอีกฝ่ายที่เป็นลูกน้องของผมเอง ผมก็บอกว่าไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่ขอให้ยึดมั่นในสิ่งที่มันถูกต้องที่สุด เพราะเราคนดนตรีด้วยกัน วันสุดท้ายที่เจอกันคือวันจดทะเบียนหย่า”

ผมห่วงใยนะ เพราะเวลาแตนรักใคร เขามีความรักให้อย่างเต็มที่ด้วยความจริงใจและจริงจังจริงๆ และอีกอย่างเขาจะกลัวความผิดหวัง”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)





กำลังโหลดความคิดเห็น