“นุช นุชนันท์” เผยมีภาวะตกเลือด ต้องผ่าคลอดกะทันหัน “ตู่ ภพธร” ลั่นจับมือเมียตลอดเวลาจนอีกฝ่ายสลบ โล่งเห็นหน้าลูก แต่ยังอุ้มลูกมาอวดไม่ได้ บอกลูกต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ กำจัดน้ำคร่ำในปอด ไร้ปัญหามีลูกคนที่ 2
วันที่รอคอยจริงๆ สำหรับ “ตู่ ภพธร” หลังจากที่ภรรยา “นุช นุชนันท์ สุนทรญาณกิจ” คลอดลูกสาว “น้องริสา” แต่ยังต้องอยู่ในตู้อบ ใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อกำจัดน้ำคร่ำในปอด โดยทั้งคู่เปิดใจวินาทีคลอด ณ ห้องประชุมบัญชา ล่ำซำ ชั้น 6 อาคาร 2 โรงพยาบาล สมิติเวช เพราะทุกอย่างชุลมุน ทำให้ไม่ได้ซึมซับโมเมนต์แรกสักเท่าไหร่ และอยากจะอุ้มลูกมากแต่หมอยังไม่สามารถกำหนดวันและเวลาได้
นุช : “ตื่นเต้นค่ะ เพราะในวันที่คลอดมันค่อนข้างชุลมุนนิดหนึ่ง เราก็เลยไม่ค่อยได้ซึมซับโมเมนต์อะไรสักเท่าไหร่ อีกอย่างวันนั้นตัวนุชเองก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องด้วย แค่บังเอิญนุชมีอาการของรกเกาะต่ำอยู่แล้ว และคุณหมอก็สั่งให้เข้ามาแอดมิดที่โรงพยาบาลในวันนั้นพอดี แต่อยู่ๆ นุชก็มีภาวะตกเลือด คุณหมอเขาก็เลยตัดสินใจผ่าตัดเลย กำหนดคลอดจริงๆ วันที่ 9 ค่ะ แต่เรามาแอดมิดก่อนในวันที่ 7”
ตู่ : “เอาจริงๆ วันที่ 9 ก็คือการคลอดก่อนกำหนดเหมือนกันนะครับ เนื่องจากกำหนดการเดิมของเราคือวันที่ 16 แต่บังเอิญว่าวันนั้นเป็นวันจัดงานรอบกาล่าของละครเวทีที่ผมร่วมแสดงพอดี แต่อย่างที่บอกด้วยสภาวะรกเกาะต่ำของนุชเขาที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว ยังไงเราก็ต้องผ่าก่อนวันที่ 16 แค่บังเอิญวันนั้นเราต้องผ่าคลอดก่อนที่จะคลอดจริงไปอีก”
นุช : “กลัวมากเลยค่ะ ร้องไห้เลย กลัวหลายๆ อย่าง เพราะถ้าเลือดมันไหลเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราก็อาจจะต้องเสียลูกไป”
ตู่ : “คือมันก็เสี่ยงกับทั้งแม่ทั้งลูกด้วยนะครับ เพราะทั้งคู่ก็ใช้เลือดร่วมกัน ดังนั้นถ้าหากนุชเขามีเลือดออกเยอะ ก็ย่อมต้องเสี่ยงกับการแท้ง หรือถ้าหากคุณหมอไม่สามารถห้ามเลือดให้แม่ได้ เขาก็จะต้องตัดมดลูก เรียกได้ว่ามันมีหลายๆ สถานการณ์มากก่อนที่จะเข้าไปผ่า มันก็เลยทำให้เราสองคนค่อนข้างกังวลนิดหนึ่ง”
ปลอบเมียให้มั่นใจหมอ จับมือจนอีกฝ่ายสลบระหว่างผ่าคลอด
ตู่ : “ผมก็บอกเขาให้เขามั่นใจว่าคุณหมอเก่ง และผมก็จะอยู่กับเขาตรงนี้ตลอด จับมือเขาไว้จนเขาสลบไปเพราะฤทธิ์ยา (ยิ้ม) ซึ่งหลังจากที่นุชเขาหลับ คุณหมอก็ขอให้ผมออกมารอด้านนอกเพื่อที่จะได้ทำการผ่า ผมรออยู่ประมาณ 10 นาที คุณหมอก็เรียกกลับเข้าไปใหม่ แต่ผมต้องบอกก่อนนะครับว่าโมเมนต์อุ้มลูกแบบที่เห็นในหนัง ของเราไม่มีเลยนะครับ เนื่องจากทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก และจังหวะที่คุณหมออุ้มลูกผ่านหน้าผม ผมยังเห็นเลยว่าตัวเขายังเป็นเมือกๆ ยังมีสายสะดืออยู่ จากนั้นพอคุณหมอเขาจัดแจงเสร็จเขาก็ส่งมาให้ผมอุ้ม ตอนนั้นแอบตกใจนิดหนึ่ง แต่พอถ่ายเสร็จเขาก็รีบเอาลูกไปตรวจสุขภาพต่อทันที ทุกอย่างเร็วมากครับ”
โล่งเห็นหน้าลูก บอกต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ กำจัดน้ำคร่ำในปอด
ตู่ : “ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกความรู้สึกยังไม่เต็มที่เลยครับ เพราะภาพที่เราจินตนาการไว้มันอีกโมเมนต์หนึ่ง มันน่าจะมีเวลาอีกสักแป๊บ แต่ถามว่ารู้สึกโล่งมั้ยตอนที่ได้เห็นหน้าเขา ก็โล่งครับ ถือว่าโล่งไปหนึ่งเรื่อง เหลือก็แค่กังวลเรื่องสุขภาพของนุชว่าเขาจะเป็นยังไง จะต้องผ่าตัดมดลูกหรือเปล่า ส่วนลูกก็พอไปดูเขาหลังจากนั้น คุณหมอก็บอกว่าต้องให้ใช้เครื่องช่วยหายใจก่อน เนื่องจากเขามีน้ำคร่ำในปอดเยอะ และต้องอยู่ในนั้นสักพักประมาณ 3-5 วัน แต่โดยรวมก็ถือว่าสุขภาพดี แค่ต้องกำจัดน้ำคร่ำในปอดให้หมดก่อนก็เท่านั้นเอง”
นุช : “ตอนนั้นจำได้เลยค่ะประโยคแรกที่หมอพูด หมอบอกว่ารักษามดลูกให้แล้วนะ (หัวเราะ) จากนั้นนุชก็หลับไปอีกรอบ คือได้เห็นหน้าลูกจากรูปถ่ายอย่างเดียวเลย”
ตู่ : “วันนั้นเขานอนหลับอยู่บนเตียง ส่วนลูกก็อยู่ในห้อง ICU สำหรับเด็ก ผมต้องใช้วิธีเฟสไทม์ให้เขาดูแทน เพราะผมเข้าไปนั่งอยู่บริเวณนั้น ตอนนั้นยังไม่ได้อุ้มเลย”
นุช : “แต่เราก็ยังได้จับ ได้สัมผัสอยู่บ้างนิดหน่อย”
ตั้งชื่อริสา หมายถึงคนที่สดใสร่าเริง โอดอยากอุ้มลูก แต่กำหนดวันไม่ได้
นุช : “ตอนนี้ก็พยายามปั๊มนมให้ลูกได้กินเรื่อยๆ และก็เดินเยอะๆ เพื่อที่แผลของเราจะได้หายเร็วๆ น้องก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ น้ำก็ลดลง และการหายใจก็ดีขึ้น พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็น่าจะดีขึ้นแล้วค่ะ น้ำหนักตัวของน้อง 2260 กรัมครับ และชื่อจริงก็ชื่อลริสา ความหมายคือคนที่สดใสร่าเริง ส่วนชื่อเล่นก็คือริสาค่ะ”
“เรื่องอุ้มลูกคุณหมอยังไม่สามารถกำหนดวันได้ ทุกอย่างต้องดูเป็นวันๆ แต่ถามว่าอยากอุ้มมั้ย อยากมาก คุณพ่อก็อยากอุ้ม คือตอนที่เห็นเขาอาจจะมีน้ำตาซึมๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้โฮขนาดนั้น”
ตู่ : “ภาพที่เห็นมันอาจจะดูเหมือนน่ากลัว มีหลอดโน่นนี่นั่น แต่คุณหมอเขาก็อธิบายตลอดว่าหลอดที่เห็นไม่ทำให้น้องเจ็บนะ ซึ่งมันทำให้เราค่อนข้างคลายกังวล และตัวน้องก็ดูสบายด้วย ไม่ได้ดูทรมานอะไร อีกอย่างเขาก็เริ่มทานนมแม่แล้ว แต่เป็นการผ่านทางสายนะครับ ซึ่งเขาก็ทานได้ดี ย่อยดี ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ”
“เราอยากอุ้มลูกแล้ว อยากโชว์ลูกด้วย มีคนถามเยอะมาก แต่ตอนนี้สายมันเยอะจริงๆ มันก็เลยยังไม่ใช่ภาพแรกที่เราอยากแชร์ อยากให้แฟนๆ ได้เห็นเขาแบบไม่มีสายไม่มีอะไรมากกว่า ให้เราได้อุ้มเขาน่ารักๆ”
ไม่ต่างจากไปภาพแรกที่คิดเอาไว้ ขอแค่ให้แข็งแรงและคุณแม่ปลอดภัยก็พอ
ตู่ : “ไม่นะครับ เพราะเราไม่รู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น แค่ตอนนี้เขาออกมาแข็งแรงและคุณแม่ปลอดภัยผมก็ดีใจแล้ว มันมากเกินกว่าที่จะขอแล้ว ตอนนี้มันก็มีหน้าที่อะไรมากมายที่เราต้องทำกัน แต่ตอนนี้ถือว่ายังสบายอยู่เพราะมีพี่ๆ พยาบาลช่วยดูแล เอาไว้รอวันกลับบ้านค่อยเต็มที่อีกที คือเอาจริงๆ ผมก็อยากจะดูทั้งนุชและลูกให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่ทำได้ อยากให้เขาสบายที่สุด”
นุช : “ครอบครัวก็เห่อเหมือนกันค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ก็มากันเรื่อยๆ กันทั้งวัน แต่ถามว่ามีของรับขวัญหรือยัง เอ่อ...ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ของเขามากกว่า ไม่ใช่ของมีค่าอะไร”
ตู่ : “ตอนนี้ยังไม่ค่อยกังวลครับ ยังไม่ถึงเวลา ถึงแม้ช่วงนี้คุณพ่อจะไม่ค่อยสบาย แต่ก็จะพยายามฟิตให้เต็มที่ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะ พ่อโอเค”
มดลูกเข้าที่ไม่มีปัญหาสำหรับการมีลูกคนที่ 2
นุช : “ไม่มีปัญหาค่ะ มดลูกกลับเข้าที่แล้ว”
ตู่ : “ถามว่าอยากมีคนที่สองมั้ย ก็อาจจะลองดูนะสำหรับคนที่สอง แต่รอดูก่อนดีกว่าว่าเลี้ยงคนแรกแล้วนุชเขาไหวมั้ย”
นุช : “อีกคนถ้าได้เป็นผู้ชายก็ดี ก็คุยกับพี่ตู่ไว้เหมือนกันว่าถ้ามีก็อาจจะให้คุณหมอทำแบบเลือกเพศไปเลย แต่ก็แอบกลัวนิดๆ ถ้าหากมีแล้วเป็นแบบนี้อีก”
ตู่ : “น้องแข็งแรงดีนะครับ คุณแม่ก็แข็งแรงดี คุณพ่อก็ดีใจ และก็ต้องขอบคุณทุกคนด้วยที่ติดตาม เอาไว้ถ้าน้องออกจากตู้อบเมื่อไหร่เราจะอัปเดตให้แฟนๆ ได้ชมกันนะครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)
