เปิดวาร์ปคนสู้ชีวิต 2018 “โอ๊ต เกียรติภูมิ” เด็กวัดหล่อสู้ชีวิต หลวงตาส่งเรียน ฝันอยากเข้าวงการเดินสายประกวดมาเป็นสิบเวที เด็กดี หล่อล่ำ สวดมนต์เก่ง ผู้จัดคว้าด่วน
อาจจะหาได้น้อยแล้วสำหรับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่จะไม่หลงไปกับแสงสี กับความเฮฮาตามประสาวัยรุ่น 20 ต้นๆ แต่สิ่งนั้นหาได้จากหนุ่มหน้าละอ่อน “โอ๊ต เกียรติภูมิ เอี่ยมเพชร” หนุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หนึ่งในผู้เข้าประกวดเวที Mister Star Thailand 2018 เรียกว่าเป็นหนุ่มสู้ชีวิตที่ใฝ่ฝันอยากจะเข้าวงการบันเทิง เพราะความชอบส่วนตัวตั้งแต่เด็กๆ ลงสมัครเข้าประกวดตั้งแต่เด็กๆ มามากกว่า 10 เวที แต่ก็ไม่เคยได้สมหวัง
ตั้งแต่พ่อกับแม่แยกทางกัน หนุ่มโอ๊ตก็ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ และไปเป็นเด็กวัดมาตั้งแต่เด็ก แต่นี่คือสิ่งที่ทำให้โอ๊ตเป็นเด็กที่ชอบสวดมนต์มากกว่าไปนั่งเมาตามผับบาร์เหมือนวัยรุ่นทั่วไป เพราะได้หลวงตาที่คอยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้มาจนโต แม้จะต้องมีช่วงที่ดร็อปเรียนไปบ้าง เพราะต้องคอยดูแลแม่ที่เกษียรอายุแล้ว แต่ก็ทำงานหารายได้อื่นเสริมเพื่อประใช้ชีวิตให้ได้ต่อไป
"คุณพ่อกับคุณแม่เลิกกัน โอ๊ตก็เลยย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่เด็กๆ ไปอยู่วัดกับหลวงตาตลอดครับ ผมก็อยู่กับหลวงตามาตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ ตอนที่อยู่วัดส่วนใหญ่หลวงตาจะบอกให้สวดมนต์อย่างเดียวเลยครับ คือที่วัดนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรให้ทำเยอะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสวดมนต์ตลอดเวลา แล้วโอ๊ตก็จะคอยรับใช้ คอยขับรถให้หลวงตาครับ แล้วก็ทำกิจวัตรของเด็กวัดทั่วไปครับ”
“แต่ถามว่าลำบากไหม ก็ไม่ถึงกับลำบากครับ โอ๊ตยังใช้ชีวิตปกติธรรมดา เวลาเปิดเทอมก็กลับไปเรียนที่อยุธยา พอปิดเทอมถึงได้ขึ้นมารับใช้หลวงตาที่เชียงใหม่ครับ พอตอนนี้ย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ โอ๊ตก็เลยได้มาอยู่กับหลวงตาที่วัดถาวรเลยครับ”
ประสบการณ์จากทุกเวทีที่ผ่านมาทำให้เห็นโลกกว้าง และเคยได้รับโอกาสได้ทุนไปอเมริกาจากการชนะประกวดด้วย
“เวทีที่ผ่านๆ มาก็สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองครับ ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เปิดโลกกว้างได้เห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะโอ๊ตไม่ใช่คนที่เที่ยวอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ก็คือจะอยู่วัดสวดมนต์ตลอด พอได้เข้ามาวงการประกวดก็รู้สึกว่าชอบ รู้สึกว่าเรารักกับการที่ได้ประกวดครับ และเวทีล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ประกวดเวที เอดส์ เดย์ โอ๊ตก็ได้ที่ 1 มาครับ เวทีนี้ก็เกี่ยวกับวันเอดส์โลกครับ เป็นเหมือนเยาวชนที่รู้เท่าทันโรคนี้ และแบ่งปันประสบการณ์ไม่ให้คนติดโรคนี้ครับ ซึ่งถ้านับเวทีที่โอ๊ตประกวดมาทั้งหมดตั้งแต่เด็กๆ ก็มากกว่า 10 เวทีครับ”
“จริงๆ โอ๊ตเริ่มจากการประกวดวาดภาพก่อนครับ เพราะโอ๊ตเป็นคนที่ชอบวาดภาพ แม่ก็เห็นแววตรงนี้ครับ ตอนนั้นประกวดวาดภาพโอ๊ตก็ได้ที่ 1 ของคอลเกตครับ ได้ไปอเมริกาประมาณ 2 อาทิตย์ครับ ตอนนั้นที่ได้ไปก็ได้รู้จักสถานที่ใหม่ๆ ครับ และได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา เหมือนเราได้ทุนการศึกษาไปเที่ยวที่นั่นจากการประกวดครับ”
ความฝันสูงสุดคืออยากเข้าวงการบันเทิง และจะสู้ต่อไปไม่คิดท้อถอย
“ความฝันคืออยากจะเข้าวงการบันเทิงครับ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักทีครับ แต่ก็ไม่ท้อครับเพราะของอย่างนี้มันอยู่ที่จังหวะของดวงและจังหวะชีวิตเราด้วยครับ ถ้าตรงไหนมันใช่ที่ของเรา จังหวะของเรา มันก็จะส่งเสริมตรงนั้นขึ้นมาทันทีครับ ผมก็ให้กำลังใจตัวเองมาตลอดครับ เป็นไฟว์เตอร์ให้กับตัวเองว่าเราจะต้องสู้ไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครที่จะสมหวังหรือผิดหวังตลอดไป สักวันหนึ่งก็จะต้องเป็นวันของเราครับ คุณแม่ก็สนับสนุนครับ คนรอบข้างก็ให้กำลังใจครับ”
เรียนจบมาได้แต่ละขั้นเพราะหลวงตาคอยส่งเสีย และตอนนี้หาเลี้ยงแม่ด้วยการขายของออนไลน์
“ตอนนี้ก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่ครับ เพราะโอ๊ตเรียนช้าไป 1 ปี ติดปัญหาเรื่องทุนการศึกษาครับ ก็เลยต้องดร็อปไป 1 ปี โอ๊ตเรียน ปวส. 2 ปี แล้วก็เรียนปริญญาตรีอีก 4 ปีครับ ตอนนั้นที่ต้องดร็อปไปก็เพราะติดปัญหาทั้งเรื่องเงินและเรื่องแม่ด้วยครับ เพราะไม่มีใครดูแลแม่ โอ๊ตก็เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ ดูแลแม่ก่อน เพราะตอนที่โอ๊ตย้ายมาเชียงใหม่แรกๆ อะไรๆ มันก็ยังไม่ลงตัวครับ ก็เสียดายนะครับที่ต้องหยุดเรียน แต่เราก็ต้องสู้ต่อไปครับ”
“แต่เดิมแม่เคยเปิดร้านผ้าไหมครับ แต่ตอนนี้แม่เกษียรแล้วก็เลยหยุดร้านที่อยุธยา แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ครับ รายได้หลักก่อนหน้านี้ที่โอ๊ตยังไม่ได้ทำงานก็คือเป็นแม่คนเดียวครับ แล้วหลวงตาก็ช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ผมมาตลอดครับ ตอนนี้ผมก็ทำงานขายของเล็กๆ น้อยๆ ทางอินเตอร์เน็ตครับ โอ๊ตกับพี่ชายช่วยกันทำครับ รายได้ก็พอไปได้อยู่ครับ พอดูแลตัวเองและแม่ได้ครับ”
บอกถ้าคิดจะหาไฟว์เตอร์สักคน ตนคือคนนั้นแน่นอน
“สำหรับการประกวดครับนี้ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเอง ทุกคนมีความสามารถ มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง โอ๊ตไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่งนะครับ แต่โอ๊ตมองว่าทุกคนเป็นเพื่อนมากกว่า อย่างน้อยปีนี้ถึงโอ๊ตจะไม่ได้ โอ๊ตก็ยังได้เพื่อนมาถึง 76 จังหวัดเลย และถ้าถามถึงความโดดเด่นของตัวเองที่จะไปสู้บนเวที โอ๊ตว่าถ้าอยากได้ไฟว์เตอร์ก็มาหาโอ๊ตได้เลย เพราะโอ๊ตเป็นไฟว์เตอร์แน่นอนครับ และโอ๊ตเป็นคนที่น่ารักสดใส อาจจะไม่ได้หล่อ 100% แต่ความสดใส ความเป็นไฟว์เตอร์ในตัวเองโอ๊ตมีเต็มร้อยครับ แต่ทีเด็ดในการประกวดมีแน่นอนครับ แต่ขออุบไว้ก่อนครับ”
“ความคาดหวังที่อยากจะได้จากเวทีนี้คือประสบการณ์ครับ อยากได้เพื่อนๆ และโอกาสในการทำงานในวงการบันเทิงครับ โอ๊ตอยากเป็นนักแสดง อยากเป็นนายแบบครับ โอ๊ตเคยเดินแบบและเคยประกวดเวทีอื่นๆ แต่เรื่องการแสดงอาจจะยังไม่เต็มตัว อาจจะมีแค่หนังสั้นที่เคยผ่านมาบ้างครับ ก็อยากจะได้มีโอกาสทำงานในวงการบันเทิงครับ”