หลังจากกระแส #MeToo เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างมากไปทั่วโลกโดยเฉพาะในอเมริกา ยุโรป และ เกาหลี จนมีผู้บริหาร และคนในวงการบันเทิงหลายคน โดนข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกันระนาวจนแทบไม่มีที่ยืนในวงการ ล่าสุด อัยการเตรียมรื้อคดีของนักแสดงสาว “จางแจยอน” ที่ตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพราะถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อ 9 ปีก่อน กลับมาพิจารณาอีกครั้ง หลังโดนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่า คดีนี้ต้องปิดลงพร้อมกับความล้มเหลวในการลงโทษผู้กระทำผิด
การรื้อฟื้นคดีครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องมาจากคณะกรรมการอิสระแห่งหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม ได้ยื่นร้องให้มีการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อีกครั้งก่อนที่จะหมดอายุความในวันที่ 4 ส.ค. เพราะหนึ่งในผู้ต้องหาของคดีนี้ คือ นักข่าวที่ผันตัวไปเป็นนักการเมือง
การสืบสวนในครั้งนี้จะนำทีมโดย ฮงจงฮี หัวหน้าอัยการประจำสำนักงานศาลกลางของกรุงโซล ซึ่งบันทึกของคดีทั้งหมดที่เก็บอยู่ในสำนักอัยการเขตซูวอน จะถูกโอนมายังสำนักงานอัยการกลางของกรุงโซล เพื่อรื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 นักแสดงสาวหน้าใหม่ที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์เรื่อง Boys Over Flowers ตัดสินใจจบชีวิตตนเองลง พร้อมกับทิ้งจดหมายความยาว 7 หน้ากระดาษ เปิดเผยเรื่องราวอันขมขื่นว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งโดนบังคับโดยผู้บริหารของเอเยนซีที่เธอทำงานอยู่ โดยจัดให้เธอไปบำเรอกามกับผู้บริหารระดับสูงในวงการสื่อหลายต่อหลายคน
ในจดหมายยังระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบรรดาผู้ชายที่ล่วงละเมิดเธอทั้งหมดว่ามีใครบ้าง และเธอถูกบีบบังคับให้มีสัมพันธ์ทางเพศกับใคร รวมถึงสถานที่ที่ผู้บริหารนัดให้เธอไปเจอด้วย ซึ่งรายชื่อที่นักแสดงสาวรายนี้ระบุในจดหมายที่โดดเด่นมีอยู่ 9 รายชื่อด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้น มีรายชื่อของประธานบริหารหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นรายชื่อสำคัญที่ทำให้อัยการต้องนำคดีนี้กลับมาสืบสวนใหม่อีกครั้ง
ตอนนั้น การตัดสินลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีมีเพียงแค่ผู้บริหารเอเยนซี ต้นสังกัดที่จางแจยอน ทำงานอยู่ รวมถึงผู้จัดการส่วนตัวของจางแจยอน ที่ทั้งหมดถูกตัดสินให้มีโทษจำคุก แต่ก็รอลงอาญาโดยไม่ต้องถูกควบคุมตัว หรือเข้าคุกแต่อย่างใด ส่วนรายชื่อของบรรดาผู้บริหารที่ปรากฏอยู่ในจดหมาย 7 หน้ากระดาษว่า ล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงสาว ก็ไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ และพ้นมลทินกันทุกคน
