xs
xsm
sm
md
lg

“เจมส์-แต้ว” มั่นใจหนึ่งด้าวฯ สนุก แต่ไม่มั่นใจจะสู้บุพเพฯ ได้หรือเปล่า เผยฉากกินผู้ชาย ขนลุกและฟินมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เจมส์จิ-แต้ว” พร้อมลงจอ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” มั่นใจสนุก แต่ไม่แน่ใจว่าจะเปรี้ยงเท่า บุพเพสันนิวาส หรือเปล่า เจมส์จิเผยสุดท้อถือเป็นวานแสดงที่ท้าทายในชีวิต เทคยับ 40 เทค เล่นไม่อินต้องไปศึกษาประวัติศาสตร์ จับตาฉากเลิฟซีนแต๋วแตกที่ทำเอาเจ้าตัวขนลุกและฟินมาก

ช่อง 3 เปิดตัวละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ภายใต้ชื่องาน “ถอดรหัส...หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ไปอย่างอลังการเลยทีเดียว งานนี้สองพระนาง “เจมส์จิ จิรายุ ตั้งศรีสุข” และ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ก็ได้เปิดเผยถึงการแสดงเรื่องนี้ว่า ค่อนข้างยากต้องใช้ภาษาโบราณ โดยเฉพาะเจมส์จินั้นถือว่าเป็นงานหินเพราะเทคยับ 40 เทค แต้วต้องยืนรอต่อบทอยู่ 3 ชม. แถมเล่นยังไงก็ไม่อินจนผู้กำกับต้องให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนค่อยกลับมาถ่ายทำใหม่ มั่นใจว่าละครสนุกถ้าได้ดูแล้วต้องติดใจ แต่จะดังเปรี้ยงสู้บุพเพสันนิวาสได้หรือไม่ ไม่อาจคาดเดาได้

เจมส์ : “ก็ตื่นเต้นมากๆ นะครับ เพราะว่างานชิ้นนี้เป็นงานที่ยากลำบากมากกว่าจะเสร็จออกมาทุกคนเหนื่อยกับการทำทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องนี้ พอได้เห็นก็รู้สึกว่าชื่นใจที่จะได้ดูครับ”
แต้ว : “ก็ตื่นเต้นแน่นอนค่ะ ละครจะออนทุกเรื่องตื่นเต้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ยิ่งเต้นตื่นเต้นหนักเข้าไปอีกค่ะ”

ละครย้อนยุคเล่นยาก และใช้ภาษาโบราณ
เจมส์ : “เรื่องที่ยากที่สุดเลยนั่นก็คือเป็นยุคสมัยที่เป็นพีเรียดที่ย้อนกลับไป แล้วก็เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งเราไม่ค่อยได้คุ้นชินกับสิ่งๆ นั้นอยู่แล้ว เราต้องทำการบ้านทำทุกอย่างเพิ่ม ตัวละครแต่ละตัวจะมีความยากในตัวเองค่อนข้างมากอยู่แล้วครับ”

“ภาษาโบราณก็เป็นอันหนึ่งที่ยากมากๆ เพราะว่าทางคนเขียนบทประพันธ์เองก็อยากจะให้มีกลิ่นเป็นคำโบราณออกมา ก็เลยต้องใช้คำโบราณที่บางทีอาจจะสูญหายไปแล้ว หรืออาจจะเคยได้ยินแต่ไม่บ่อยนัก ก็เลยทำให้ต้องท่องจำซะมากกว่า”

“เจมส์จิ” เทคแหลก 40 เทค ถึงขั้นท้อ “แต้ว” ต้องรอ 3 ชั่วโมงกว่าจะเล่นผ่าน
เจมส์ : “ผมว่าอย่านับเทคเลยครับ เรื่องนี้มันนานมาก คิดดูว่าอีดิทแล้ว ในตอนๆ เดียว มันไม่เคยแบบ 3 ชั่วโมง ยืนอยู่ต่อหน้าพี่แต้ว ในประโยคประโยคเดียว เฟลมากครับ ถามว่าท้อไหมก็ท้อครับ”

แต้ว : “มันเป็นแค่ช่วงแรกๆ แหละแต้วว่า ในช่วงแรกที่ไม่ใช่แค่เรา ทุกคนต้องพูดภาษาเดียวกันคือภาษาโบราณ ก็จะต้องมีช่วยปรับตัวค่ะ คือการทำให้ภาษาโบราณมันกลายเป็นธรรมชาติ อันนี้มันเป็นสิ่งที่ยาก หลายๆ คนก็คิดว่าตะต้องใช้วิธีไหน แต่พอถ่ายไปสักพักก็จะเจอวิธีของแต่ละคนเอง คือด้วยความเป็นนักแสดงด้วยกันเอง เราก็อยากที่จะเป็นกำลังใจให้เขา เราต้องช่วยเหลือกัน เป็นพาสเนอร์กัน”

เจมส์ : “พี่แต้วเขารักผมอยู่แล้วครับ(หัวเราะ)”
แต้ว : “จริงๆไม่ได้ยืนรอนะ เหมือนเราก็ต้องส่งบทให้กัน คือพยายามจะเก็บสีหน้าไม่ให้ลุ้น แต่ก็มีลุ้นนิดหน่อย(หัวเราะ)”
เจมส์ : “แต่ว่าพี่แต้วไม่โกรธผมครับ พี่แต้วแค่เมื่อยนิดหน่อย(หัวเราะ)”
แต้ว : “แต้วก็ไม่ได้สอนค่ะ เพราะก็ยากสำหรับตัวเองเหมือนกัน มันอยู่ที่แต่ละคนค่ะ แต้วว่าเจมส์เขาก็มีวิธีของเขาเอง พอผ่านตรงนั้นไปได้ เขาก็ทำได้ดีในซีนต่อๆ ไป”

ถือเป็นการท้าทายใหม่ๆ ในการเป็นนักแสดงของ “เจมส์จิ”
เจมส์ : “เรียกว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ ดีกว่าครับ จากที่ผมเล่นๆ มา แล้วก็ได้เจอทั้งเรื่องภาษาด้วย ทั้งประวัติศาสตร์ที่เราต้องศึกษาเพิ่มเติม แล้วก็เรื่องของการบู๊ด้วย หลายๆ อย่างเลยครับ คือเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่หยิบอันหนึ่งมาพูดแล้วจะใช่ทั้งหมด เพราะว่ามันผสมกันแบบค่อนข้างเยอะมากครับ”

“ผมศึกษาเพิ่มเยอะครับ เพราะว่าในส่วนของผมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อย่างตรงๆ เลยครับ พี่ผู้กำกับเขาบอกเราว่าเล่นยังไงมันก็ยังไม่อิน ช่วยไปศึกษาประวัติศาสตร์เพิ่มเติม ผมก็พยายามไปศึกษาประวัติศาสตร์ทั้งการอ่านเยอะมากพอสมควรครับ แล้วก็กลับมาเล่น”

“มันยากตรงที่ว่า หนึ่งเราไม่เคยรู้ว่าประวัติศาสตร์ จริงๆ แล้วขันทีทำตัวยังไง เราไม่เคยเห็นเลย เราเคยเห็นแต่ขีนทีจีน ว่าคอยมารายงานโน่นนี่นั่น แต่ขันทีของไทย เราไม่เคยรู้ว่าเขาทำหน้าที่อะไร เขาใช้ชีวิตแบบไหน หรือแต่งตัวยังไง พอเรามาเล่นมันก็ยาก”

แต้ว : “แต้วพอจะรู้ประวัติศาสตร์บ้างอยู่แล้ว แล้วด้วยความที่เราเล่นเป็นชาวบ้านด้วย แต่ก็จะมีความพิเศษที่เราค่อนข้างเก่งเรื่องกลบทมาก เราก็ไปศึกษาเพิ่มเติมว่ากลบทมันคืออะไร เพื่อให้เราเกิดความเชื่อว่าเราเก่ง เราเชี่ยวชาญอันนี้จริงๆ”

ติดบุคลิกสาวแตกในละคร แถมยังต้องเข้าฉากเลิฟซีนกับ “เดี่ยว สุริยนต์” เจ้าตัวยอมรับ ขนหัวลุกและฟินมาก
เจมส์ : “เอ่อ...ก็ไม่นะครับ”
แต้ว : “ต้องกดลงค่ะ เป็นอยู่แล้ว(หัวเราะ)”
เจมส์ : “ตอนนี้ก็เป็นอยู่แล้วครับ(หัวเราะ) ส่วนฉากเลิฟซีนกับพี่เดี่ยวก็ไม่ถึงกับมีเลิฟซีนครับ คือพี่เดี่ยวเขาก็ไม่ได้มาชอบอะไรกับผม แค่สงสัยเฉยๆ ว่าผมเป็นอะไร ก็อยากให้ดูในละครครับ เพราะว่าแค่ความสงสัยของพี่เดี่ยว มันก็ทำให้เกิดความสดใสในละครที่แบบมหากาฬมากครับ ผมขนลุกตั้งแต่เท้ายันหัวเลย พี่เดี่ยวแบบ ทำฟินมากอ่ะ ต้องไปดู”
แต้ว : “พูดขนาดนี้ทุกคนรอดูแต่ฉากนี้แล้วนะ”

ไม่กดดัน “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ออนแอร์ต่อจาก “บุพเพสันนิวาส”
จมส์ : “คือผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ ผมคิดแค่ว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่ให้อะไรกับคนค่อนข้างเยอะ ให้รู้ว่าตัวละครแต่ละตัว ถ้าเกิดทำอะไรไม่ดีไว้แล้วมันจะได้อะไรกลับมา แล้วก็เล่าถึงประวัติศาสตร์ ได้พูดถึงบรรพบุรุษไทยที่เสียสละ สิ่งเดียวที่คิดก็คืออยากให้ทุกคนได้ดูเยอะๆ ครับ ผมว่ามันไม่มีใครรู้หรอกครับว่า จะได้มากหรือน้อย มันอยู่ที่ว่าตอนออนแอร์แล้วท่านผู้ชมเป็นคนตัดสินเองว่า จะดูหรือว่าไม่ดู ชอบหรือว่าไม่ชอบ ถ้ายิ่งจับตาก็ยิ่งดีครับ แล้วก็จะได้มีคนดู ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าเกิดได้ดูตอนที่ 1 ก็น่าจะติดมั้ง(หัวเราะ)”
ต้ว : “มันสนุกนะ ในความรู้สึกเรา คือตั้งแต่เราอ่านนิยายแล้วมันเป็นการเล่าประวัติศาสตร์ มีเรื่องของขันทีที่หายไปจากประวัติศาสตร์ที่เราได้เรียนกันมามันก็น่าสนใจแล้ว แล้วยังมีปลอมตัวอีก มันสนุกตั้งแต่เนื้อเรื่องแล้วค่ะ”

ไม่มั่นใจว่าละครจะดังเปรี้ยง แต่มั่นใจว่าละครมีความสนุก
แต้ว : “ก็ไม่ถึงกับมั่นใจขนาดนั้นค่ะ แต่เราคิดว่าละครแต่ละเรื่องก็ต้องมีอรรถรสในของแต่ละเรื่องค่ะ ก็
ขึ้นอยู่กับจะชอบมาน้อยแค่ไหน”

เจมส์ : “ถ้าไม่เป็นไปตามคาดก็ไม่ถึงกับเฟลหรอกครับ เพราะว่าเราทุกคนก็ทำกันแบบเต็มที่แล้ว ณ วันนั้นที่เราทำกันได้ เราก็เชื่อมั่นว่าถ้าเกิดว่าได้ดูกันอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็ติดครับ เนื้อหามันไม่ได้เข้าใจยาก ไม่เชิงว่าจะเล่าประวัติศาสตร์อย่างเดียว แต่มันมีความสนุกของตัวละครต่างๆ มาสอดแทรกค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ซึ่งทำให้เราดูอย่างสนุก แล้วเราก็เข้าไปถึงประวัติศาสตร์โดยที่เราไม่รู้ตัวครับ”

แต้ว : “ฝากติดตามด้วยนะคะ สำหรับหนึ่งด้าวฟ้าเดียว 25 เมษานี้นะคะ ตอนแรกแล้ว ฝากติดตามละครที่เป็นประวัติศาสตร์ แล้วก็เป็นกำลังใจให้พวกด้วยแล้วกันค่ะ(ยิ้ม)”



กำลังโหลดความคิดเห็น