“เมทัล” แต่งปีหน้า แฮปปี้ตลอดเวลาที่คบ “โดม” บอกแต่งกับคนนี้ก็ไม่แย่ ตื่นเต้นจะมีอีกคนเป็นคู่ชีวิตแชร์ทุกอย่าง โดดช่วยธุรกิจฝ่ายชายจริงจัง สร้างอนาคต
หวานใจ “โดม ปกรณ์ ลัม” เข้าเฝือกนานเป็นเดือน “เมทัล สุขขาว” ก็เผยว่าตลอดเวลาก็คอยปรามๆ ไม่ให้ทำกิจกรรมอะไรมากเกินไป เพราะอีกฝ่ายดื้อมาก
“ตอนนั้นกระดูกแตกค่ะ แล้วก็ใส่เฝือกอยู่นานมาก แต่ว่าระหว่างที่ใส่เฝือกก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ แต่หมอยังไม่อนุญาตให้ถอด มันต้องดามเอาไว้ก่อน เพราะเส้นประสาทมันต้องโตไปตามเวลาเราดาม เขาก็ต้องใส่ไปจนใกล้จะหายเลยค่ะ พอถอดก็เดินได้เลย เพราะใส่นานมากอยู่เหมือนกันค่ะ ประมาณ 3-4 เดือน”
“แฟนๆ ก็เป็นห่วงค่ะ แฟนๆ เป็นห่วงเยอะ หนูเป็นแฟนก็เป็นห่วง (หัวเราะ) เพราะว่าเขาเป็นคนที่บ้าออกกำลังกายมากค่ะ ดื้อด้วย บางทีคิดว่าตัวเองดีขึ้นแล้วก็จะไปวิ่ง จะไปปั่นจักรยาน แล้วกระดูกเท้าแตกแต่จะไปปั่นจักรยานคืออะไรพี่ หนูเป็นห่วงมาก เขาก็ไปค่ะ พอหายแป๊บเดียวก็ไปวิ่งแล้ว เราก็ห้ามอะไรไม่ได้”
“ตอนนี้ก็ทำกิจกรรมได้ประมาณหนึ่งค่ะ แรกๆ หนูเลยขอว่าถ้าอยากออกกำลังกายจริงๆ ให้ปั่นจักรยาน เพราะว่าน้ำหนักมันไม่ต้องลงเยอะ มันไม่เหมือนการวิ่ง เพราะการวิ่งน้ำหนักจะไปลงที่เขาเจ็บมากกว่า จนเขาบอกว่าเขารู้สึกว่าเขาโอเคแล้ว เขาก็เลยไปวิ่งใหญ่เลย (หัวเราะ)”
อยากดุแต่ก็ขำตัวเอง
“หนูอยากดุนะ แต่ติดตลกมากกว่า คือดุจริงจังมากก็ขำตัวเองว่าฉันจะเครียดทำไม หนูเป็นคนที่พูดด้วยเหตุผลจนที่สุดแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมใส่เฝือก เพราะว่าตอนที่เขาใส่เขาก็รู้สึกว่าเขาหายแล้ว แต่หนูรู้สึกว่ามันต้องใส่เพราะหมอเขาขอมา ไม่งั้นในอนาคตมันจะมีปัญหาในภายหลังว่ามันจะกลับมาเจ็บอีก ก็ทำเต็มที่แล้วจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) ตอนนี้หมอไม่ได้ให้ระวังอะไรแล้วค่ะ แค่ให้ไปนัดเช็กอาการธรรมดา”
ความรักไม่มีอะไรให้ติดตาม นอกจากรอลุ้นแต่งงาน
“ความรักก็เหมือนเดิมค่ะ อาจจะไม่มีอะไรให้ติดตาม ทุกคนคงรอลุ้นอย่างเดียวว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง เรื่องแต่งจริงๆ แล้วหนูเป็นคนที่ไม่ได้มีความฝันว่าจะต้องแต่งงานอายุเท่าไหร่ หรือแต่งกับใคร หรือต้องแต่งกับพี่โดม คือหนูแฮปปี้มาตลอดตั้งแต่คบกันมา และรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่ที่จะแต่งงานกับคนนี้ แต่แค่พอถึงเวลาแล้วเราเป็นคนมีโลกส่วนตัวเลยรู้สึกว่าจะถึงเวลานั้นแล้วเหรอ เพราะการแต่งงานมันเหมือนเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของผู้หญิงเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน เราก็เลยแค่ตื่นเต้นเฉยๆ บางทีเราเลยอึ้งๆ ไปว่าใกล้แล้วเหรอ เอาจริงแล้วเหรอ (หัวเราะ)”
“ก็ปรึกษากับที่บ้านค่ะ แรกๆ หนูชิลมาก ก็คิดว่าแต่งก็ดี เพราะพี่เขาก็น่ารัก ทุกอย่างแฮปปี้ แต่พอมันใกล้จะถึงจริงๆ หนูก็ชอบไปถามแม่ว่าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนมั้ย มันจะเป็นยังไงก็มีปรึกษาบ้าง มองไว้ว่าเป็นปีหน้าค่ะ แต่ยังไม่ได้ระบุวัน ยังไม่ได้ดูฤกษ์ ยังไม่ได้แพลนเดือนเลยค่ะ”
ครอบครัวสองฝ่ายชิลๆ ไม่มีฟีลถามเรื่องแต่ง ตื่นเต้นจะมีอีกคนเข้ามาแชร์ทุกอย่าง
“ผู้ใหญ่สองฝ่ายของบ้านเราจะเป็นแนวสนุกสนานมากกว่า เวลาเจอกันตามบาร์บีคิวก็เปิดเพลงเต้น แม่พี่โดมก็เต้น พ่อหนูก็ร้องเพลง จะเป็นฟีลนี้มากกว่า ไม่ได้มานั่งคุยว่าลูกเธอจะแต่งกับลูกฉัน ไม่มีฟีลนั้นเท่านั้น แต่ทุกคนรู้ว่าเราแฮปปี้แล้วล่ะ มันไปด้วยกันได้ เขาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคน ให้ลูกๆ ตัดสินใจกันเองมากกว่า ก็ตื่นเต้นนะ หนูตื่นเต้นตรงที่เราจะมีอีกคนหนึ่งที่เราจะต้องแชร์ทุกอย่างด้วย มันก็เป็นอะไรที่รู้สึกแปลกจริงๆ นะพอเอาเข้าจริงๆ”
โดมไม่ห้ามมีโลกส่วนตัว ชี้อาจชอบที่ตนเป็นแบบนี้ก็ได้
“เขารู้ค่ะ เขาก็โอเคนะ เพราะบางทีหนูก็ชอบอยู่คนเดียว ฟังเพลงคนเดียว อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาชอบหนูก็ได้นะ เพราะหนูจะได้ไม่ไปยุ่งกับเขาเยอะ เขาอาจจะคิดว่าดีแล้วเขาจะได้มีพื้นที่ของเขาเหมือนกัน (หัวเราะ) ก็แฮปปี้ค่ะ แล้วพี่โดมเขาเป็นคนน่ารัก ให้เกียรติผู้หญิง และไม่ใช่แค่กับหนูนะคะ คือพี่โดมเป็นคนที่น่ารักอยู่แล้ว”
โดดช่วยดูแลธุรกิจ สร้างอนาคตด้วยกัน
“คงเป็นงานนี่แหละค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่หนูก็ไม่คิดว่าจะต้องเข้ามาช่วยจริงจัง คือพี่โดมเพิ่งหันมาทำธุรกิจเยอะขึ้นค่ะ จัดทั้งงานและทำผลิตภัณฑ์ขาย ก็ยุ่งขึ้นเรื่อยๆ หนูก็เข้าไปช่วยขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นสิ่งที่หนูคิดว่ายิ่งใหญ่กว่าทำอะไรให้กัน เพราะมันเป็นสิ่งที่มองอนาคตไปร่วมกัน สร้างให้มันมั่นคง”
“ก็ต้องปรับตัวค่ะ เพราะเราจะแฮปปี้เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว หมายถึงว่าเป็นตัวของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์มันไม่ได้แล้ว เพราะเราต้องนึกถึงว่าเราต้องสร้างอนาคต สร้างธุรกิจ เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของคนสองคนแล้วค่ะ ก็ต้องปรับนิดนึงเหมือนกัน”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)