เห็นชื่อหนัง และทิศทางการโปรโมต หลายคนอาจจะคิดว่า หนังเรื่องนี้ก็คงประมาณหนังสยองขวัญหรือหนังผีที่มีตุ๊กตาดุๆ หลอกหลอนผู้อยู่อาศัย แต่... ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่ ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูผลงานของผู้กำกับภาพยนตร์คนนี้ ยิ่งทำให้ได้รู้ว่า “บ้านตุ๊กตาดุ” มันคงไม่ใช่แค่หนังสยองขวัญพื้นๆ ที่เล่นกับความน่ากลัวหรือหลอกหลอนของตุ๊กตาอย่างแน่นอน
และ... ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ต้องบอกว่า เหนือกว่าความคาดหมายไปไกลมาก
“Incident In A Ghost Land” หรือ “บ้านตุ๊กตาดุ” เป็นหนังฝรั่งเศส กำกับโดย “ปาสกาล โลฌิเยร์” (Pascal Laugier) เขาคนนี้ทำหนังมาไม่มากเรื่อง และเรื่องที่เราคนไทยพอจะรู้จักบ้าง ก็มี “Matyrs” ที่ถ้าใครได้ดูก็คงจะพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “หน้าบ้าอะไร โหดชิบ...” ซึ่งสำหรับ “บ้านตุ๊กตาดุ” ก็ไม่ได้ต่างไปจากนั้น
... “บ้านตุ๊กตาดุ” เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีแม่และลูกสาวสองคน โดยลูกสาวคนโตคือ เวร่า (ฟิลลิปส์) ที่ดูจะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ส่วนคนเล็กคือ “เบธ” เป็นสาวขี้อาย เก็บเนื้อเก็บตัว มีความสุขกับการเขียนเรื่องราวสยองขวัญ ซึ่งหลังจากครอบครัวได้รับบ้านหลังหนึ่งเป็นมรดกจากป้าที่เสียชีวิตไป ทั้งหมดก็ย้ายเข้าไปอยู่ แต่แค่วันแรกที่ไปถึง ก็เกิดเหตุการนรกแตกขึ้น เมื่อมีฆาตกรโรคจิตบุกรุกเข้ามา คอลลีนต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเธอเองและชีวิตลูกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเป็นชีวิตของเด็กสาวทั้งสองไปตลอดกาล
16 ปีต่อมา เบธกลายเป็นนักเขียนแนวสยองขวัญยอดนิยม เธอมีครอบครัวแสนอบอุ่นที่ชิคาโก้ ขณะที่เวลาไม่สามารถทำใจรับกับเหตุการณ์ในคืนนั้นได้จนกลายเป็นคนเสียสติ ลูกสาวและแม่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งเมื่อเบธกลับไปเยี่ยมคอลลีนและเวร่าที่บ้านหลังเดิม แต่ทว่าเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นยังคงดำเนินต่อจาก 16 ปีที่แล้ว...
จากเรื่อง Matyrs ที่ว่าด้วยการตอกตีลงไปในความวิปริตบิดเบี้ยวภายในจิตใจของมนุษย์อย่างสุดขั้ว “บ้านตุ๊กตาดุ” ยังคงรักษาระนาบนั้นไว้ได้ไม่ลดละ นี่คือหนังสยองขวัญที่พูดได้ว่า สามารถสร้างแรงกดดันเราคนดูให้ลุ้นและเกร็งได้ตลอดทั้งเรื่อง จนบางจังหวะ ผมเองยังนึกว่า พอแล้วก็ได้นะ เพราะมันเครียดมากเกินไปจนแทบจะไม่ไหวแล้ว
จากที่คิดว่า “บ้านตุ๊กตาดุ” ก็คงมีไว้หลอกเด็กๆ หรือคนกลัวผีให้ตกใจตุ้งแช่ แต่จริงๆ แล้ว หนังพาเราไปไกลกว่าที่คิดไว้แบบเหนือความคาดหมาย ซึ่งโดยปกตินะครับ หนังสยองขวัญพวกนี้ก็มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า “หักมุม” ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของเราในการใช้สมอง “คาดเดา” ว่าความจริงน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แต่สำหรับเรื่องนี้ ผมพูดได้คำเดียวว่า หนังมันหลอกเราได้เจ๋งมาก ผมนี่กล้าท้าเลยครับสำหรับคนที่คิดว่าจะเดาหนังถูก อย่าไปเดาเลยครับ ให้หนังมันเฉลยออกมาเอง แล้วจะได้ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” อย่างที่แม้แต่คนดูหนังมาสิบๆ ปี ก็ไม่มีทางเดาถูก