xs
xsm
sm
md
lg

“โอปอล์” ตกใจ “อลิน” โพล่งแต่คำประหลาด คาดอาจยังไม่ลืมชาติที่แล้ว!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“โอปอล์” ดีใจคนทักหน้าเหมือนนางเอกระดับโลก “นาตาลี เคลลีย์” ราวกับฝาแฝด บอกบางมุมตนเหมือนนางเอกดังจนน่าตกใจ แต่อย่าไปบอกอีกฝ่าย เดี๋ยวจะโกรธ แพลนลุยงานเบื้องหลังและหาความรู้ใส่ตัวหลังจากที่ลูกเตรียมเข้าโรงเรียนเร็วๆ นี้ รับสกรีนเพื่อนเข้าบ้าน หวั่นลูกติดคำหยาบ บอก “น้องอลิน” ชอบพูดแปลกๆ ทั้งเลิกทาส ถวายหลวง คาดยังไม่ลืมชาติที่แล้ว

เป็นที่พูดถึงกับของคอหนังในโลกโซเชียลว่าพิธีกรสาว “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะกุล” หน้าตาละม้ายคล้ายกับนางเอกระดับโลกอย่าง “นาตาลี เคลลีย์” ราวกับแฝดคนละฝาไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว เมื่อมีโอกาสเจอสาวโอปอล์ที่งาน งานกิจกรรม Outdoor Classroom Day เล่นสนุกนอกบ้าน เสริมสร้างพัฒนาการลูกรัก จึงสอบถามกับสาวโอปอล์ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าตนเหมือนนางเอกดังมากจนน่าตกใจ

“นาตาลีนางเป็นนางเอกหนังโตเกียวดริฟ ตอนนั้นคนก็ทักเยอะว่าเขาหน้าเหมือนเรา เรามองก็รู้สึกว่าเหมือนกันจริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็หายไปจน 10 ปีแล้ว เขากลับมาเล่นเรื่องไดนาสตี้ เราดูเราก็ยังรู้สึกว่าเหมือนเราจริงๆ คนก็แท็กกันมาเต็มเลยว่าเหมือนเรา ถามความรู้สึกเรา เรารู้สึกว่าเราดีใจมากนะเพราะว่าเขาสวยมาก ถ้าเขาเหมือนกันก็คงเหมือนเราเวอร์ชั่นที่สูงกว่านี้ 5 ซม. แล้วผอมกว่านี้ประมาณ 10 กิโล (หัวเราะ) เราก็อายเหมือนกัน อย่าไปบอกเขานะว่าเราเหมือนเขา เดี๋ยวเขาโกรธ แต่เราดีใจที่เราเหมือนเขาเพราะเขาสวยดีนะ เขามีความงามแบบเอ็กซ์ซอติกนิดนึง ไม่รู้ว่าเป็นฝรั่งเป็นแม็กซิกัน เป็นเปรู เป็นไทย”

“พอเขาว่าเราสวยเทียบดาราระดับโลกเราก็เชิดสิ ตอนที่สามีบอกเรานี่นั่งส่องกระจกไม่หยุดเลย พูดกับตัวเองเหมือนเนอะ (หัวเราะ) บอกกับสามีว่าพี่โอ๊คมีแต่คนบอกว่าปอล์เหมือนคนนี้ สามีก็พูดส่งๆ ว่าคล้ายอยู่ เราก็ดึงหน้าต่อไป เหมือนเนาะ เขาก็พูดไม่เต็มปากนะ เหมือนพูดส่งๆ (หัวเราะ) สำหรับเราเราว่าหน้าไม่ได้เหมือนเป๊ะ แต่บางมุมบางองศาเรายอมรับว่าเหมือนกันจริงๆ ขนาดตัวเราเองยังตกใจเลย แต่คือเขาสวยไง เราก็โอเค”

ฟุ้งวางแผนลุยงานเบื้องหลังและหาความรู้ใส่ตัวหลังจากที่ลูกเข้าโรงเรียนเร็วๆ นี้
“ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเรารับงานน้อยลงเพื่อให้เวลากับเขาเต็มที่ อยู่กับลูกทุกวัน พอเขาโตขึ้น คือเขาดี เรารู้สึกว่าเหมือนเรามีเพื่อนสนิทใหม่มาได้ 3 ปีแล้วเป็นลูกของเรา อยู่ด้วยกันตลอดเวลา มองตากัน อ้อนลูกได้ นี่แม่เมื่อย เขาก็จะเดินมานวด เขาเข้าใจเราทุกอย่าง บางทีเราแกล้งทำเป็นร้องไห้ อลินก็จะพูดว่าไม่เป็นไรนะแม่ มันเหมือนกับมีคนที่รักเรามากๆ เพิ่มขึ้นมาอีกสองคน เรามีความสุขมาก”

ต้องห่างลูกแล้วเราคิดว่าพ่อแม่ทุกคนเป็นเหมือนกัน คงใจหายแหละ ทุกวันนี้เราอยู่กับลูก ความสุขของเราคืออะไรก็ได้ที่เราอยากกิน ซื้อส้มตำ ยำหอยดองมากินที่บ้าน อยู่กับลูก ลูกหลับก็หลับไปกับลูก ลูกตื่นมาเล่นกับลูก นี่คือชีวิตเราตอนนี้ ถ้าลูกเข้าโรงเรียนแล้วเราจะอยู่กับใครล่ะ ฮือๆ งานเบื้องหน้าเราก็ไม่ค่อยรับแล้ว ตอนนี้เข้าบริษัทตัวเองก็ต้องกระเตงลูกไป ถ้าลูกไม่อยู่ ไปโรงเรียนแล้วเราคงเหงา ก็คงใจหายแต่ชีวิตเราก็ต้องไปต่อ”

“งานเบื้องหน้าเราก็รับในระดับนึง เราคงมาให้เวลากับการทำธุรกิจของตัวเอง เราดูแลอยู่ 2 บริษัททุกวันนี้มันก็หนักอยู่เหมือนกันเบื้องหน้าเราเลยค่อยๆ ถอย มันจะมีช่วงนึงในหนึ่งวันที่ว่างคือช่วงกลางวันที่เคยอยู่กับลูก เราคิดว่าเราจะเอาเวลาตรงนี้ไปเรียนหนังสือเพิ่ม จริงๆ แล้วเราเป็นคนที่ชอบเรียน ชอบหาความรู้ อย่างก่อนมีลูกเราเรียนการเมือง จากพระปกเกล้า พอลูกเราเล็กเราไปเรียนนูทริชั่น จากมหิดล เรากำลังคิดว่ามันมีอีกหลายอย่างที่เราอยากจะเรียน ตอนนี้ที่คิดคือถ้าลูกเข้าเรียนจะไปเรียนทำขนมไทย

“คือลูกเราแค่ 2 ขวบครึ่งเขายังมีคำถามมาถามเราเยอะแยะเลย บางอันเราตอบไม่ได้ จะไปเรียนเพิ่ม ด้วยเราค่อนข้างโอเคกับธุรกิจเราแล้ว เราไม่ห่วง ตอนนี้เราห่วงเรื่องของทักษะในชีวิตของเรา เงินเรา เราโอเคแล้ว เราอยากได้ประสบการณ์ชีวิต”

รับสกรีนเพื่อนบางคนที่มาเล่นกับลูกแฝด “อลิน-อลัน” แฮปปี้ลูกไม่มีหลุดคำหยาบ มีแต่คำพูดแปลกๆ ซึ่งคาดว่าลูกอาจจะยังไม่ลืมชาติที่แล้ว
“เราไม่ไปไหน เพื่อนเราจะเป็นใครก็ตามเขาก็ต้องมาหาเรา กลุ่มที่ไม่ห่วงเลย เช่น เต้ย จรินทร์พร อ้อม สุนิสา พี่ป๋อมแป๋มเองเขาก็จะพูดช้าๆ เบาๆ เขาจะสนิทกับอลัน กันต์ ซันนี่เวลาเข้าบ้านก็จะเป็นลุง เป็นน้า เป็นอาที่ดี จะมีบางคนที่ต้องระวัง เช่น เติ้ล ผู้กำกับไดอารี่ตุ๊ดซี่ เติ้ลจะมีการคิดรูปประโยคที่สมบูรณ์ด้วยคำหยาบทั้งสิ้น เช่น แพง... ร้อน... เราก็ต้องระวัง เขามาบ้านแล้วลูกเราจะจำ ต้องมีการสกรีนเพื่อนเข้าบ้าน เพื่อนบางคนเราไม่ให้เข้าบ้านจนลูกเราโตเลยนะ จนเข้ามาได้แล้วพูดหยาบเราตีเขาเลยนะ คือต้องบอกต้องพูดเพราะตอนนี้ลูกเราจำ เรากลัวมาก (เสียงสูง) ว่าลูกเราจะจำคำแปลกๆ ไปพูดที่โรงเรียนแล้วเขาจะนึกว่าพ่อแม่เลี้ยงมาไม่ดี”

“เขาไม่มีหลุดคำแปลกๆ ที่เราไม่แฮปปี้ แต่เขาจะหลุดคำที่ทำให้เรารู้สึกตกใจมากกว่า เช่น เขาถามเราว่าเลิกทาสรึยัง เราก็อึ้งไป เราก็ถามอลินอะไรนะลูก เขาก็ยังพูดประโยคเดิมว่าเลิกทาสรึยัง เราก็บอกไปว่าเขาเลิกทาสแล้วลูก แล้วคิดในใจว่าอะไรวะ งงมาก บางทีเขาจะหลุดคำแปลกๆ อย่างเราพาลูกไปวัดทุกอาทิตย์ พอเลี้ยวเขาวัดเขาก็พูดว่าฉันจะไปถวายหลวง เขาไม่เคยดูละครเลยนะ เราไม่ได้ให้เขาดูทีวี นางอาจจะยังไม่ลืมชาติที่แล้ว”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)






กำลังโหลดความคิดเห็น