“เจมส์ มาร์” น้ำตาคลอ มีตแอนด์กรี๊ดครั้งที่ 4 มอบริสแบนด์สลักชื่อเป็นที่ระลึก ไม่คิดมีแฟนหวังอีเวนต์ เผยกิจกรรมเยอะ ไม่มีเวลาคิดเรื่องความรัก เชื่อในพรหมลิขิต แต่ไม่รอให้ผู้หญิงมาจีบ เผยจีบใครไม่เก่ง ไม่มีสเปก ชอบด้วยความรู้สึก บอกอาจต้องลดกิจกรรม เลิกเลี้ยงแมว จะได้มีเวลา เตรียมให้รางวัลตัวเองเที่ยวยุโรปเรียนรู้โลก 10 วัน
จัดมีตแอนด์กรี๊ดเอาใจแฟนๆ ที่สนิทสนมกันเหมือนครอบครัวมาปีที่ 4 แล้วสำหรับพระเอกหนุ่ม “เจมส์ มาร์” ที่จัดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยปีนี้หนุ่มเจมส์พาแฟนคลับตัวจริงไปทำกิจกรรมที่ จ.จันทบุรี 3 วัน 2 คืน โดยขนกิจกรรมมาเอนเตอร์เทนแฟนๆ สุดฝีมือ ทั้งร้องทั้งเต้น ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นงานที่อิ่มเอมใจมากๆ ถึงขั้นแอบน้ำตาซึมเลยทีเดียว
“เป็นมีตแอนด์กรี๊ดครั้งที่ 4 ของผมแล้วครับ สนุกมาก เป็นครั้งที่เหนื่อยแต่สนุกที่สุดตั้งแต่ทำมา มีโชว์ เกมหลากหลายมากครับ อย่างเรื่องเพลงก็มีเพลงลูกทุ่ง เพลงแดนซ์ เพลงในยุค 90 เพลงในวัยของแฟนคลับที่มา โชว์เยอะมาก แล้วเกมที่เล่นก็ไม่เหมือนทุกปี เป็นเกมที่ทุกคนต้องออกแรงหน่อย ผมและทางทีมงานเป็นคนออกแบบดีไซน์งานทั้งหมดขึ้นมา พยายามหากิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำกับปีที่ผ่านๆ มา จริงๆ ก็ไม่ซ้ำกันสักปี แต่ไหนๆ ปีนี้เราได้ไปจัดกันที่ทะเลแล้วก็ควรจะได้ออกกำลังกาย ออกแดดหน่อย”
“มีซีนซึ้งประทับใจหลายซีนเลยครับ เขามีโปรเจกต์ให้เราทุกปี ก็ซึ้งทุกปีครับ ปีนี้ก็เลยมอบอะไรกลับไปให้เขาบ้าง ปีนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์ ทุกปีเขาจะมีการเล่าเรื่องมาไม่เหมือนกัน บางปีเป็น vtr บางปีมาเล่นให้ดูเลย ปีนี้ค่อนข้างซึ้งมาก เหมือนผมเล่นละครมา 5 เรื่อง เขาก็เอาผลงานของเรามาโชว์ให้เราดู ทำให้เรานึกย้อนกลับไปว่าเราทำงานมาเยอะเหมือนกันนะ ก็ขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดเวลา”
“ถามว่าผมร้องไห้มั้ย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมได้ยินเสียงแฟนคลับร้อง ฮือๆๆ ก็ซึ้งกันอยู่ครับ ผมก็มีน้ำตาคลอๆ เพราะผมก็รู้สึกปลื้มจริงๆ สิ่งที่เขามอบให้กับเราพอเรามานั่งคิดดู บางทีเจอกัน เราก็ทำงาน เราก็ไม่เห็นหรอก แต่พอมาได้เจอ เราได้นึกถึงสิ่งเหล่านั้นจริงๆ มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ”
บอกสนิทสนิทกับแฟนคลับ ดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว
“เราดูแลกันเหมือนครอบครัว เหมือนเพื่อน พี่น้อง เขาจะรู้ว่าการทำงานของผมเป็นอย่างไร ผมจะรู้ว่าแต่ละคนชอบอะไรบ้าง ผมก็จะคอยจำเรื่องราวของทุกคนให้ได้ ให้รู้สึกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ดูแลซึ่งกันและกันจริงๆ ปีนึงรวมตัวกันหลายครั้งครับแต่ที่แบบมาเที่ยวด้วยกันอย่างนี้ปีละครั้งครับ เหมือนเราได้ตอบแทนพวกเขา อย่างปีนี้ก็ทีริสแบนด์มอบให้เขาแทนใจ สลักชื่อผมมอบให้เขาคนละเส้น ทุกๆ ปีก็จะมีกิมมิกไม่เหมือนกัน มีให้ดอกไม้ มีไปเคาะห้องแล้วให้ของขวัญ ปีนี้อยากให้อะไรที่เขาได้ใส่ได้ ก็เลยให้เป็นริสแบนด์”
ลั่นไม่คิดมีแฟนแล้วเปิดตัวเพื่อหวังอีเวนต์ บอกตนกิจกรรมเยอะเลยไม่มีเวลาคิดเรื่องความรัก
“ผมยังไม่มีแฟนผมก็เลยเปิดตัวไม่ได้ (หัวเราะ) ถ้าเรามีแล้วทุกอย่างมันโอเคเราก็เปิดอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี ซึ่งผมรู้สึกยินดีกับทุกคนที่มีเรื่องราวดีๆ แบบนั้น แต่ผมยังไม่มีไงครับ แฟนคลับก็มีถามมาครับ ถามกันบ่อยมาก ถึงเขาไม่ถามผมก็รู้ว่าเขาคิดในใจ (หัวเราะ) เขารู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมา เราพูดอยู่แล้วถ้าเกิดเรามีแต่ว่าตอนนี้เรายังไม่มีเราก็เลยไม่รู้จะบอกยังไงดี”
“ผมเป็นคนมีกิจกรรมทำเยอะมั้งครับ กลับถึงบ้านทีก็หลับแล้ว ยังไม่ได้มองถึงเรื่องนั้นด้วย ผมอาจจะเป็นคนที่คิดถึงเรื่องงาน เรื่องเรียนก่อน ถามว่ามีเพื่อนมั้ยก็มีเพื่อนครับ มีเพื่อนเยอะขึ้น มีคนรู้จักเยอะขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในสถานะที่เป็นเพื่อนกันหมดทุกคน เรายังไม่ได้รู้สึกชอบใครถึงขนาดนั้น”
“เพื่อนทุกคนก็เป็นเพื่อนคุยผมหมดทุกคน มีเรื่องอะไรก็ปรึกษาได้ เพื่อนที่ว่านี่คือเพื่อนผู้ชายนะครับ ผู้หญิงที่รู้จักส่วนใหญ่เขามีแฟนกันไปหมดแล้ว ผมอาจจะไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ แล้วผมก็จีบสาวไม่เก่งด้วย ไม่รู้สึกว่าเราจะต้องไปจีบใครสักคน รู้สึกว่าถ้าเกิดเราพยายามจะทำอะไรสักอย่างโดยเฉพาะเรื่องความรัก มันจะไม่ระยะยาว แต่ถ้าอยู่ดีๆ แล้วทุกอย่างมันง่าย ลงตัว”
“เรารู้สึกว่าอย่างนั้นมันเป็นสิ่งที่เหมาะแล้วเราควรจะรับไว้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเดินไปหามัน ผมเชื่อในพรหมลิขิตแต่ผมไม่ได้รอสาวมาจีบนะครับ แต่ถ้ามีสาวมาจีบก่อนก็ต้องดูก่อนว่าเส้นทางการที่เราจะไปถึงจุดที่ชอบเขาได้มันง่ายขนาดนั้นรึเปล่า ทุกอย่างมันลงตัวมั้ย ถ้ามีคนที่เราชอบ รู้สึกว่ามันใช่ เราก็ต้องเข้าไปหาเขาอยู่แล้ว คงไม่รอให้สาวมาจีบ”
ไม่มีสเปก ชอบด้วยความรู้สึก บอกเพื่อนๆ ที่สนิทกันก็ไม่มีใครมีแฟน
“ไม่ได้ตั้งสเปกเลยครับ เป็นคนชอบคนด้วยความรู้สึก ชอบคนที่อยู่ด้วยกันแล้วเข้าใจเรา แล้วเขาก็รักตัวเขาเอง อาจจะด้วยเพื่อนๆ ผู้ชายที่คงสนิทกันก็ยังไม่มีใครมีแฟนด้วย เราไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนั้นเลย ส่วนใหญ่ก็จะเล่นเกม นัดตีกอล์ฟ แล้วก็ต่างคนต่างแยกย้าย ผมว่าอาจจะต้องเลิกทุกอย่างทั้งเล่นเกม ตีกอล์ฟ เลี้ยงแมวอะไรอีกหลายอย่างจะได้มีเวลาบ้าง ทุกวันนี้มีกิจกรรมทำเยอะมาก จนผู้จัดการบอกว่าทำงานบ้างไม่ใช่ทำกิจกรรมตลอดเวลา”
เตรียมให้รางวัลตัวเอง เที่ยวยุโรปเรียนรู้โลก 10 วัน
“ผมสัญญากับตัวเองเมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้วว่าจะเปิดหูเปิดตาให้เยอะขึ้น จะไปเรียนรู้โลก ด้วยเพราะอันดับแรกผมเรียนการท่องเที่ยวด้วย ผมควรจะเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง สองไปพักผ่อนครับเพราะต้นปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ผมทำงานหนักมากๆ ก็เลยอยากจะให้รางวัลตัวเองด้วยการไปพักผ่อนในที่ที่เราไม่เคยไป ได้ทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำ นอนก็เยอะ เดินก็เยอะ ขับรถก็เยอะมากเลย ได้ไปในที่ที่เราไม่เคยไป คราวนี้ตั้งใจจะไป 10 วันครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)