ฟังความจริงจากปาก “โตโน่” กรณี “ก้อง ห้วยไร่” เบี้ยวคอนเสิร์ต มาขอไปด้วยเซ็นสัญญาแล้วกลับไม่ไปแถมไม่บอกล่วงหน้า เดือดร้อนตนและเพื่อนๆ ต้องเล่นคอนเสิร์ตใช้หนี้แทน แนะให้ออกมาพูดความจริงและขอโทษรับผิดชอบกับความผิดที่เกิดขึ้น วอนอย่าดึงบุคคลที่ 3 มาเกี่ยวข้อง
หลังจากที่ “ก้อง ห้วยไร่” ออกมาตอบคำถามแบบไม่เคลียร์กรณีถูก “อารี เมลบี้” แจ้งความว่าก้องเบี้ยวการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ได้เซ็นสัญญาและจ่ายเงินไปแล้วทำให้เกิดความเสียหาย ประกาศฟ้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน โดยก้องโบ้ยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในค่ายจัดการ และบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการสื่อสารผิดพลาด ต่อไปถ้าจะติดต่องานก้องขอให้ติดต่อผ่านผู้จัดการของก้องไม่ใช่คนอื่น เรื่องนี้เล่นเอาสมาชิกในวงของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ถึงกับออกมาตอบโต้ เพราะการที่ก้องได้รับการติดต่อให้ไปทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นเพราะโตโน่เป็นคนเอ่ยปากบอกผู้จัดงานให้จ้างก้องไปเล่นด้วย เนื่องจากสนิทกันและก้องก็เป็นคนปากบอกโตโน่ว่าอยากไปด้วย ฉะนั้นการที่ก้องออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดต่อไปมีอะไรไม่ต้องผ่านคนอื่นทำให้หลายๆ อาจเข้าใจว่า ผู้ที่ก้องพูดถึงคือโตโน่และบุคคลที่เกี่ยวข้องก้องโตโน่หรือไม่
ล่าสุดโตโน่ก็ได้มาถ่าย VTR “7Wonders Concert2018” จึงเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวแบบเคลียร์ทุกข้อสงสัย อยากให้ก้อง ห้วยไร่ ออกมาพูดความจริงและขอโทษแสดงความรับผิดชอบ สิ่งที่ทำผิดพลาดไปยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกัน แต่อย่าพาดพิงถึงบุคคลที่ 3
“จริงๆ แล้ววงจะต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกันอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เรารู้จักกับก้อง เขาเป็นเพื่อนเราไปเตะบอลอยู่ด้วยกัน พอเขาทราบเขาก็อยากจะไปเที่ยวไปพักผ่อนด้วย เราเลยบอกว่ายินดีเลย ไปก็ไป ไปเที่ยวด้วยกันได้ เราก็เลยบอกกับทางผู้จัดการเราว่าให้พาไปด้วย”
เผย “ก้อง” เซ็นต์สัญญาไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศจริงๆ พอไม่ไปก็ไม่บอกล่วงหน้า
“มีสัญญาหมดทุกอย่าง แต่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุที่ทำให้เขามาไม่ได้ ก่อนวันเดินทางเขาก็ไม่ได้มาแจ้งอะไรว่าเขาไม่สะดวกไป เรามาทราบตอนที่เราไปถึงยุโรปแล้ว เราไม่อยากจะพูดถึงรายละเอียดมากนักเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมกับวง เอาเป็นว่าเรื่องรายละเอียดผมขอไม่พูดถึงแล้วกัน เพราะสิ่งที่วงตั้งใจจะไปทัวร์คอนเสิร์ต สิ่งที่ผมตั้งใจคืออยากจะให้แฟนๆ ที่เป็นคนไทย ที่ไปทำงานไกลบ้านไกลเมืองมีความสุข ตลอดระยะเวลาที่ทัวร์คอนเสิร์ตเดือนกว่าๆ ทุกคนมีความสุข เราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วตามที่เราตั้งใจอยากจะไป ในเรื่องของจำนวนเงินไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำหรับตัวผมและวงเลย”
“ในส่วนของปัญหาที่ก้องไม่ได้ทำตามสัญญากับทางผู้จัด ให้ไปถามกับทางก้อง กับทางผู้จัดเอาดีกว่า จะฟ้องชนะหรือไม่ชนะเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”
ส่วนกรณีที่ “ก้อง” ออกมาพูดว่า ถ้าจะติดต่อก้องให้ติดต่อผ่านผู้จัดการก้องไม่ใช่คนอื่น จนทำให้มือกองของวงโตโน่ออกมาตอบโต้เพื่อปกป้องผู้จัดการส่วนตัวของโตโน่นั้น เจ้าตัวบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ออกมาปกป้องคนที่รัก ส่วนก้องนั้นไม่ว่าจะทำผิดพลาดแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพราะเคยทำสิ่งดีๆ มาร่วมกัน
“มันอาจจะมีปัญหาตรงที่ก้องออกมาพูดว่าให้ติดต่อผ่านก้อง ผ่านผู้จัดการก้อง อย่าผ่านคนอื่น ซึ่งคนอื่นมันแปลไปได้ ถ้ามันหมายถึงพี่เมย์ผู้จัดการผมมันก็คงไม่แปลกที่มือกลองของผมจะออกมาปกป้องคนที่เขารัก ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของรายละเอียด ในเรื่องของหลักฐานค่อนข้างชัดเจน สิ่งที่มันเกิดขึ้นตอนที่อยู่ที่เมืองนอก สิ่งที่ก้องโทรมาคุยมาขอคำปรึกษาจากผม สำหรับผมก้องก็คือเพื่อน สิ่งดีๆ ที่เราทำมาด้วยกันมันก็มีอยู่เยอะแยะ ในวันหนึ่งถ้าเกิดว่าเพื่อนจะผิดจะพลาดมันก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ดี ผมเลยไม่อยากจะตอบประเด็นนี้ ให้เรื่องพวกนี้มาวุ่นวายผม เพราะเหตุผลที่ทำไมก้องถึงไม่ไปมันก็มีอยู่ ก็ให้ไปถามกับเจ้าตัวเขาดีกว่า ตัวผมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ผมได้รับผิดชอบในสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบ ทั้งในเรื่องความรู้สึกของแฟนเพลงของเรา แฟนเพลงของก้องที่เขาเสียใจที่เขาไม่ได้เจอก้อง เราก็พยายามทำให้เขามีความสุขอย่างเต็มที่”
“ตอนที่อยู่เมืองนอกก็มีปรึกษากัน พอทุกอย่างมันได้บทสรุปว่าก้องไม่ได้มา เราก็หาทางที่จะทำยังไงเพื่อดูแลความรู้สึกแฟนเพลงของก้องที่ผิดหวังจากที่ไม่ได้เจอก้อง ส่วนในเรื่องเหตุผลทำไมก้องไม่มาผมก็ไม่ได้จะไปว่าเพื่อน ให้ไปถามกับเพื่อนว่าทำไมเพื่อนถึงไม่มา แต่ถ้าการให้สัมภาษณ์ของทางก้องหรือทางของใครก็ตามแล้วมันเกี่ยวโยงถึงบุคคลที่ 3 ที่เขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยอย่างผู้จัดการผม อันนี้เราต้องพูดออกมาให้ชัดเจน เพราะมันมองไปได้หลายด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นคือ ไม่ว่าก้องจะทำพลาดจะทำผิดยังไง สำหรับผมแล้วก้องก็คือเพื่อนผม ถ้าเขาออกมาขอโทษคนไทยก็พร้อมจะรับฟังอยู่แล้วแหละ ไปคุยกันเอากับทางผู้จัดงาน ไม่ต้องมา... ซึ่งผมคิดว่าเดี๋ยวเขาก็คงไปคุยกันได้ ในเรื่องหน้าที่ ในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบเราก็ทำอย่างเต็มที่แล้วนี่คือสิ่งที่วงของเราทำได้ เพราะเราก็ทำตามข้อตกลงทุกอย่างที่ตกลงกัน”
เล่นคอนเสิร์ตชดใช้แทน “ก้อง ห้วยไร่” โดยที่ไม่ได้ตังค์ ถือเป็นความรับผิดชอบที่มีต่อแฟนเพลงที่บินมาจากหลายๆ ประเทศเพื่อมาชมคอนเสิร์ต ที่ต้องผิดหวังเมื่อก้องไม่มา
“จริงๆ แล้วผมไม่รู้เรื่องด้วยนะว่าใครจะฟ้องใครยังไง เรารู้แค่ว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้างในตอนที่อยู่ที่เมืองนอก เพราะตอนที่เรารู้เรื่องคือเรารู้ในอีก 2 วัน ทั้งหมดมี 13 โชว์ มีก้องอยู่ในนั้น 6 โชว์ เราโชว์มาแล้วทั้งหมด 7 โชว์ โชว์ต่อมาจะเป็นโชว์ที่จะมีก้องด้วย ซึ่งก้องจะบินตามมา เราเพิ่งมาทราบว่าก้องจะไม่มาประมาณ 2 วันก่อนโชว์ สิ่งที่ผมโฟกัสตอนนั้นผมไม่ได้มองว่าใครผิดใครถูก ไม่ได้โฟกัสว่าทำไมก้องไม่รับผิดชอบ เราโฟกัสว่าพอมันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพื่อนมาไม่ได้ เราจะทำยังไงเพื่อดูแลความรู้สึกของแฟนคลับเขา”
“เราเข้าใจถึงความยากลำบาก บางคนต้องบินมาจากสวีเดน จองตั๋ว จองที่พัก มันไม่เหมือนบ้านเรา ซึ่งเราก็พยายามทำมันอย่างเต็มที่นั่นคือหน้าที่ที่ผมทำได้ สิ่งที่ก้องขอคำแนะนำจากผมในวันที่มันเกิดปัญหา เราก็บอกเพื่อนเราไปตรงๆ ว่า มันเกิดอะไรขึ้นก็พูดไปตรงๆ ผิดเราก็รับผิดชอบไปว่าเราผิด เราขอโทษ ว่ามันเกิดจากคิวงานที่ชนกัน มันเกิดจากการรับงานซ้อนทางตัวของก้อง เราก็ออกมาพูดตามจริง แล้วก็ขอโทษแฟนเพลง แล้วก็ผู้จัด ผมเชื่อมั่นว่าถ้าเราอธิบายด้วยความจริงใจคนเข้าใจ ผู้จัดเขาก็จะได้ไม่เกิดความเสียหาย เหมือนว่าเขาไปหลอกแฟนเพลงว่าเขาชวนก้องมาแต่สุดท้ายก้องไม่มา ทางผู้จัดเขาก็ไม่เสีย ส่วนตัวก้องก็ได้รับผิดชอบกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
“แต่ในเรื่องของตัวเงินที่ทางผู้จัดจะฟ้องก้องเท่าไหร่ แล้วก้องไหวที่เท่าไหร่ อันนั้นเป็นสิ่งที่ไปคุยกันเอา สิ่งที่ผมแคร์คือเรารับผิดชอบกับตรงนั้น รับผิดชอบกับความรู้สึกของแฟนๆ ที่เขาผิดหวังมากกว่า สิ่งที่ผมทำก็คือ เราต้องเล่นโชว์แทนก้องจากปกติเราเล่น 1.15 ชั่วโมง ก็เปลี่ยนเป็น 1.45 ชั่วโมง สิ่งที่เราต้องเล่นเพิ่มเราไม่ได้เรียกร้องอะไรจากทางผู้จัดเลย ไม่ได้บอกว่าพี่ต้องให้เงินผมเพิ่มนะ ไม่มี วงต้องการให้แฟนๆ ที่มามีความสุขและรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่เราตั้งใจไปให้ เรารู้ว่าคนที่ไปอยู่เมืองนอก ถ้าเขามีทางเลือกที่ดีไม่มีใครอยากไปอยู่ไกลบ้านไกลช่อง ทุกคนอยากอยู่ใกล้ครอบครัว เราอยากไปทำให้เขามีความสุข นี่คือสิ่งที่ผมและวงตั้งใจ ในเรื่องปัญหาของก้องและทางผู้จัด เราขอร้องว่าอย่าโยงเอาผมเอาวงเอาความตั้งใจดีๆ ของเราไปเกี่ยวข้องกับการฟ้องหรือไม่ฟ้อง จะฟ้องกี่ล้าน”
“ใช่...ผมเข้าใจว่าสังคมทุกวันนี้จะมองว่า คนที่ใช้ความจริงใจ ใช้ความรัก หรือคนที่เชื่อเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่าเงินทองคนอาจจะมองว่าโง่ก็ได้นะ แต่ผมเป็นคนที่ถือเรื่องพวกนี้อยู่ ดังนั้นอย่าเอาผม เอาวงผมไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของใคร หรือตัวเงินของใคร ในระหว่างที่เราโชว์ ในระหว่างที่เราอยู่ที่นั่นเรารับรู้ได้ว่า พวกเขามีความสุข ทุกคนได้ดูโชว์ที่ดี ได้รับรู้ถึงความตั้งใจของเราแล้ว แต่เรื่องที่จะมาฟ้องร้องกันก้องกับทางผู้จัดไปคุยกันเอา”
ไม่ขอเป็นตัวกลางในการเคลียร์ปัญหา
“ผมว่ามันไม่จำเป็นเพราะมันไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว มันเป็นเรื่องของทางก้อง ทนายก้องและผู้ใหญ่ต้องไปคุยกัน ผมไม่อยากให้แฟนๆ ไปด่าก้อง ไม่อยากให้แฟนๆ ต้องไปด่ากันตามสังคม ผมเชื่อว่าก้องโตแล้ว ก้องคงมีวิธีในการที่จะรับมือแล้วก็รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คำพูดไม่ว่าจะเป็นจากทางผู้จัด ทางก้องมันมาส่งผลกระทบอะไรกับคนอื่นที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยอันนี้ผมจำเป็นต้องออกมาพูด แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงขั้นนั้น”