“แหม่ม แคทลียา” เผยอีก 1 ปี ส่ง “น้องคิน” ตามรอย “น้องแม็ค” ไปเรียนที่เมืองนอก บอกอนาคตอาจส่ง “น้องเนสซี่” ตามไปด้วยอีกคน เล็งซื้อบ้านบินตามไปอยู่กับลูกๆ ที่ต่างแดน แฮปปี้จูบปากคืนดี “หนูแหม่ม” ยังจำได้ทุกเรื่องราว วันวานที่สนุกและมีความสุข อยากร่วมงานด้วยกันอีกสักครั้งหนึ่ง
ลูกชายคนโต “น้องแม็ค” เริ่มปรับตัวกับการใช้ชีวิตที่เมืองนอก “แหม่ม แคทลียา กระจ่างเนตร” ก็เผยระหว่างมาร่วมงานเปิดตัวแบรนด์ขนมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น “ZAKUZAKU” ร้าน ZAKUZAKU ชั้น M (ติดกับ BAKE CHEESE TART) ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ว่าอีก 1 ปีข้างหน้าก็เตรียมจะส่ง “น้องคิน” ตามพี่ไปด้วยอีกคน ส่วน “น้องเนสซี่” ขอเลือกเวลาที่เหมาะสม
“จริงๆ นอกจากไปส่งแล้ว แม็คเขาก็ต้องไปสอบสัมภาษณ์ด้วย เพราะว่าเขาสอบข้อเขียนผ่านแล้ว ตอนนี้เหลือแค่สอบสัมภาษณ์อย่างเดียวสำหรับโรงเรียนมัธยมที่เขาจะต้องเข้าในอีกปีข้างหน้า ซึ่งยังมีอีกหลายโรงเรียนเลยค่ะที่แม็คเขาต้องไล่สอบไปเรื่อยๆ เพราะเราสมัครไว้หลายโรงเรียน แต่ถามว่ามีโรงเรียนในฝันที่อยากให้น้องเข้ามั้ย ก็มีค่ะ มีโรงเรียนที่ชอบมาก แต่เอาไว้ถึงเวลาแล้วค่อยบอกดีกว่า”
“เอาจริงๆ โชคดีนะคะที่ช่วงหลังมานี้เขาดีขึ้น แต่ว่าตอนที่เขาไปใหม่ๆ เขาก็โดนจับสอบเลย ซึ่งมันก็ค่อนข้างยากสำหรับเด็กเหมือนกัน แต่ว่าทั่วโลกเขาก็เป็นแบบนี้ เด็กทุกคนก็เป็นแบบนี้ ซึ่งอย่างที่บอกตอนนี้เขาก็ดูสบายขึ้นแล้วค่ะ อาจจะมีบ้างที่บ่นๆ เรื่องสอบ แต่ก็ถ้ามองอีกมุมเขาก็ได้พัฒนาตัวเองไปด้วย”
บอกมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทั้งมีวินัยและความรับผิดชอบ จากที่เคยร้องไห้คิดถึงลูก ล่าสุดชินแล้ว บินไปหาทุกๆ 3 สัปดาห์
“เยอะเลยค่ะ เยอะเลย เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีระบบระเบียบ มีวินัยและก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น เดี๋ยวนี้พอถึงเวลาเขาก็จะรู้เองว่าควรทำการบ้านตอนไหน อ่านหนังสือตอนไหน ซึ่งแหม่มคิดว่าเพื่อนๆ เขาที่เรียนด้วยกันก็คงเป็นแบบนี้ มันก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาโตขึ้นมีวินัยมากขึ้นค่ะ”
“ถามว่าคิดถึงมั้ย เวลามันก็ช่วยนะคะ แรกๆ อาจจะร้องไห้คิดถึงลูก แต่พอเวลาผ่านไปได้สัก 1 ปี เราก็เริ่มคุ้นชิน บวกกับพยายามบินไปหาเขาทุกๆ 3 สัปดาห์ เวลาที่โรงเรียนเขาหยุด คือเราโชคดีตรงที่เราจัดสรรเวลาได้และก็ได้ไปหาเขาตลอด”
อีก 1 ปี เตรียมส่ง “น้องคิน” ตามรอยพี่ชายต่อ
“คนนี้จะไปเร็วกว่าด้วยค่ะ คือเราจะให้เขาไปตอน 9 ขวบ ซึ่งตอนนี้เขากำลังจะ 8 ขวบแล้ว ง่ายๆ อยู่ไทยอีก 1 ปีก็ไปแล้วค่ะ ส่วนคุณแม่ก็ต้องเริ่มทำใจใหม่ แถมเขาไปตอนยังเด็กกว่าแม็คด้วยเพราะแม็คไปตอน 10 ขวบ แต่เราจะบอกว่าไม่พร้อมก็ไม่ได้ ต้องรีบทำใจเพราะว่าเวลามันงวดเข้ามาแล้ว น้องคินเขาก็ทราบค่ะ ก็จะมีบางทีเหมือนกันที่เขาจะถามพ่อว่าขออยู่โรงเรียนไทยจนถึงมัธยมไม่ได้เหรอ เพราะเขาก็ยังรู้สึกสนุกกับเพื่อนๆ”
ขำๆ น้องเนสซี่ อยากตามพี่ๆ ไปด้วย ลั่นอยากให้ไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม
“เนสซี่จะไปนะคะ เนสซี่จะไป ซึ่งไม่รู้ชะตาตัวเองเลยว่าถ้าไปแล้วจะไปยังไง คือแค่ 5 ขวบก็จะไปแล้ว แหม่มก็ถามนะว่าถ้าไปแล้วจะอยู่ได้เหรอ เขาก็ตอบว่าเขาอยู่ได้ (หัวเราะ) ซี่จ๋า ซี่ยังไม่รู้เรื่องเลยแต่ซี่จะไปแล้ว”
“(ลูกๆ ไปกันหมด เราจะย้ายตามไปอยู่ด้วยถาวรมั้ย?) เราก็คุยเหมือนกันนะคะ คือถ้าผู้ชายได้ไป ทำไมผู้หญิงจะไม่ได้ไป มันไม่ยุติธรรมกับเขาหรือเปล่า และถ้าหากซี่เขาอยากไปจริงๆ เราก็ต้องให้เขาไปในอายุที่เหมาะสม รวมถึงเราก็คงต้องบินไปอยู่กับเขาที่โน่น"
“เรื่องซื้อบ้านก็วางแผนอยู่ค่ะ แต่เอาจริงๆ มันสามารถบินไปบินมาได้นะ ทุกวันนี้เราก็บินไปบินมาสะดวกแล้ว คืออีกสักพักเลยแหละเพราะซี่เขาเพิ่งจะ 5 ขวบ ยังไม่เร็วๆ นี้หรอกค่ะ”
แค่คิดก็สนุก รอคนหยิบยื่นโอกาสให้กลับมาร่วมงานกับ “หนูแหม่ม สุริวิภา”
“ร่วมงานได้เสมอตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดต่างๆ รวมถึงเจ้าของช่องต่างๆ ด้วย ที่จะผลิตรายการหรือคิดทำรายการและนำเราสองคนไปเป็นพิธีกร เราคุยกันอยู่เรื่อยๆ คุยกันหลายๆ เรื่องด้วยค่ะ แต่มันก็สนุกอยู่แล้วนะ เพราะเราเองก็สนุกกับการทำงานร่วมกับพี่หนูแหม่มตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากมีคนหยิบยื่นโอกาสให้เราได้ทำงานด้วยกันอีก เอาจริงๆ แค่คิดก็สนุกแล้วค่ะ คือจะเป็นงานอะไรก็ได้ ละครเมื่อก่อนเราก็เคยเล่นด้วยกัน รายการเราก็ทำด้วยกัน”
“ก็มีถามๆ เหมือนกันนะคะ แต่อย่างที่บอกก็ถ้าจะมีรายการสักรายการ มันก็ต้องมีการคิดก่อนว่าจะทำคอนเซ็ปต์แบบไหนหรืออะไรยังไง เพราะว่าตอนนี้รายการทีวีเปลี่ยนแปลงไปเยอะ วงการทีวีก็ต้องสู้กับสื่อหลายๆ ช่องทาง แต่ถ้าหากมีอะไรถูกใจติดต่อเข้ามายินดีมากๆ พร้อมเต็มที่ อีกอย่างตอนนี้นางก็ชวนฉันยิกๆ ให้ไปออกกำลังกาย เพราะนางฟิตมาก เป็นตัวอย่างที่ดีเลยค่ะ”
รับนัดเจอกันตลอด บอกเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่สนุกและมีความสุข ยังจำได้ทุกเรื่องราว
“ใช่ค่ะ เจอกันเรื่อยๆ อยู่แล้ว ตัวแหม่มเองก็ทำเล็บร้านพี่หนูแหม่มตลอด คุณแม่ก็ทำ คือทำมาเป็นหลายสิบปีแล้วค่ะ ก็มีแฟนๆ นึกถึงบรรยากาศสมัยสมาคมชมดาว ไปรื้อภาพเก่าๆ มาดูเหมือนกัน โห...ผอมมากค่ะดิฉัน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าพี่หนูแหม่มสวยมาก ขณะที่ตัวดิฉันเอ๊ะ อ้วนกว่า (ยิ้ม) เห็นรูปก็ซีเรียสสิ แต่ว่าล่าสุดพอได้แสดงละครเวทีน้ำหนักก็ลดลงไปประมาณ 5 กิโลกรัม แค่เราก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก เนื่องจากว่าตอนนั้นเรายังสาวมากๆ และร่างก็เล็กมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะผอมกว่านี้อีกสัก 2 กิโลกรัม คือแล้วแต่เลย เพราะเอาตรงๆ ทักวันนี้สามีก็ไม่ได้ว่าอะไร สามีบอกว่าแบบนี้กำลังโอเค นางก็ปลอบใจของนาง”
“มันก็เป็นชีวิตเราเหมือนกันนะคะ เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่สนุกและมีความสุข ยังจำได้ทุกตอนทุกเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตชมดาว หรืองานต่างๆ มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกอยู่แล้ว เพราะว่าเราอยู่กันมานาน”