โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สงกรานต์ปี 2561
ในขณะที่ชาวไทยและชาวต่างชาติ เพลิดเพลินกับการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกชุ่มฉ่ำ
ในอีกซีกโลกที่ตะวันออกกลาง อเมริกาและสมุนก็ได้สาดอาวุธสงครามเข้าถล่มซีเรียอีกครั้ง
ด้วยเหตุผลข้ออ้างเดิมๆที่เป็นมุกเก่า(เคยใช้กับอิรัก)ว่า ซีเรียมีอาวุธเคมี ซึ่งคนส่วนใหญ่ยุคนี้ไม่เชื่อน้ำหน้าอเมริกากันแล้ว
อย่างไรก็ดีสงครามที่ซีเรียวันนี้ยังเป็นแค่ในระดับภูมิภาค แต่หลายๆคนอดหวั่นไม่ได้ว่ามันจะลุกลามขยายกลายเป็นสงครามโลก ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามอเมริกา อย่าง จีน เกาหลีเหนือ และรัสเซียที่ถือหางซีเรีย ทำการตอบโต้อมริกาและนาโต้
งานนี้คงต้องเฝ้าติดตามกันอย่างเกาะติดยิ่งกว่าละครออเจ้า เพราะหากสงครามขยายใหญ่ขึ้น มันย่อมต้องส่งผลกระทบต่อบ้านเราไปด้วย
สำหรับอเมริกานั้นเป็นที่รู้กันดีว่า หลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ตั้งตนเป็นตำรวจโลก โดยนำคาถาประชาธิปไตยไปสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในหลายๆประเทศ(ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านเรา)
นอกจากนี้อเมริกันยังมีพฤติกรรมชอบจุ้นเรื่องของชาวบ้านมาตั้งแต่ไหนแต่ไร นั่นจึงทำให้ใครหลายๆคนได้ตอบโต้รัฐบาลมะกันกลับไปอย่างเจ็บแสบ ซึ่งเรื่องราวความเป็นปีศาจในคราบนักบุญประชาธิปไตย(จอมปลอม)ของอเมริกันนั้น ในแวดวงการเพลงบ้านเรา(และทั่วโลก) โดยเฉพาะวงการเพลงเพื่อชีวิตก็ได้มีการแต่งเพลงต่อต้าน ประท้วง อเมริกา มาตั้งแต่ยุคแรกๆที่ดนตรีเพื่อชีวิตก่อกำเนิดขึ้นในบ้านเรา
สำหรับหนึ่งในผลงานเพลงต่อต้านอเมริกาที่เขียนด่ามะกันได้อย่างตรงเป้า ตรงประเด็น ก็คือ บทเพลง “อเมริกันอันธพาล” ในชุด “อเมริกันอันธพาล” (พ.ศ.2541) ของวงหัวควาย “คาราบาว” ตำนานวงเพื่อชีวิตของเมืองไทย
อัลบั้มอเมริกันอันธพาล เป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 19 ของวงคาราบาว งานเพลงชุดนี้แม้พวกเขาจะสร้างสรรค์ขึ้นในยุคที่วงหัวควายได้เดินทางผ่านยุครุ่งโรจน์มาแล้ว แต่บทเพลงอเมริกันอันธพาล(และอีกหลายเพลงในชุดนี้)ก็ยังคงไว้ลายฝีมือการแต่งเพลงชั้นเยี่ยมของ “น้าแอ๊ด คาราบาว”(ยืนยง โอภากุล) ศิลปินแห่งชาติได้ดีทีเดียว
เพลงอเมริกันอันธพาล แต่งขึ้นหลังยุคต้มยำกุ้งที่ประเทศไทยย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากถูกโจมตีค่าเงิน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเบื้องหลังก็คือทุนจากวอลล์สตรีทแห่งอเมริกา
เพลงนี้เป็นร็อกโจ๊ะๆกับเนื้อหาจวกมะกันอย่างแสบสันถึงทรวง อย่างเช่น
“...ชอบสำคัญตนว่าเป็นตำรวจ (เฮอะ...)
แต่แสบเสียยิ่งกว่าพวกเก็บส่วย
หยิบยื่นเงินกู้เหมือนทำเป็นช่วย
แต่กลับนำความซวยมาสู่เอเซีย
สมรู้ร่วมคิดกับพวกชเลียร์ เลีย เลีย
นำภูมิภาคสู่ความหลงผิด
อเมริกันอันธพาล อเมริกันอันธพาล...”
นอกจากเพลงอเมริกันอันธพาลที่เป็นเพลงเอกของอัลบั้มชื่อเดียวกันแล้ว ในอัลบั้มชุดนี้ยังมีบทเพลงน่าสนใจ อีก อย่างเช่น เสือ, รักนี้มีแต่เธอ, มาลัยเสี่ยงรถ,สาธุชน, ฝัน, ป.4 ทำนา และ “ปองปะโอนประเจียจนกัมพูเจีย” บทเพลงที่พูดถึงความโหดร้ายของการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร ซึ่งแอ๊ดคาราบาวก็ได้ประณามการทระทำของอเมริกาผู้อยู่เบื้อหลังสงครามครั้งนี้ไว้ในบทเพลงได้อย่างเจ็บแสบแยบยล
แม้อัลบั้มอเมริกันอันธพาลจะไม่ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายและชื่อเสียง(เนื่องจากผ่านพ้นยุครุ่งเรืองของคาราบาวมาแล้ว) แต่ด้วยเนื้อหาและความโดดเด่นของภาคดนตรีในอัลบั้มอเมริกันอันธพาล ที่ทางวงคาราบาว ได้ทำเพลงให้ร่วมสมัย(ในยุคนั้น)และฟังง่ายมากขึ้น โดยได้นำส่วนผสมของเพลงบลูส์และริทึมแอนด์บลูส์เข้ามาเพิ่มความแปลกใหม่ในดนตรีของวงหัวควาย ทำให้อัลบั้มชุดนี้สามารถคว้ารางวัลสีสันอะวอร์ดส์ประจำปี 2541 มาครองด้วยกันถึง 2 รางวัล คือ รางวัล“อัลบั้มยอดเยี่ยม” และรางวัล “โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม”(วงคาราบาว)
นอกจากเพลง“อเมริกันอันธพาล”และ“ปองปะโอนประเจียจนกัมพูเจีย” ในอัลบั้มอเมริกันอันธพาลแล้ว วงหัวควายภายใต้การนำของแอ๊ด คาราบาว ยังมีบทเพลงต่อต้านอเมริกัน ที่เด่นดังอื่นๆอีก อย่างเช่น
-“อเมริโกย”(ในชุดอเมริโกย - 2528) ที่น้าแอ๊ดในยุคนั้นแต่งเพลงกัดจิกอเมริกาแบบนุ่มๆได้อย่างน่าฟัง กับงานดนตรีสนุกๆฟังง่าย ติดหูง่าย
“...อเมริกาเล่นลิเกขุดแร่ธาตุ
อย่างแก๊สก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทย
ว่าโชติช่วงชัชวาลบานเบ้อเร่อเท่อ
ใครฉลาดใครเซ่อใครต้มใคร...”
-“ทับหลัง” (ชุดทับหลัง -2531) อีกหนึ่งบทเพลงตำหนิอเมริกาของคาราบาวกับเหตุการณ์ที่ทหารอเมริกันมานำศิลปวัตถุล้ำค่าของไทย คือ “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” แห่ง “ปราสาทหินพนมรุ้ง” จ.บุรีรัมย์ ไปไว้ที่ประเทศของเขา ก่อนมีเรื่องราวประท้วงต่อต้าน ซึ่งสุดท้ายอเมริกันก็ได้นำทับหลังส่งกลับคืนสู่เมืองไทยแบบมีสิ่งแลกเปลี่ยนหลังจากนั้น
เพลงทับหลังเป็นร็อคดุๆ เนื้อหาทวงคืนทับหลังที่น้าแอ๊ด หยิบ“ไมเคิล แจ๊คสัน” ป็อบสตาร์ชื่อดังของโลกชาวมะกัน มาเป็นท่อนฮุกของเพลงได้อย่างน่าฟังและโดนใจของคนไทยที่แอนตี้อเมริกันในยุคนั้นมาก
“...เอาไมเคิล แจ๊คสัน คืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา...”
ครับและนี่ก็เป็นบทเพลงต่อต้านอเมริกันที่มีเรื่อยมา ซึ่งวันนี้บทเพลงในอดีตเหล่านี้ก็ยังคงฟังทันสมัยไม่เสื่อมคลาย เพราะรัฐบาลอเมริกันยังคงมีพฤติกรรมเป็นนักเลงโต เบ่ง กร่าง ชอบทำตัวเป็นตำรวจโลก ทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม แต่จริงๆแล้วเป็นพวก“ปีศาจในคราบนักบุญ ที่วันนี้แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่สันดานรัฐบาลมะริกันยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
แม้กระทั่งเป็นผู้จุดไฟสงคราม สร้างความฉิบหาย จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลมะกันก็หาได้สนใจใดๆไม่
..............................................................................................
นอกจากบทเพลงต่อต้านอเมริกาของคาราบาวแล้ว ก่อนหน้านั้นวง“คาราวาน”ผู้บุกเบิกวงการเพลงเพื่อชีวิตของบ้านเราก็สร้างสรรค์ผลงานต่อต้านอเมริกาขึ้นมาและไดรับการตอบรับในวงกว้าง และยังเข้ากันได้ดีกับสถานการณ์ทุกวันนี้ก็คือ อัลบั้ม “อเมริกันอันตราย”(พ.ศ. 2519) อัลบั้มชุดที่ 2 ของวงคาราวาน ที่มีบทเพลงต่อต้านอเมริกาเด่นๆ อย่าง อเมริกันอันตราย, ลำเพลินเจริญใจ ขับไล่ อเมริกา, เซิ้งอีสาน, และ โคราชขับไสไอ้กัน
สงกรานต์ปี 2561
ในขณะที่ชาวไทยและชาวต่างชาติ เพลิดเพลินกับการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกชุ่มฉ่ำ
ในอีกซีกโลกที่ตะวันออกกลาง อเมริกาและสมุนก็ได้สาดอาวุธสงครามเข้าถล่มซีเรียอีกครั้ง
ด้วยเหตุผลข้ออ้างเดิมๆที่เป็นมุกเก่า(เคยใช้กับอิรัก)ว่า ซีเรียมีอาวุธเคมี ซึ่งคนส่วนใหญ่ยุคนี้ไม่เชื่อน้ำหน้าอเมริกากันแล้ว
อย่างไรก็ดีสงครามที่ซีเรียวันนี้ยังเป็นแค่ในระดับภูมิภาค แต่หลายๆคนอดหวั่นไม่ได้ว่ามันจะลุกลามขยายกลายเป็นสงครามโลก ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามอเมริกา อย่าง จีน เกาหลีเหนือ และรัสเซียที่ถือหางซีเรีย ทำการตอบโต้อมริกาและนาโต้
งานนี้คงต้องเฝ้าติดตามกันอย่างเกาะติดยิ่งกว่าละครออเจ้า เพราะหากสงครามขยายใหญ่ขึ้น มันย่อมต้องส่งผลกระทบต่อบ้านเราไปด้วย
สำหรับอเมริกานั้นเป็นที่รู้กันดีว่า หลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ตั้งตนเป็นตำรวจโลก โดยนำคาถาประชาธิปไตยไปสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในหลายๆประเทศ(ไม่เว้นแม้แต่ในบ้านเรา)
นอกจากนี้อเมริกันยังมีพฤติกรรมชอบจุ้นเรื่องของชาวบ้านมาตั้งแต่ไหนแต่ไร นั่นจึงทำให้ใครหลายๆคนได้ตอบโต้รัฐบาลมะกันกลับไปอย่างเจ็บแสบ ซึ่งเรื่องราวความเป็นปีศาจในคราบนักบุญประชาธิปไตย(จอมปลอม)ของอเมริกันนั้น ในแวดวงการเพลงบ้านเรา(และทั่วโลก) โดยเฉพาะวงการเพลงเพื่อชีวิตก็ได้มีการแต่งเพลงต่อต้าน ประท้วง อเมริกา มาตั้งแต่ยุคแรกๆที่ดนตรีเพื่อชีวิตก่อกำเนิดขึ้นในบ้านเรา
สำหรับหนึ่งในผลงานเพลงต่อต้านอเมริกาที่เขียนด่ามะกันได้อย่างตรงเป้า ตรงประเด็น ก็คือ บทเพลง “อเมริกันอันธพาล” ในชุด “อเมริกันอันธพาล” (พ.ศ.2541) ของวงหัวควาย “คาราบาว” ตำนานวงเพื่อชีวิตของเมืองไทย
อัลบั้มอเมริกันอันธพาล เป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 19 ของวงคาราบาว งานเพลงชุดนี้แม้พวกเขาจะสร้างสรรค์ขึ้นในยุคที่วงหัวควายได้เดินทางผ่านยุครุ่งโรจน์มาแล้ว แต่บทเพลงอเมริกันอันธพาล(และอีกหลายเพลงในชุดนี้)ก็ยังคงไว้ลายฝีมือการแต่งเพลงชั้นเยี่ยมของ “น้าแอ๊ด คาราบาว”(ยืนยง โอภากุล) ศิลปินแห่งชาติได้ดีทีเดียว
เพลงอเมริกันอันธพาล แต่งขึ้นหลังยุคต้มยำกุ้งที่ประเทศไทยย่ำแย่ทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากถูกโจมตีค่าเงิน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเบื้องหลังก็คือทุนจากวอลล์สตรีทแห่งอเมริกา
เพลงนี้เป็นร็อกโจ๊ะๆกับเนื้อหาจวกมะกันอย่างแสบสันถึงทรวง อย่างเช่น
“...ชอบสำคัญตนว่าเป็นตำรวจ (เฮอะ...)
แต่แสบเสียยิ่งกว่าพวกเก็บส่วย
หยิบยื่นเงินกู้เหมือนทำเป็นช่วย
แต่กลับนำความซวยมาสู่เอเซีย
สมรู้ร่วมคิดกับพวกชเลียร์ เลีย เลีย
นำภูมิภาคสู่ความหลงผิด
อเมริกันอันธพาล อเมริกันอันธพาล...”
นอกจากเพลงอเมริกันอันธพาลที่เป็นเพลงเอกของอัลบั้มชื่อเดียวกันแล้ว ในอัลบั้มชุดนี้ยังมีบทเพลงน่าสนใจ อีก อย่างเช่น เสือ, รักนี้มีแต่เธอ, มาลัยเสี่ยงรถ,สาธุชน, ฝัน, ป.4 ทำนา และ “ปองปะโอนประเจียจนกัมพูเจีย” บทเพลงที่พูดถึงความโหดร้ายของการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขมร ซึ่งแอ๊ดคาราบาวก็ได้ประณามการทระทำของอเมริกาผู้อยู่เบื้อหลังสงครามครั้งนี้ไว้ในบทเพลงได้อย่างเจ็บแสบแยบยล
แม้อัลบั้มอเมริกันอันธพาลจะไม่ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายและชื่อเสียง(เนื่องจากผ่านพ้นยุครุ่งเรืองของคาราบาวมาแล้ว) แต่ด้วยเนื้อหาและความโดดเด่นของภาคดนตรีในอัลบั้มอเมริกันอันธพาล ที่ทางวงคาราบาว ได้ทำเพลงให้ร่วมสมัย(ในยุคนั้น)และฟังง่ายมากขึ้น โดยได้นำส่วนผสมของเพลงบลูส์และริทึมแอนด์บลูส์เข้ามาเพิ่มความแปลกใหม่ในดนตรีของวงหัวควาย ทำให้อัลบั้มชุดนี้สามารถคว้ารางวัลสีสันอะวอร์ดส์ประจำปี 2541 มาครองด้วยกันถึง 2 รางวัล คือ รางวัล“อัลบั้มยอดเยี่ยม” และรางวัล “โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม”(วงคาราบาว)
นอกจากเพลง“อเมริกันอันธพาล”และ“ปองปะโอนประเจียจนกัมพูเจีย” ในอัลบั้มอเมริกันอันธพาลแล้ว วงหัวควายภายใต้การนำของแอ๊ด คาราบาว ยังมีบทเพลงต่อต้านอเมริกัน ที่เด่นดังอื่นๆอีก อย่างเช่น
-“อเมริโกย”(ในชุดอเมริโกย - 2528) ที่น้าแอ๊ดในยุคนั้นแต่งเพลงกัดจิกอเมริกาแบบนุ่มๆได้อย่างน่าฟัง กับงานดนตรีสนุกๆฟังง่าย ติดหูง่าย
“...อเมริกาเล่นลิเกขุดแร่ธาตุ
อย่างแก๊สก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทย
ว่าโชติช่วงชัชวาลบานเบ้อเร่อเท่อ
ใครฉลาดใครเซ่อใครต้มใคร...”
-“ทับหลัง” (ชุดทับหลัง -2531) อีกหนึ่งบทเพลงตำหนิอเมริกาของคาราบาวกับเหตุการณ์ที่ทหารอเมริกันมานำศิลปวัตถุล้ำค่าของไทย คือ “ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์” แห่ง “ปราสาทหินพนมรุ้ง” จ.บุรีรัมย์ ไปไว้ที่ประเทศของเขา ก่อนมีเรื่องราวประท้วงต่อต้าน ซึ่งสุดท้ายอเมริกันก็ได้นำทับหลังส่งกลับคืนสู่เมืองไทยแบบมีสิ่งแลกเปลี่ยนหลังจากนั้น
เพลงทับหลังเป็นร็อคดุๆ เนื้อหาทวงคืนทับหลังที่น้าแอ๊ด หยิบ“ไมเคิล แจ๊คสัน” ป็อบสตาร์ชื่อดังของโลกชาวมะกัน มาเป็นท่อนฮุกของเพลงได้อย่างน่าฟังและโดนใจของคนไทยที่แอนตี้อเมริกันในยุคนั้นมาก
“...เอาไมเคิล แจ๊คสัน คืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา...”
ครับและนี่ก็เป็นบทเพลงต่อต้านอเมริกันที่มีเรื่อยมา ซึ่งวันนี้บทเพลงในอดีตเหล่านี้ก็ยังคงฟังทันสมัยไม่เสื่อมคลาย เพราะรัฐบาลอเมริกันยังคงมีพฤติกรรมเป็นนักเลงโต เบ่ง กร่าง ชอบทำตัวเป็นตำรวจโลก ทำตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม แต่จริงๆแล้วเป็นพวก“ปีศาจในคราบนักบุญ ที่วันนี้แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่สันดานรัฐบาลมะริกันยังคงเหมือนเดิม นั่นก็คือทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
แม้กระทั่งเป็นผู้จุดไฟสงคราม สร้างความฉิบหาย จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลมะกันก็หาได้สนใจใดๆไม่
..............................................................................................
นอกจากบทเพลงต่อต้านอเมริกาของคาราบาวแล้ว ก่อนหน้านั้นวง“คาราวาน”ผู้บุกเบิกวงการเพลงเพื่อชีวิตของบ้านเราก็สร้างสรรค์ผลงานต่อต้านอเมริกาขึ้นมาและไดรับการตอบรับในวงกว้าง และยังเข้ากันได้ดีกับสถานการณ์ทุกวันนี้ก็คือ อัลบั้ม “อเมริกันอันตราย”(พ.ศ. 2519) อัลบั้มชุดที่ 2 ของวงคาราวาน ที่มีบทเพลงต่อต้านอเมริกาเด่นๆ อย่าง อเมริกันอันตราย, ลำเพลินเจริญใจ ขับไล่ อเมริกา, เซิ้งอีสาน, และ โคราชขับไสไอ้กัน