xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! หนุ่มอ้างเป็น “เทพเพอร์ซิอุส” ที่แท้ลูกอดีตนักร้อง “แจ้ ดนุพล” ยอมรับเรียกเงิน 9 หมื่นค่ารักษา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ล้ำกว่าร่างทรง หนุ่มอ้างตัวเป็น “เทพเพอร์ซิอุส” ที่แท้ลูกนักร้องดัง “แจ้ ดนุพล” ยอมรับถูกพ่อตัดขาด  เคยโด่งดังจากพระพิฆเนศ ก่อนเจออาถรรพ์เบญจเพส เผยเรียกเงิน 9 หมื่นเป็นค่ารักษาเพราะเรียนจบพลังจิตจากอเมริกา ยันมีใบรับรองจากนักพลังจิตระดับโลก 

จากกรณีหนุ่มอ้างเป็นเทพเพอร์ซิอุส บรรลุวิชาล้ำกว่าร่างทรง อ้างตัวเป็นศาสตร์ระดับจักรวาล พิสูจน์ความเชื่อด้วยหลักทฤษฏีจากต่างประเทศ โดยนำศาสตร์ที่เรียนมาสอนให้กับชาวต่างชาติ เมื่อมีคลิปต่างๆ ถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์สามารถรักษาคนผ่านหน้าจอได้ เรียกเงินหมื่นเป็นค่าสอนค่ารักษา ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 25 มิ.ย. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “คุณคฑาพล สุริยะเนตร” หรือ “เทพเพอร์ซิอุส” รวมทั้ง “คุณนัท” และ “คุณต๋อง” ซึ่งออกมาแฉว่าถูกอีกฝ่ายเรียกเก็บเงิน

ไม่ใช่ร่างทรง?
คฑาพล : “ไม่ใช่ร่างทรง เป็นคนนั่งสมาธิ แล้วไปร่ำเรียนวิชามา”

เมื่อก่อนคนเคยเห็นคุณในเคเบิ้ลทีวี คุณพนมมือทำอะไร?
คฑาพล : “เป็นการทดลอง ทำครั้งเดียวในชีวิต ผมอยากรู้ว่าที่ผมตีทุกที่ มันคือจักรวาลในร่างกายของคนเรา มันเป็นศาสตร์ที่แตกออกมา แต่แก่นมีทั่วโลก พลังจักรวาล คำว่าจักร ถ้าเซิร์สในกูเกิลจะเป็นสากล ถ้าคนมองว่าบ้า เพี้ยน แต่มีหลักการ”

คุณมีชื่อเล่นมั้ย?
คฑาพล : “คลีนครับ ตอนนี้ก็ใช้ชื่อตามกระแส ทุกคนเรียกผมว่าเพอร์ซิอุส ย้อนกลับไปก่อนผมเป็นเพอร์ซิอุส ผมก็เป็นคนสำเร็จมาจากพระพิฆเนศ ทำเกี่ยวกับพระพิฆเนศจนโด่งดัง ผมนิมิตถึงพระพิฆเนศแล้วสร้างเหรียญท่าน ในยุคนั้นเป็นยุคเคเบิ้ล เป็นยุคที่เรามีความเชื่อเยอะมากในวงการ เป็นความเชื่อในสมัยโบราณ ทำแล้วโด่งดังมีคนศรัทธามากมาย พอทุกอย่างกำลังไปได้ดี มีหมอดูมาทักผมบอกว่าอายุ 25 ผมจะไม่เหลืออะไรเลย จะพัง จะเปลี่ยนแปลง เกิดเบญจเพส ซึ่งผมไม่เชื่อเพราะเป็นช่วงที่กำลังดีที่สุด ขัดแย้งมาก หัวเสีย ไม่เชื่อ แต่พออายุ 25 ผมจัดงานวันเกิด มีคนมาร่วมงานเยอะมาก แต่ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร ขณะที่ผมกำลังบรรยายบนเวที ขาขยับไม่ได้ เหมือนตะคริว คราวนี้เดินไม่ได้เลยต่อหน้าลูกศิษย์เป็นพันคน”

คุณเป็นอาจารย์เหรอ?
คฑาพล : “เมื่อก่อนผมเป็นอาจารย์ ผมส่งพลังจักรวาลคนแรกผ่านสื่อ ผมก็บอกขอให้ทุกคนส่งพลังให้ผมด้วย เพราะผมส่งพลังให้คุณ ร่างกายผมไม่ปกติ ผมลุกไม่ได้แล้ว พูดแบบไม่อาย ขาฉีกทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ฉีกแบบเส้นเอ็นเจ็บปวดทรมานมาก ต้องทนเพราะคนดูเราอยู่ เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเอะใจในคำพูดของหมอดู ไม่กี่วันก็เริ่มป่วยไม่มีสาเหตุ ไปหาหมอ หมอบอกคุณกล้ามเนื้อฉีก ต้องพักผ่อนเยอะๆ นอนน้อย นอนไปนอนมาก็เปลี่ยนแปลงเบญจเพสเหมือนที่เขาทัก เหมือนเราวูบ สลบไป เหมือนหลับใน ระหว่างหลับในก็เจอสิ่งที่นอกเหนือกว่าที่เรารู้ เจออย่างนี้ครับ เทพที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ก็เป็นจิตดวงหนึ่งที่เจอเรา ตอนเราสลบ”

จากพิฆเนศมาเป็นเพอร์ซิอุส มันคนละขั้วเลยนะ?
คฑาพล : “ใช่ครับ ตอนแรกเราก็ตั้งคำถามแบบนี้ มันเกี่ยวอะไรกับผม พระพิฆเนศไปไหน ครูบาอาจารย์ ความสำเร็จที่เราสร้างมันหายไปไหน ก็นี่แหละครับคือสิ่งที่เขาอยากให้ถ่ายทอด เขาอยากให้เราเล่าเรื่อง เป็นหนังสือที่ผมดัดแปลงมาจากประสบการณ์ที่ผมได้รับมาเพื่อความบันเทิง ง่ายๆ เล่มนี้วางขายแล้ว จำหน่ายด้วย อ้างอิงว่าเพอร์ซิอุสสื่อสารกับเราจริงๆ”

คุณถูกร้องเรียน เพราะเอาเหรียญแปะหัวแล้วบอกว่ามีพลัง?
คฑาพล : “บางสิ่งบางอย่างผมบอกแล้วว่าเป็นการทดลอง การทดลองไม่ได้มีผิดมีถูก มันอยู่ที่มุมมองคนว่าชอบหรือไม่ชอบมากกว่า ถ้าผมไม่ทำเป็นต้นแบบแล้วจะมีใครทำ ทุกอย่างผมเป็นต้นแบบ”

ไปโฆษณาชวนเชื่อมั้ยว่ามีพลังจิตแล้วเอาเหรียญแปะหัว?
คฑาพล : “ถ้าจะบอกสังคม ก็อยากจะบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกิ่งก้านที่แตกออกมา วันนี้ผมเข้าถึงแก่น สิ่งเหล่านั้นเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ทดลองต้องลองผิดถูก”

แล้วเอาเหรียญแปะหน้าผากเพื่ออะไร?
คฑาพล : “ทดลองว่าพลังที่หน้าผากคนเรามีจริงหรือเปล่า ผมไปศึกษามาอีกแนวว่าตรงนี้จุดนี้เป็นดวงตาที่ 3 สมองจุดนี้มีแม่เหล็กมาก ผมเลยทดลองแค่นั้นเอง ผมแค่ทดลองตามหลักที่เขาบอก ผมทดลองหลายอย่าง มีรูปแบบหลายรูปแบบ ขอแค่ได้ลอง”

อีกอันคือเอาเหรียญสองเหรียญโยนลงมา เหรียญต้องวางขนานกัน?
คฑาพล : “มันเป็นการเท้าความมาถึงวันนี้ ที่คุณเห็นเป็นเหรียญสองเหรียญ แต่อะไรขนานกันจริงๆ มันคือมนุษย์เหรียญนึงกับเวลา ตอนนั้นผมไม่รู้เท่านี้ ผมอยากจะบอกว่าถ้าทุกคนและคนทั้งโลกมันมีแค่วงกลมแค่นี้ แล้วชีวิตจะง่ายมั้ย ผมค้นพบวงกลมนี้ แล้วว่ามันคืออะไร”

คุณเป็นลูกเทพเจ้าซุสหรือเปล่า?
คฑาพล : “ผมไม่ได้เป็นลูก ผมก็เป็นผม แต่มาสื่อสารมาบอกถึงเพอร์ซิอุส”

ประมาณ 3-4 ปีก่อนคุณเคยออกช่องนึงจนถูกสั่งปิดรายการ และมีข่าวว่าคุณถูกตัดพ่อตัดลูกจากพ่อ พ่อคุณเป็นนักร้องชื่อดัง คุณแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์?
คฑาพล : “ใช่ครับ”

คุณแจ้ตัดขาดคุณ?
คฑาพล : “ไม่ได้ตัดขาด พ่อคาดหวังเราเยอะ เพราะเราเป็นลูกคนโต แต่ด้วยความคิดคนเราไม่เหมือนกัน ก็พยายามอธิบายให้ฟัง ขอทดลองในสิ่งที่ผมเชื่อ ถ้าอายุ 32 แล้วผมไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ ผมไม่ยกตัวเองว่าบรรลุ จะขออพิสูจน์ในสิ่งที่ผมเชื่อและมีความเป็นไปได้ ถ้าผมทำได้ก็ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็จะเลิก”

ตอนปิดช่องคุณเฟลหนีไปต่างประเทศ?
คฑาพล : “ตอนนั้นเราทำตัวเราเอง การทดลอง เราลืมไปว่าเราทำออกสื่อ ถ้าเราทดลองอะไรไม่ออกสื่อคงไม่มีปัญหา แต่กระแสด้วย เหมือนเรามีชื่อเสียงมากในยุคนั้น”

เขาชื่นชอบหรือด่า?
คฑาพล : “ลูกศิษย์ดั้งเดิมศรัทธาผมจริง แต่พอมาเป็นเพอร์ซิอุสมันเป็นสากล ชื่อเป็นฝรั่ง คนติดตามเป็นแมส มีวัยรุ่นเข้ามา ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ทั้งว่าทั้งด่าว่าดูหนังเยอะไปหรือเปล่า ผมไม่เถียงนะ เราให้โอกาส คุณมีสิทธิ์คิดอะไรอยู่แล้ว”

มีฝรั่งมานั่งล้อมวงคุณ?
คฑาพล : “ฝรั่งเขารับฟังเหตุและผล ผมเลยลองไปทำที่อเมริกา เขารับพลัง คนพวกนี้คือนักพลังจิตระดับโลกที่มานั่งให้โอกาสคนไทยอย่างเราลองแสดงความสามารถ เขามีใบประกาศมีอะไรทุกอย่าง”

มีคนว่าคุณเลอะเทอะมั้ย?
คฑาพล : “มีอยู่แล้ว แค่รูปภาพยังเลอะเทอะเลย”

คุณกลับมาเมืองไทย คุณตั้งตนรักษาคนได้ เรียกเก็บเงิน?
คฑาพล : “ผมเรียกเงินจริงครับขั้นต่ำ 3 พัน ไม่ได้รักษาแค่นั่งคุยกันเฉยๆ อันนั้นเราคุยกันตกลงกันว่าเรตผมเท่านี้ ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ไปหาคนอื่น ผมเรียนจบมาสูง จบมาแพง ผมเรียนพลังจิตที่อเมริกา มีใบรับรองหมด เรียกเงิน 3 พันเป็นค่ารักษาเพราะเรียนมาแพง คนที่มอบให้คือนักพลังจิตระดับโลก ในกูเกิลก็มี”

คุณรักษาอะไร?
คฑาพล : “ผมก็ใช้พลังรักษา คำว่ารักษาเมื่อก่อนผมส่งพลังให้คน ผ่านหน้าจอทีวี ให้คนนับตาม 1 2 3 เมื่อก่อนผมกล้าพูดเลยผมไม่รู้กระแสมาจากไหน ผมส่งพลังผ่านทีวี แล้วผมเรียกเงินตรงไหน ผมไม่เคยได้แก้ต่างตั้งแต่สมัยก่อน”

เมื่อก่อนไม่เคยเก็บเงิน?
คฑาพล : “เมื่อก่อนนับ 1 2 3 ไม่เคยมีใครเสียเงินครับ เพราะเป็นรายการสด เขาจะจ่ายเงินผมยังไงล่ะ ช่องมีวัตถุมงคล ถ้าถามงี้ต้องถามทุกอาจารย์ ความเชื่ออยู่กับประเทศเราตลอด บางคนชอบเพราะเป็นศิลปะ คนไม่ชอบก็งมงาย บางคนสะสมเป็นคอลเลคชั่นก็มี คนไปตัดสินไหว้เทพงมงาย ผมไม่ได้ไหว้เทพเลย ที่บ้านผมตั้งไว้เฉยๆ ไม่เคยยกมือไหว้”

อดีตไม่เคยเก็บเงิน?
คฑาพล : “ช่องเขาขายเหรียญ วัตถุมงคลทุกอาจารย์มีหมด”

ใส่แว่นทำไม?
คฑาพล : “ต้องใช้สมาธิมากในการพูด และหลังจากนี้ผมจะรวมพลังแสดงให้เห็น ขอแจงนะครับ ผมไม่ได้เข้าทรง ไม่ได้อวดอุตริ ไม่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อะไรทั้งสิ้น เป็นหลักความจริงในชีวิตประจำวัน ผมไม่ได้รับประกันว่าผมส่งพลังให้แล้วต้องหาย ผมทำเคสนึงหลายชม. เมื่อก่อนผมส่งลูกศิษย์เป็นพัน”

จะทำเพื่ออะไร?
คฑาพล : “ให้คนเข้าใจว่าคุณใช้ชีวิตทุกวัน คุณเกิดมาทำไม”

คุณนัทและคุณต๋องเป็นผู้เสียหายเคยไปเจอเทพเพรอ์ซิอุส เขาบอกว่าเขารักษาได้ เขาเรียกเงินเหรอ?
นัท : “ผมเคยรู้จักเขาประมาณ 6 ปีที่แล้ว เซิร์สในอินเตอร์เน็ต ช่วงนั้นผมเป็นคนตามล่าฝัน ตามเวทีประกวดต่างๆ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ เลยไปปรึกษาเขา เขาก็บอกว่าเขาจะส่งพลังให้เราประสบความสำเร็จ ส่งทางโทรศัพท์ เฟซบุ๊ก ผมก็ไปรายการเกมโชว์ต่างๆ มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงกลาเดือนมิ.ย. ผมไปรายการเกมโชว์ รายการใหญ่พอสมควร มีเงินรางวัล 1 ล้านเราก็ปรึกษาเขา อินบ็อกไปในเฟซบุ๊กจะทำยังไงให้เงินล้าน จะมีเส้นทางประสบความสำเร็จ จะทำยังไง จนช่วงเย็นให้เบอร์มา ผมก็โทรกลับไป เขาบอกว่าผมต้องหาเงินมา 9 หมื่นบาทเพื่อให้การตามล่าฝันประสบความสำเร็จ เขาบอกว่าถ้าเป็นเศรษฐี คนมีเงิน หลักแสนเขาก็ยอมจ่าย เราได้ยินก็หงายเงิบเลย ผมก็บอกว่าผมเดือดร้อนหนี้สิน เขาก็บอกว่าจาก 9 หมื่นลดเหลือ 3 หมื่นแล้วกัน”

คฑาพล : “จริงๆ ไม่เกี่ยวกับเงิน ผมรู้จักเขามา 6-7 ปี แรกๆ ไม่ได้เสียเงินอะไรเลย”

ต๋อง : “ครั้งแรกผมเข้าไปหาเขา ส่วนตัวผมเชื่อศรัทธาพระพิฆเนศ กะไปไหว้ เขาให้เหรียญมา 2 เหรียญ”

คฑาพล : “ผมให้ฟรีใช่มั้ย ผมไปขายคนอื่น ผมขาย 2 พัน ทำไมไม่พูดตรงนี้ก่อน”

ต๋อง : “ผมไปหาเขาทางเฟซบุ๊ก เขาก็ทักมาว่าอดีตชาติผมเคยเป็นพญานาค ตอนนั้น 50-50 แล้วพี่คนสนิทเขาก็ทักว่าเป็นพญานาคเหมือนกัน เขาไม่ได้เรียกร้องแค่ทักว่าผมเป็นพญานาค หลังจากนั้นก็เว้นระยะห่างไป คุยกันตลอดช่วงหลังพ่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง ก็ทักแชตคุยกัน”

คฑาพล : “ผมทักเขาเองว่าพ่อเขาป่วย ล่วงหน้า”

ต๋อง : “เขาบอกว่าต้องให้เขาช่วย เพราะไม่งั้นจะไม่ทัน จะสายเกินไป”

คฑาพล : “ผมทักว่าพ่อเขาจะเข้าโรงพยาบาล อีก 4 วัน”

ต๋อง : “พ่อก็เข้ารพ.จริง มาล่าสดเขาบอกว่าให้อาจารย์ช่วย ต่อดวงชะตากัน มีวิธีแก้ให้ แต่มี 5 พันบาท เขาบอกว่าคิดผมถูกแค่ 5 พันบาท ผมบอกไม่มีหรอก ผมหาเช้ากินค่ำ เขาก็ลดให้ 3 พัน ผมก็ยังไม่มีอีก เขาก็ให้ผ่อนทีละพันห้า พอดีคุยกับพี่นัทก่อน เขาทักมาว่าเคยเจอแบบนี้มั้ย”

คุณนัทจ่ายมั้ย?
นัท : “ไม่จ่ายเพราะผมไม่ค่อยมีตังค์ ต่อให้มีก็ไม่จ่าย เงิน 3 หมื่นเอาไปเลี้ยงดูพ่อแม่ดีกว่า มีความจำเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป”

คุณสองคนไม่ได้เสียเงินให้เขา แต่เขามีพฤติกรรมเรียกเงิน?
นัท : “ใช่ครับ”

คฑาพล : “ผมก็เรียกเงินจริง เรามีใบประกาศใบรับรองวิชาชีพจะกลัวทำไม คุณไม่จ่ายก็ไม่จ่ายสิ อย่างสองคนนี้เขาได้ผลประโยชน์มากกว่าผมอีก ผมให้เหรียญเขาไปฟรี ผมสิเสียผลประโยชน์”

ต๋อง : “เขาทักว่าพ่อจะไม่รอด พ่อผมป่วย พูดประมาณนี้ผมก็เซลฟ์ มาบอกว่าพ่อกำลังจะไปแล้ว ก็เลยให้มารักษา”

คุณบอกว่าบางคนรักษาไม่หาย?
คฑาพล : “ใช่ อย่างที่ทักเขาไปครั้งแรก พ่อคุณเข้ารพ. เข้าจริงมัย เข้าจริง สอง ผมทักใหม่ มันเป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นแล้ว”

ต๋อง : “แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเห็นในเฟซบุ๊กมั้ยเพราะผมโพสต์รูปพ่อในเฟซบุ๊ก”

คฑาพล : “แล้วผมจะรู้มั้ยว่าอีก 4-5 วันเขาจะป่วย”

คืนเงินเขามั้ย?
คฑาพล : “เหมือนผมทำเต็มที่แล้ว เหมือนหมอรักษาเต็มที่แล้ว ไม่ได้ถีบหัวส่งเขานะ รักษาฟรียังมีเลย ผมมีพยานนะ 10-20 คน”

นัท : “เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องรีบหาเงินมาให้”





กำลังโหลดความคิดเห็น