The Sydney Herald เผยรายละเอียดคดีฟ้องร้องที่ ผกก. “จอร์จ มิลเลอร์” กล่าวหาว่า Warner Bros./Time Warner เบี้ยวโบนัสจากหนัง Mad Max: Fury Road ซึ่งปัญหาทางกฎหมายดังกล่าว กำลังทำให้อนาคตของ Mad Max มีปัญหาขึ้นมาทันที
จอร์จ มิลเลอร์ ยืนยันว่า เขาควรจะได้รับโบนัสเป็นเงิน 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพราะทำหนังตามงบที่กำหนดไว้ แต่ Warner Bros./Time Warner ยืนกรานที่จะไม่จ่าย และอ้างว่า มิลเลอร์ ถ่ายทำหนังเกินงบ จึงไม่ได้รับโบนัสตามสัญญา
ตามข่าวของสื่อออสเตรเลีย มิลเลอร์ บอกว่า Warner Bros./Time Warner เคยสัญญาว่า ถ้าเขาปิดกล้อง Mad Max: Fury Road ด้วยทุนสร้างที่ต่ำกว่า 157 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทางบริษัทก็จะจ่ายโบนัสให้ส่วนหนึ่ง แต่ทางบริษัทก็ตอบโต้ไปว่า มิลเลอร์ ไม่ได้ทำหนังด้วยต้นทุนดังกล่าว แต่ถ่ายทำจนเกินงบไปถึง 185 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งผู้กำกับชาวออสเตรเลียก็อธิบายว่า ทุนสร้างที่เพิ่มขึ้น เกิดขึ้นจากการแทรกแซงของทางสตูดิโอที่เป็นผู้สั่งให้เขาถ่ายซ่อมหนังเอง จึงไม่ควรนำค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาบวกกับทุนสร้างรวมของหนังด้วย
Mad Max: Fury Road ได้รับเสียงชื่นชมให้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งของปี 2015 และทำรายได้ไปพอสมควรที่ประมาณ 378 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ด้วยทุนสร้างที่ทางสตูดิโออ้างเกินงบจนไปแตะระดับ 185 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ทางบริษัทก็ไม่ได้กำไรอะไรมากมายนักกับผลงานชิ้นนี้ แต่หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่าหนังชุดนี้มีอนาคตสดใส
จอร์จ มิลเลอร์ วัย 73 ปี บอกว่า เขาเขียนบทหนัง Mad Max เอาไว้อีก 2 ภาค ซึ่งคนในวงการเชื่อว่า หนังมีศักยภาพที่จะทำได้เหมือนหนังชุด Batman ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ภาคแรกไม่ได้ทำกำไรอะไรมากมายนัก (ทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำเงินไป 371 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) แต่หนังก็สามารถสร้างกระแสและเสียงชื่นชมจนภาคต่ออย่าง The Dark Knight กวาดเงินอย่างมหาศาล (ทุนสร้าง 185 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำเงินเกิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)