ความขัดแย้งในกลุ่มพี่น้อง ซึ่งเป็นทายาทของศิลปินผู้ล่วงลับ “พรินซ์” ทำให้เหล่าทายาทยังไม่ได้แตะเงินมรดกที่เขาทิ้งเอาไว้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลย ขณะที่ทีมกฎหมายและที่ปรึกษาได้รับเงินไปแล้วรวมถึงเกือบ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ศิลปินระดับตำนานวงการเพลง พรินซ์ เสียชีวิตจากเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนหน้านี้ หรือในวันที่ 21 เม.ย. 2016 โดยเขาไม่ได้ทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ ทำให้การจัดการมรดกมีความยุ่งยากพอสมควร แม้เขาจะมีทรัพย์สินรวมมากถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงบ้านที่มินิอาโพลิส แต่ถึงตอนนี้เหล่าทายาทก็ยังไม่ได้รับส่วนแบ่งจากมรดกก้อนโตนี้เลย
แต่ผู้ดูแลกองมรดก รวมถึงทนายความ กลับได้เงินค่าจ้างในการจัดการกองมรดกไปแล้วถึง 5.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข่าวยังบอกว่า เงิน 5.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น ยังไม่ได้รวมถึงค่าใช้จ่าย และค่าแรงของเหล่าทนายความบางส่วนจาก Comerica Bank รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับทนายความของทายาทแต่ละคนด้วยซ้ำไป นอกจากนั้น ก็ยังจะต้องมีการจ่ายเงินให้กับที่ปรึกษาด้านดนตรีของกองมรดก ซึ่งหมายถึง ทรอย คาร์เตอร์ ที่เป็นผู้บริหารของ Spotify ด้วย
ทายาท 3 คนของพรินซ์ เป็นกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อย และมองว่า สุดท้ายแล้ว เหล่าทายาทจะ “แทบไม่ได้อะไรเลย” ถ้าผู้บริหารกองมรดก และเหล่าทนายความยังคงใช้จ่ายเงินจากกองมรดกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับผู้พิพากษา เควิน ไอด์ ที่กำชับให้ทุกฝ่ายลดค่าใช้จ่ายในกระบวกการต่าง ๆ ลงให้ได้เพราะเงินในกองมรดกไม่ได้มีอย่าง “ไร้ขีดจำกัด”
แม้ทายาทจะยังไม่ได้เงิน และกองมรดก 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็ต้องจ่ายค่าดูแลจัดการไปเรื่อย ๆ แบบนี้ แต่เหล่าทายาทก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ทำให้การแบ่งมรดกเต็มไปด้วยปัญหา และไม่ลงตัวซะที
ตอนนี้ ทายาททั้ง 2 กลุ่ม ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการย้ายทรัพย์สินของพรินซ์ จากมินิอาโพลิส ไปยังลอสแอนเจลิส รวมถึงการที่กองมรดกได้ตัดสินใจฟ้องร้องบริษัท Roc Nation ของ เจย์-ซี ด้วย ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะก่อนเสียชีวิต พรินซ์ได้เซ็นสัญญามอบสิทธิให้ Tidal ของ เจย์-ซี เป็นผู้เผยแพร่ผลงานเพลงของเขาในรูปแบบการสตรีมมิงแต่เพียงผู้เดียว