ด่าผมได้ แต่อย่าด่าพ่อ “แจ๊ส ชวนชื่น” หัวร้อน ล่าตัวคนวิจารณ์ “พ่อดม” ยันไม่ใช่นักเลง แค่อยากเห็นหน้า รับซื้อนาฬิกาหลักล้านให้เมีย แค่เห็นรอยยิ้มเมียก็ดีใจ ไม่หวั่นดรามาฟุ่มเฟือย เป็นรางวัลสำหรับการดูแลคนไม่เอาถ่าน
ปรี๊ดแตกจนประกาศล่าตัวกันเลยทีเดียว สำหรับตลกดัง “แจ๊ส ชวนชื่น” หลังจากที่มีคนเข้ามาวิจารณ์คำสัมภาษณ์ของ “พ่อดม” กรณีไม่รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ เพราะกลัวจะไม่ได้เข้าอาบอบนวด โดยเจ้าตัวเผยระหว่างมาร่วมงาน show me the money ณ สตู1 สตูมูนสตาร์ บอกแค่อยากเห็นหน้าอีกฝ่าย อยากให้มาเคลียร์กันต่อหน้าก็เท่านั้น
“คือบางทีเราเห็นในโซเชียล คนแท็กมา เราเห็นรูปพ่อเรา ว่าพ่อดมไม่อยากรับอะไรอย่างเนี้ย เราก็อยากรู้ว่าพ่อเราให้สัมภาษณ์อะไร เวลาเรานึกถึงพ่อเรา เราก็ชอบขำ คือเวลาพูดอะไรเขาพูดจริงๆ พ่อดมเป็นคนไม่เสแสร้ง ไม่เฟก ผมก็เหมือนพ่อนะ พูดอะไรผมก็พูด เขาก็พูดตามประสาของเขา แล้วเขาก็พูดออกมาเป็นเรื่องจริง ว่าเดี๋ยวเขาจะไปเที่ยวนั่นนี่ไม่ได้ เราก็นึกยังไงไม่รู้เลื่อนไปดูแล้วมันสะอีก”
“อย่างคนที่ผมบอกชื่อไปเนี่ย จริงๆ ผมเข้าใจนะ ทุกคนที่มาปลอบผมว่ามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด อันนั้นรู้แล้ว ผมรู้ว่าผมจะอยู่บนโลกใบนี้ยังไง ผมโดนมาตลอดอยู่แล้ว ผมก็ไม่เคยลงนะว่ามาว่าผมทำไมนั่นนี่ เพราะผมรู้ว่าผมควรจะอยู่แบบไหน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนมีจุดใช้คำว่าช่างมันไม่ได้ ผมอยากจะเจอ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะนักเลงใส่หรือจะว่าอะไรเขา ผมแค่อยากจะทำให้ทุกๆ คนเห็นว่าอยากเห็นหน้าเขา ผมอยากออกสื่อให้รู้ว่าจิตใจผมเป็นอย่างนี้ จิตใจของพี่เป็นอย่างนี้ผมเข้าใจ”
“พี่มีสิทธิ์ว่าผมเข้าใจ ผมเข้าใจว่าเขาไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรในชีวิตครอบครัวผม แต่มีเหรอที่ชอบให้ใครมาด่าพ่อคุณน่ะ ไม่มีหรอก ผมแค่สะอึก จะให้ผมไม่สนใจไม่ได้ มันฝังอยู่ในหัว อยากจะเจอจริงๆ อยากเจอมากๆ ผมอยากเห็นหน้าเขา เพราะผมอยากจะรู้ว่าเวลาคุณพิมพ์กับเวลาที่คุณเจอหน้า ถ้าคุณคนจริงคุณต้องกล้าที่จะพูดออกมาเลย ซึ่งผมคนจริง ผมกล้าที่จะเดินเข้าไปหา ผมไม่ชอบคุณเลย แต่ผมก็เข้าใจนะว่าทุกคนมีสิทธิ แต่ผมก็มีความรู้สึกเหมือนกัน”
ยังไม่ได้ติดต่ออีกฝ่าย เมียเตือนสติให้ใจเย็นๆ
“ยังไม่ได้ทำ แต่ผมยังยืนยันว่าผมอยากจะเจอ ที่ผมลงไปว่าให้พี่ๆ นักข่าวคนไหนก็ได้หาพี่คนนี้มาออกรายการกับผมที ผมอยากรู้ทัศนคติของเขา บางคนก็บอกว่าพอเขาพลาดก็ไปแคปว่าเขา ลองมาเป็นผมบ้างสิ ผมไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้วนะ แต่คนเรามันมีจุดนะ ผมพร้อมเลยนะ ไม่ใช่ว่าผมจะย่ำยีเขา แต่ผมแค่อยากรู้ว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไม พ่อผมแก่ 83 แล้ว พี่อายุเท่าไหร่ ซึ่งถ้าผมไม่ชอบผมจะไม่พิมพ์ด้วยซ้ำ แต่พี่กล้าทำ แต่ตื่นเช้ามาผมก็ลบไปแล้วล่ะ ตอนนี้ผมก็ช่างมัน เมียก็บอกว่าแจ๊สช่างมันเถอะ ผมก็พยายามช่างมันเถอะมาตลอดนะ ไม่เคยมามีปัญหาเรื่องพวกนี้เลย”
บอกถ้าหากพ่ออยากมีเกียรติคงรับรางวัลไปแล้ว
“เขาก็ยืนยันมาแบบนี้อยู่แล้ว จริงๆ จะรับก็ได้ ถ้าพ่อผมอยากมีเกียรติยศ พ่อผมรับไว้ก็ได้ แต่เขารู้เขาเองว่าเขาเป็นอย่างนี้ มันก็ไม่ผิด แต่ที่พี่คนนั้นพิมพ์ไปมันก็ไม่ผิดหรอก แต่มันมาตรงจุดผม ผมก็ลืมแล้วล่ะ ไม่อยากจะอะไรแล้ว มันมีทั้งดีและเสียนะผมรู้ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเสียนะ มันมีคำว่าอย่าไปแลก ทำไปไม่ได้อะไร ช่างมันเถอะ อันนี้รู้หมด แต่ทำไมต้องทำล่ะ พ่อไม่ได้สั่งให้ลบหรอก พ่อผมไม่รู้เรื่องเลย เพราะพ่อผมไม่ได้มาเล่นโซเชียลอะไรอยู่แล้ว สุดท้ายก็นั่งคุยกับเมียนี่แหละ”
ไม่ได้อยากให้ขอโทษ แค่อยากรู้โกรธอะไรตน
“ผมไม่ได้อยากให้เขามาขอโทษผม เพราะเขาไม่ได้ผิดอะไรที่ทำอย่างนั้น แต่ผมอยากรู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับพ่อผมถึงได้ด่าพ่อผมถึงขนาดนั้น พี่ใช้โลกโซเชียลแบบนี้ใช่มั้ย แค่นั้นเองใช่มั้ย ก็มีแต่คนบอกให้ไปแจ้งพรบ. เลย แต่ผมไม่อยากจะไปอะไรเขา แค่อยากจะคุย อยากเห็นหน้าแล้วจะคุย อยากสัมภาษณ์ พี่โกรธอะไรผมเหรอ ผมเล่นแล้วไม่ขำเหรอ ผมรู้ตัวเองนะ ผมเป็นคนเล่นตลกยังไงผมรู้อยู่ ผมแค่อยากจะถาม ผมไม่ได้อยากได้อะไรจากเขา ผมแค่อยากจะทำให้ทุกคนเห็น อยากเตือนสติว่าถ้าเขาทำกับพ่อคุณล่ะ”
“บางคนอาจจะบอกว่าไม่เห็นจะร้ายแรงเลยเรื่องแค่นี้ แต่มันไม่ใช่แค่นี้กับทุกคนนะ ผมไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการบันเทิงที่จะกลัวว่าทำอะไรแล้วจะเสียภาษลักษณ์ สิ่งนั้นมันก็มี แต่บางอย่างมันคือความจริงที่ผมรู้สึก ผมเป็นคนไม่อะไรอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้สึก แต่ตอนนี้ไม่อะไรแล้วล่ะ”
“เขาก็ไมได้ติดต่อหรอคกรับ ผมรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่จริง ถ้าจริงก็มาคุยกันเลย ปั๊ดโธ่ สนุกกว่าเยอะ ไปพิมพ์อย่างนั้นไม่สนุกหรอก มาคุยเลย โซเชียลไม่ใช่กระโถนนะ แค่สนุกมือเหรอ ถ้าเจอผมระงับอารมณ์ได้ครับ เขาน่ะได้เหรอเปล่า แต่ตอนนี้ผมไม่อยากแล้วนะ ผมอาจจะผิดในสายตาพี่ด้วยก็ได้ ผมก็ขอโทษพี่”
ยอมรับเสียเปรียบเป็นคนสาธารณะ ด่าผมได้ไม่โกรธ แต่อย่าด่าพ่อผม
“มีส่วนนะ ผมแค่ยกประเด็นเรื่องนี้แล้วกัน เรื่องพ่อผมเรื่องเดียว ด่าผมด่าไปเถอะ ผมไม่โกรธหรอก มันไม่ได้มีส่วนอะไรกับชีวิตผมเลย แต่อยู่ๆ ใครเดินมาด่าพ่อนี่โกรธมั้ยล่ะ ใครไม่โกรธบ้างผมถามหน่อย เอาเป็นว่าผมผิดเองก็ได้ ผมขอโทษพี่แล้วกัน ผมคงไม่ไปตีเขา ถ้าผมไม่ได้อยู่วงการบันเทิงสิผมเอาแน่ ผมพูดแมนๆ นะ แต่ผมอยู่อย่างนี้ไง ก็ได้เท่านี้ อยากคุยเท่านั้นแหละ”
ซื้อนาฬิกาให้ภรรยาหลักล้าน ดีใจเห็นรอยยิ้มเมีย ไม่หวั่นใครด่าฟุ่มเฟือย เป็นรางวัลเมียที่ช่วยดูแลคนไม่เอาถ่าน
“ผมพยายามจะบอกเมียเสมออยู่แล้วว่าจะไปซื้ออะไรก็ซื้อเถอะ บอกตรงๆ ว่าให้ชีวิตไปแล้ว เงินทุกอย่างไม่ได้อยากได้แล้ว แค่ซื้อเสื้อผ้าไปวันๆ มีความสุขแล้ว เมียกับลูกอยากไปทำอะไรไปเลย เงินเท่าไหร่ หมดเท่าไหร่ไปเลย เพราะสิ่งที่เขาควรได้กับการที่เขาดูแลคนๆ หนึ่งที่มันมีแรงทำงานแต่ไม่ได้เอาถ่านคนนี้ เขาสมควรที่จะได้ ผมไม่กลัวว่าใครจะว่าผมว่าฟุ่มเฟือย แต่สุดท้ายผมรู้ว่าเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“ไม่ได้อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศ ผมก็แค่ถามพี่ๆ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าเมียผมชอบนาฬิกา ชอบมากๆ เพราะว่ามันขายได้ เพราะเขาใช้อย่างนี้มาตลอด ซื้อมาใส่แล้วก็ขายเอาเรือนใหม่ ราคาขึ้นก็เอาไปขาย เราก็เลยเข้าใจเขา จริงๆ เราก็อยากไปถาม โทร.ไปถามร้านกระเป๋าว่าแจงได้มาถามอะไรมั้ย ซึ่งมันด่าผมมาตลอดว่าผมไม่เคยทำอะไรให้มันเลย หลังๆ เราก็เริ่มปัดว่าจะไปซื้ออะไรก็ไปซื้อสิ คือบางอย่างเขาก็อยากได้แบบเซอร์ไพรส์ ก็หาไว้ 2 ปี ซึ่งจะให้เซอร์ไพรส์ยังไงคือตังค์อยู่กับมันหมด เอทีเอ็มติดตัวมีแค่ 6-7 พันจะไปซื้ออะไรได้ ก็เลยโทร.หาร้านนาฬิกา แล้วก็โทร.สั่งให้น้องไปทำโน่นทำนี่เลย พอถึงเวลาจริงๆ การทำแบบนั้นมันไม่ใช่เรา แต่เราก็ดีใจนะ ที่ได้เห็นรอยยิ้มของเมีย ความสุขของเขา ผมไม่ซีเรียสหรอก ผมให้ไปเขาอยากจะไปซื้ออะไรผมไม่ว่าอยู่แล้ว ต่อไปก็จะทำแล้วกัน แต่คงไม่ทำบ่อยๆ เดี๋ยวจะรู้ทาง”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)