ถูกหยามก่อน “ป๋อ” เปิดศึกไฝว้ “บอย ปกรณ์” นุ่งจีสตริง! “เอ๋” เคลียร์กอดคอ “เป้ย” ร้องไห้

“ป๋อ ณัฐวุฒิ” โพสต์ภาพเสือดำทุกวันปลุกจิตสำนึก เสือดำตายแล้วแต่จิตวิญญาณรักป่าต้องไม่ตาย เปิดศึกไฝว้ “บอย ปกรณ์” ลั่นถูกหยามก่อน ปีหน้าอีกฝ่ายต้องใส่จีสตริงในงานบอลช่อง 3 ด้าน “เอ๋ พรทิพย์” ยันร่วมธุรกิจ “เป้ย ปานวาด” ไร้ปัญหา เคลียร์ภาพกอดคอร้องไห้ แค่ระบายความอึดอัด ปรับความเข้าใจกัน

ควงแขนมาออกงานคู่กัน สำหรับสามีภรรยา “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” และ “เอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ” โดยทั้งคู่เผยกลางงานแถลงข่าว เปิดโครงการ Family Fun in Amazing Thailand 2018 ณ ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ งานนี้หนุ่มป๋อเลยขอชี้แจงกรณีโพสต์ภาพเสือดำลงอินสตาแกรมทุกวัน ยันไม่มีเจตนาพาดพิงใคร

“เสือดำเป็นสัตว์ที่เวลาเราดูสารคดีนี่ไม่ค่อยมีหรอกครับ ในสวนสัตว์ก็น้อย ไม่ค่อยมีเสือดำให้เราเห็นนะ เพราะคำว่าสัตว์หายากมันคงหายากจริงๆ และลูกมักจะถามว่าพ่อมันมีเสือดำด้วยเหรอ เขาบอกเห็นมีแต่เสือดาว ผมไม่ค่อยสนใจในเรื่องว่าใครจะทำอะไรนะ และในกระบวนการกฎหมายมันจะสรุปที่ยังไง ผมไม่ได้สนใจตรงนั้น”

“แต่ผมสนใจว่าทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ลืมเรื่องนี้ เราไม่ลืมเรื่องเสือดำ เราแค่อยากปลูกจิตสำนึกให้คนไทยหันกลับมาอนุรักษ์สัตว์ป่า สิ่งแวดล้อมรักสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่อยู่ด้วยกัน ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งของประเทศเราได้นะครับ เราไม่ต้องไปสนใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะ เราไม่ต้องสนใจด้วยว่าจะได้รับอะไร หรือไม่ได้รับอะไร ผมว่าข้ามเรื่องนั้นไปเถอะ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นในใจของคนไทยทุกคนแน่นอนที่สุดภาพเสือดำมันลอยอยู่ ผมว่าเสือดำเป็นตัวแทนของสัตว์ป่าทุกๆ ตัว เราเคยร้องเพลงชีวิตสัมพันธ์สมัยก่อน มันเหมือนจะจางหายไป แต่ตอนนี้เหมือนปลุกจิตวิญญาณของเราให้กลับมารักสิ่งแวดล้อม รักต้นไม้ รักป่ามากขึ้น อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผมอยากจะทำ”

ไม่หวั่นผลกระทบเพราะไม่มีเจตนาว่าใคร ไม่สนว่าใครจะได้หรือไม่ได้อะไร เพราะเสือก็ตายไปแล้ว สิ่งดีๆ คือทำให้คนไทยมีจิตสำนึกรักสัตว์ป่ามากขึ้น
“ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยนะครับ ผมไม่เคยคอมเมนต์อะไรเลย ผมไม่ได้วิจารณ์อะไรด้วย ผมไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะได้อะไรหรือไม่ได้อะไร ผมว่ามันผ่านไปแล้ว เสือดำตัวนั้นมันตายไปแล้วครับ ไม่ต้องมายื้ออะไรอีกต่อไป แต่ผมว่าสิ่งดีๆ ก็คือมันมีจิตสำนึกของคนไทยที่กลับมารักสัตว์มากขึ้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วยนะ ผมเห็นมีคนหันมาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เยอะแยะไปหมดเลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ซึ่งถ้าถามว่าจะกระทบอะไรมั้ย ผมไม่ได้ทำอะไรนี่ ผมลงรูปเสือดำอย่างเดียว แทบไม่ได้เขียนข้อความอะไรเลยด้วยซ้ำ”

ไม่สนใจเรื่องเอาคนที่ฆ่าเสือดำมาลงโทษ กราบเรียนตรงๆ ไม่ได้สนใจ
“ก็ขออย่างเดียวว่าอย่าไปตีความในเรื่องความรุนแรง ในเรื่องของการเอาคนที่ฆ่าเสือดำมาลงโทษให้ได้ กราบเรียนตรงๆ เลยว่าผมไม่ได้สนใจจริงๆ นะครับ ผมข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว มันตายไปแล้วครับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจมากกว่าว่าจะทำให้ผมสอนลูกผมว่าสัตว์ทุกตัวมีคุณค่า สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตเขาก็รักชีวิตของเขาเหมือนกัน อย่าไปฆ่าเขาอย่าไปทำร้ายเขาเท่านั้นเอง”

บอก “บอย ปกรณ์” ดูถูกเหยียดหยามเรื่องเตะบอล แถมท้าก่อน ลั่นจะทำให้อับอาย ปีหน้าสนุกแน่ อีกฝ่ายต้องใส่จีสตริงแน่นอน
“บอยเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นครับ (ยิ้ม) ผมต้องกราบเรียนแฟนๆ พี่บอยทุกท่านเลยนะครับว่าพี่บอยมาท้าผมก่อนจริงๆ ถ้าใครติดตามในคลิปที่ผมนั่งแต่งหน้าอยู่ แล้วพี่บอยเขาเดินมาท้าเลย ชี้หน้าเลยครับ บอกว่าถ้าปีนี้เตะจุดโทษไม่เข้าพี่จะทำอะไรครับ ก็มีการท้าทายกันไปครับ เลยต้องมีการเดิมพันกันสูงหน่อยครับ ถอดกางเกง บอยถึงขั้นไปใส่บ๊อกเซอร์เพิ่ม”

“ผมก็ต้องเตรียมกางเกงรัดกล้ามเนื้อเพิ่ม เพราะมันเริ่มหวิวๆ เราอาจจะพลาดได้ เพราะว่าบอยเขาดูถูกผมมาตั้งแต่ตอนซ้อมแล้ว เพราะ 7 ลูกผมเตะไม่เข้าเลย 6 ลูก บอยหัวเราะดังมาก แล้วเหยียดหยามผมมาตลอดการซ้อม ผมเลยเล็งสามเหลี่ยมเลย เพื่อให้บอยอับอายถึงที่สุดครับ เสียดายดึงได้นิดเดียวเอง เดี๋ยวปีหน้าบอยบอกว่าจะใส่จีสตริงครับ หวังว่าแฟนๆ ทุกคนจะไม่ลืมและช่วยเตือนบอยด้วย งานบอลปีหน้าสนุกแน่นอน เพราะทีมผมทั้งทีมอาจจะชักชวนกันใส่จีสตริงทั้งทีมเลย เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินของแฟนๆ”

รำลึกถึง “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” เพราะคิดถึง ยังนึกถึงและอยู่ในใจเสมอ บอกแฟนคลับยังจุก ไม่เคยลืมปอ
“คิดถึงปอจริงๆ ครับ คิดถึงน้อง เพราะงานบอลทุกปีเราก็จะมีความสุข เห็นนักแสดงทุกๆ คนอยู่ด้วยกัน และด้วยความที่เราเป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลด้วย เราก็เห็นน้องๆ ทุกคน อยู่ๆ ก็นึกถึงปอขึ้นมา เราก็อยากให้รำลึกถึงปอนิดหนึ่งก็เท่านั้นเอง ก็อยากจะบอกว่าเรายังนึกถึงปออยู่ในใจเสมอ วันนั้นที่โพสต์ลงอินสตารแกรมไปคอมเมนต์เยอะมากนะครับ ทุกคนบอกว่าดูแล้วก็จุกกันหมดเลย แต่เราไม่ได้ลืมนะครับปอ”

“เอ๋ พรทิพย์” เปิดใจภาพกอดคอ “เป้ย ปานวาด” และหุ้นส่วนร้องไห้ บอกแต่ละคนระบายความอึดอัดในใจ ปรับความเข้าใจกัน เรื่องเงินไม่สำคัญ
“ตอนนี้ก็เป็นไปด้วยดีนะคะ แล้วก็มีออกสินค้าตัวใหม่อย่างกันแดดที่น้องคิมเบอร์ลี่ (คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ) เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลตอบรับก็ดีมากด้วยค่ะ”

“เรื่องภาพที่กอดกันร้องไห้ คือจะบอกว่าทุกครั้งที่เราประชุมกัน เราจะเอาหุ้นส่วนมานั่งคุยกัน ใครมีอะไรติดค้างในใจ เพราะการที่เราทำธุรกิจมันก็เสี่ยงกับการที่ต้องทะเลาะกันหรือไม่เข้าใจหรือไม่เคลียร์ใจกัน ก็อยากจะให้ทุกคนพูด พอทุกคนพูดปุ๊บเราก็รู้สึกโล่ง เพราะบางทีเราคิดว่าเราคิดแบบนี้ เขาจะคิดอีกแบบหนึ่งหรือเขาจะคิดแบบเดียวกับเราหรือเปล่า เราก็ต้องปรับความเข้าใจให้มันตรงกัน แต่ไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ”

“วันนั้นหุ้นส่วนทุกคนก็ร้องกันหมด เพราะมันเป็นความอึดอัดของแต่ละคนที่มันอยู่ในใจ หุ้นส่วนก็กลัวว่าจะให้เราทำอะไรเยอะเกินไป เขาก็กลัวว่าเดี๋ยวเราจะรู้สึกไม่ดีกับเขา อย่างเอ๋กับเป้ยคือพูดกันน้อยเกินไป ก็มาเคลียร์และปรับความเข้าใจกัน บวกกับตอนนี้เป้ยท้องด้วย พอท้องก็จะเซนซิทีฟ แต่ก็ดีนะ พอพูดไปก็เคลียร์เลย ก็บอกว่าถ้ามีอะไรอย่าเก็บ ให้พูดกันเลย ให้เข้าใจกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ ถ้ามีก็คงเดินหน้าต่อไม่ได้”

“แต่นี่คือสิ่งที่เราคิดกันว่าต้องพูดและต้องเคลียร์ทุกครั้ง แต่ก่อนจะทำธุรกิจเรากลัวอยู่แล้วล่ะว่าจะมีปัญหากับเพื่อนหรือเปล่า พูดเลยว่าต้องมีแน่ๆ เพราะขนาดพี่น้องหรือคนในครอบครัวทำงานด้วยกันก็ยังมีปัญหา เราก็รู้สึกว่ามีอะไรต้องพูด ต้องมีเส้นกลางระหว่างเพื่อนและระหว่างผู้ร่วมงาน ทุกคนจะต้องมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน และต้องมีความเข้าใจทุกๆ คนด้วย พอเรามาเคลียร์กันแบบนี้เราจะได้เดินหน้ากันต่อไปโดยที่ไม่มีอะไรมาตะขิดตะขวงใจ”

“เรื่องเงินไม่เกี่ยวเลย เพราะเราทำงานเป็นรูปแบบบริษัทที่ทุกคนสามารถเช็กได้หมด เรื่องเงินไม่เป็นปัญหาสำหรับบริษัทเราเลย แต่ปัญหาที่เกิดมันก็ไม่ใช่ปัญหาความคิดนะคะ จริงๆ มันเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้พูดออกมา เอ๋ว่าทุกบริษัทมีปัญหาหมดแหละ เรามองว่าบริษัทอื่นถ้าเขามีปัญหาแล้วเขาไม่เคลียร์กันอันนี้น่ากลัว แต่สำหรับเราพูดเลยว่าเราเคลียร์ทุกเรื่อง เราก็เลยเดินหน้าต่อไปได้ ก็อาจจะมี 3-4 เดือนมาคุยกันเรื่องฟีดแบ็กต่างๆ กระแสต่างๆ ว่าผลตอบรับเป็นยังไง คือคุยกันทุกเรื่องทุกแผนก”

เข้าใจเป้ยกำลังท้อง ออกรายการและช่วยทำในสิ่งที่ทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้
“ก็จะเข้าใจกันค่ะ อย่างตอนที่เอ๋ท้อง เราแพ้ท้อง เราเหนื่อย หรือเราออกงานไม่ได้ เป้ยก็จะช่วยทำในสิ่งที่เราทำไม่ได้ อย่างตอนนี้เป้ยแพ้ท้อง ออกงานไม่ได้ ไปออกรายการไม่ได้ก็จะเป็นหน้าที่เรา ก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ อันไหนที่เราทำได้เราก็ทำ อันไหนที่เป้ยไหวเป้ยทำ”