เชื่อว่า ถึงตอนนี้ คนจำนวนไม่น้อยน่าจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงไปแล้ว และคงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นี่คืออีกหนึ่งผลงานที่งดงามน่าจดจำ และคงจะเป็นอีกหนึ่งตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย ของ “พ่อมดแห่งฮอลลีวูด” ที่ชื่อ “สตีเว่น สปีลเบิร์ก”
ความดีงามในความเป็นหนัง ทุกคนย่อมสัมผัสได้ เพราะตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ กับการรับชมหนังเรื่องนี้ มันตรึงเราอยู่ในแบบที่มีอะไรให้สนใจติดตามได้ตลอด ซึ่งเป็นเรื่องยากนะครับ กับการที่ใครสักคนจะทำหนังยาวๆ แล้วดึงความสนใจเราได้ขนาดนี้ และนี่ก็ไม่ใช่เพราะอะไร หากแต่มันสะท้อนถึงชั่วโมงบินของผู้กำกับ รวมทั้งทีมงานสร้างสรรค์ ที่ร่วมกันปั้นแต่งเล่าเรื่องให้ตรึงคนดูได้แบบไม่ละสายตาหรือว่ามีความเบื่อหน่าย
ไม่ต้องหลักการอะไรมากมาย แต่ผมอยากเขียนถึง “ความรู้สึก” ประทับใจบางส่วน หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แบ่งปันสู่กันฟัง ซึ่งอันดับแรก ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในพาดหัวว่า “ก้าวที่กล้า” โดยตามจริงก็มีที่มาจาก “ส่วนหนึ่งของหนัง” ... อย่างไรก็ตาม หากมองว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวแห่งความกล้าของคนทำหนัง ก็คงไม่ผิดแปลกแต่อย่างใด
สำหรับใครที่รู้ข้อมูลพื้นฐานของภาพยนตร์ ย่อมจะรู้ว่า การหยิบเอาเรื่องราวที่อยู่ในหนังสือชื่อเดียวกันนี้มาทำเป็นหนัง ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด เพราะในต้นฉบับที่เป็นนิยาย “Ready Player One” มีองค์ประกอบที่พูดได้ว่า “รุ่มรวยด้วยความทรงจำ” ผู้เขียนนิยายเรื่องดังกล่าว “เอิร์นเนสต์ ไคลน์” ได้นำเอา “เรื่องราวแห่งวันวาน” ระดับ 40 – 50 ปี มาใส่ไว้ในหนังอย่างหลากหลาย หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ หยิบเอาสิ่งที่เคยฮิตๆ ในวันเก่าก่อน ย้อนไปตั้งแต่ยุค 70 – 90 มาแทรกไว้ในตัวเรื่อง ทั้งแฟชั่น หนังเพลง เกมส์ ฯลฯ เรียกว่าเอาใจคนยุคอายุ 40 อัพ ขึ้นไปโดยแท้จริง
และนั่นก็คงเป็นหนึ่งในที่มาของคำถามที่หลายคนชอบถามว่า ถ้าเราเกิดเมื่อสิบกว่าปีนี้เอง เราจะดูหนังเรื่องนี้รู้เรื่องไหม?
คำตอบก็คือ “ดูรู้เรื่องครับ” เพราะถึงแม้จะมีการหยิบจับเอาเรื่องราวในวันเก่าคืนก่อนมาเป็นองค์ประกอบในการเล่าเรื่อง แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำความเข้าใจเรื่องราวแต่อย่างใด และจะว่าไป ทุกสิ่งจากวันวานที่นำเข้ามาไว้ในเรื่อง ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เคยฮิตในอดีตมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งหากมีความสนใจ ก็สามารถไปเก็บเกี่ยวเพิ่มเติมได้ แต่สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่หน่อย และมีความสนใจในวัฒนธรรมป๊อปอยู่แล้ว ก็คงจะเป็นสุขมหาศาล ตอนที่ได้เห็นสิ่งละอันพันละน้อยจากวันวาน ปรากฏขึ้นมาในจอหนัง
ทั้งที่จะว่ากันตามจริง เซ็ตติ้งเวลาในงานเรื่องนี้ กล่าวถึงโลกในอนาคต แต่ปรากฏว่า เนื้อหาในหนังนั้นกลับแพรวพราวหลากหลายไปด้วยเรื่องราวสุดคลาสสิกจากอดีต ตัวเรื่องดูล้ำๆ แต่ความทรงจำจากวันวานนั้นทรงคุณค่า นี่คือสิ่งที่ต้องบอกว่าเป็นความน่าประทับใจ สำหรับคนสูงวัยหน่อยๆ นะครับ
แต่สำหรับกับคนรุ่นใหม่ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะถึงที่สุดแล้ว หนังก็เล่าเรื่องที่ไม่ว่าใครก็สามารถจะจับต้องสัมผัสได้ โดยเฉพาะในความเป็นหนังแอ็กชั่นที่มาพร้อมกับปริศนาให้ค้นหาคำตอบ ตรงนี้หนังมัดเราอยู่หมัดมาก และเหนืออื่นใด คือความโรแมนติกและซึ้งที่หนังตบฮุกแบบเข้าถึงขั้วหัวใจ
ผมชอบมุกของหนังที่พูดถึงเรื่อง “ก้าวที่กล้า” และเชื่อว่า หลายๆ ท่านก็คงประทับใจในมุกนี้ เช่นเดียวกัน ... เชียร์ให้ไปดูครับ ผลงานเรื่องนี้