ทำเอาวงการเพลง EDM ถึงขั้นสะเทือนทีเดียว เมื่อดีเจชื่อดังมากฝีมืออย่าง “อาวีชี” ( Avicii ) หรือชื่อจริงว่า “ทิม เบิร์กลิง” ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ที่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน ด้วยวัยเพียง 28 ปี โดยสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ระบุแน่ชัด
ทางประชาสัมพันธ์ส่วนตัวได้ออกมายืนยันข่าวการเสียชีวิตของดีเจดังชาวสวีเดนรายนี้ว่า “เป็นความเศร้าใจอย่างที่สุดที่ต้องประกาศว่า เราได้สูญเสีย ทิม เบิร์กลิง หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาวีชี ไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยพบเขาเสียชีวิตที่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทางครอบครัวเสียใจต่อการจากไปของเขามาก และอยากขอร้องทุก ๆ คนช่วยเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวเขาที่ต้องการความสงบในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ด้วย โดยตอนนี้ยังไม่มีแถลงการณ์ใด ๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้น”
อาวีชี คือ ดีเจซูเปอร์สตาร์ดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จในวงการดนตรีกระแสหลักจากผลงานเพลง Levels ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2011 ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงแดนซ์ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่ปีต่อมา เขาจะผนึกกำลังกับดีเจดัง เดวิด เกตต้า ในเพลง Sunshine ส่งให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี อวอร์ดส์ ในสาขา Best Dance Recording หรือบันทึกเสียงเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม และในปีเดียวกัน เขาก็ยังขึ้นเป็นดีเจคนแรกที่เข้าไปอยู่ใน Radio City Music Hall ที่นครนิวยอร์กด้วย
ความสำเร็จของเขาทวีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2013 อาวีชี ได้ปล่อยผลงานอัลบัมเต็ม True ซึ่งมีซิงเกิลที่โด่งดังสุด ๆ อย่าง Wake Me Up ที่ขึ้นอันดับ 1 ใน 20 ประเทศ และติดอันดับท็อปในชาร์ตเพลงแดนซ์ที่สหรัฐอเมริกานานถึง 14 สัปดาห์ และยังเป็นเพลงที่ถูกสตรีมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในชาร์ตทั่วโลกของ Spotify
ในปี 2014 อาวีชี ยังเคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง Coldplay ในแทร็กที่ชื่อว่า A Head Full of Stars ซึ่งในอัลบัมที่ 2 ของเขาอย่าง Stories ที่ปล่อยตามมาในปีถัดมา ก็ได้บรรจุเพลงที่เขาร่วมงานกับคริส มาร์ติน จากวง Coldplay และ Zac Brown Band ลงไปด้วย
ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะประสบความสำเร็จในเรื่องของงานเพลง แต่เนื่องจากอาวีชี มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพที่มีปัญหารุมเร้าหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ อันเนื่องมาจากดื่มหนัก และในปี 2014 เขาก็เคยเข้ารับการผ่าตัดเอาถุงน้ำดี และไส้ติ่ง ออกจากร่างกาย ส่งให้เขาต้องเริ่มรีไทร์ตนเองออกจากการเดินสายทัวร์แสดงสดตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา โดยช่วงหลังเขาหันไปทำเพลงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น