The Shape of Water คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองแบบชื่นมื่น พร้อมรางวัลต่าง ๆ อีกรวม 4 สาขา ส่วนนักแสดงนำชาย - หญิงตกเป็นของ “แกร์รี โอลด์แมน” และ “ฟรานเชส แม็คเดอร์มาน” ตามคาด
กีแลร์โม เดลโทโร ถึงกับต้องเช็คซองผลรางวัลจาก วอร์เรน บีต์ตี กับ เฟย์ ดันนาเวย์ ที่กลับมาทำหน้าที่ประกาศชื่อหนังยอดเยี่ยมอีกครั้งให้เรียบร้อย ก่อนที่จะแสดงความยินดีที่หนัง The Shape of Water ของเขาถูกประกาศชื่อให้เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ในปีนี้ เพราะปีก่อนเกิดเรื่องผิดพลาดจนเป็นข่าวทั่วโลกมาแล้ว ส่วนรางวัลสาขานักแสดงนำตกเป็นของ แกร์รี โอลด์แมน จาก Darkest Hour และ ฟรานเชส แม็คเดอร์มาน จาก Three Billboards Outside Ebbing, Missouri
รวมแล้ว The Shape of Water ได้รางวัลไป 4 สาขา ส่วน Dunkirk ได้รางวัล 3 สาขา และ Blade Runner 2049, Coco, Darkest Hour และ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri
ออสการ์ ครั้งที่ 90 ถูกจับตามองเป็นพิเศษจากหลาย ๆ เหตุผล ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดของการมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน จน จิมมี คิมเมลล์ พิธีกรปีก่อนที่กลับมาทำหน้าที่อีกครั้งในปีนี้ ก็ยังพูดแซวถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์แห่งความผิดพลาดเมื่อปีก่อนแทบจะตลอดทั้งงาน
ออสการ์หลังมรสุมประเด็นล่วงละเมิดทางเพศ
แต่สิ่งที่ทำให้ออสการ์ครั้งนี้มีบรรยากาศแตกต่างจากทุกครั้งก็คือ ออสการ์ครั้งที่ 90 เป็นงานใหญ่ของสถาบันศิลปะ และวิทยาการภาพยนตร์ฯ งานแรก หลังฮอลลีวูดต้องผ่านมรสุมเกี่ยวกับปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ และความไม่เท่าเทียมทางเพศต่อนักแสดงหญิง ที่ทำให้คนบันเทิงจำนวนมากตกเป็นผู้ต้องหาว่าเคยมีพฤติกรรมเสื่อมทราม จนคนดังระดับที่เคยคว้าออสการ์มาแล้วอย่าง เควิน สเปซี รวมถึง “ราชาแห่งรางวัลออสการ์” อย่างผู้อำนวยการสร้าง ฮาร์วี ไวน์สตีน แทบไม่มีที่ยืนในวงการ และคงไม่สามารถมาร่วมงานมอบรางวัลออสการ์ได้อีกพักใหญ่ ๆ
ขณะที่ เคซีย์ แอฟเฟล็ก เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายเมื่อปีก่อน ก็ตัดสินใจที่จะไม่มามอบรางวัลให้กับนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้ตามธรรมเนียม เพราะเขาเองก็ถูกกล่าวหาเรื่องพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเช่นเดียวกัน
“เราจะปล่อยให้พฤติกรรมเลว ๆ หลุดรอดไม่ได้อีกแล้ว โลกกำลังจับตามองเราอยู่” คิมเมลล์ กล่าว ในช่วงเปิดงานถึงประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ นอกจากนั้นเขายังกล่าวถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างผู้หญิง และผู้ชายในฮอลลียูดด้วยว่า “ผมยังจำได้ดีว่าเมื่อก่อนสตูดิโอไม่เคยเชื่อว่าผู้หญิง หรือคนผิวสี จะเป็นดารานำในหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ ที่จำได้ดีก็เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นอยู่จนถึงเมื่อ มี.ค. ปีก่อนนี่เอง”
ออสการ์ตัวแรกในชีวิตของหลาย ๆ คน
ไฮไลต์หนึ่งของออสการ์ 2018 ก็คงจะเป็นการคว้ารางวัลของ แกร์รี โอลด์แมน ที่แทบไม่น่าเชื่อว่าเคยชิงออสการ์มาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และได้รับรางวัลไปครองในปีนี้ จากการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอกไปจนแทบจำไม่ได้ในการสวมบทบาทเป็น วิลสตัน เชอร์ชิล ใน Darkest Hour
ขณะที่ แซม ร็อคเวลล์ ซึ่งกวาดรางวัลสมทบชายจากแทบจะทุกสถาบัน ก็ได้ออสการ์ตัวแรกจากการชิงครั้งแรกไปครอง ในบทบาทการแสดงในหนังเสียดสีสังคม Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ขณะที่ อัลลิสัน เจนนีย์ ที่เป็นตัวเต็งก็คว้ารางวัลสาขาสมทบหญิงจาก I, Tonya ได้เช่นเดียวกัน โดยทั้งคู่ยังคว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกจากการชิงรางวัลครั้งแรกเหมือนกันด้วย
ออสการ์ปีนี้ยังมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นเมื่อ เจมส์ ไอเวอร์รี สามารถคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมจาก Call Me by Your Name ด้วยวัย 89 ปี ซึ่งเป็นออสการ์ตัวแรกในชีวิตของเขาด้วย เช่นเดียวกับ โรเจอร์ ดีกินส์ ผู้กำกับภาพระดับตำนานที่ได้รับรางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมจาก Blade Runner 2047 หลังเคยชิงรางวัล และพลาดหวังมาแล้วถึง 13 ครั้งติดต่อกัน
นักบาสเกตบอลชื่อดังเจ้าของแชมป์ NBA 5 สมัย โคบี ไบรอัน คว้าเพิ่มเกียรติยศอีกด้านให้กับตัวเอง ด้วยการคว้าออสการ์จากอนิเมชันขนาดสั้น Dear Basketball ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในฐานะนักบาสเกตบอลของเขาเอง ไบรอัน ยังกล่าวบนเวทีว่า รางวัลนี้คงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักบาสฯ อย่างเขา “ทำได้มากกว่าเลี้ยงบอล” เพราะก่อนหน้านี้ มีนักวิจารณ์การเมืองแห่ง Fox News ที่บอกว่า นักบาสฯ ควรจะหยุดพูดเรื่องการเมืองที่ตัวเองไม่ได้เข้าใจ และหาเงินกับการ “เลี้ยงลูกบอล” ไปอย่างเดียวก็พอ
ยุคทองของผู้กำกับเม็กซิโก-ปีประวัติศาสตร์ของคนทำหนังผิวสี
ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมเป็นคราวของ กีแลร์โม เดล โทโร ที่คว้ารางวัลไปได้ตามคาดจาก The Shape of Water และทำให้ใน 5 ปีที่ผ่านมา รางวัลใหญ่สาขานี้ตกเป็นของผู้กำกับชาวเม็กซิกันถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่ อัลฟองโซ คัวรอง ในปี 2013 และ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาริตู 2 ครั้งในปี 2014-2015 จึงนับว่าเป็นปีทองของคนทำหนังชาวเม็กซิกันอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น ออสการ์ครั้งที่ 90 ก็ยังเป็นปีประวัติศาสตร์ของคนทำหนังผิวสีเช่นเดียวกัน เมื่อ จอร์แดน พีล อดีตนักแสดงตลกชื่อดัง สามารถคว้าออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้จาก Get Out งานที่เขาทั้งกำกับ, อำนวยการสร้าง และเขียนบทด้วยตัวเอง ซึ่งนับว่าพีล ยังเป็นคนผิวสีคนแรกที่คว้ารางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองได้
สรุปผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 90
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม : The Shape of Water
ผู้กำกับ : กีแลร์โม เดลโทโร / The Shape of Water
นักแสดงนำชาย : แกร์รี โอลด์แมน
นักแสดงนำหญิง : ฟรานเชส แม็คเดอร์มาน / Three Billboards Outside Ebbing, Missouri
นักแสดงสมทบชาย : แซม ร็อคเวลล์ / Three Billboards Outside Ebbing, Missouri
นักแสดงสมทบหญิง : อัลลิสัน เจนนีย์ / I, Tonya
บทภาพยนตร์ดั้งเดิม : Get Out
บทภาพยนตร์ดัดแปลง : Call Me by Your Name
ภาพยนตร์สั้น : The Silent Child
สารคดีขนาดนั้น : Heaven is a Traffic Jam on the 405
เทคนิคพิเศษทางภาพ : Blade Runner 2049
กำกับภาพ : Blade Runner 2049
ภาพยนตร์อนิเมชั่น : Coco
อนิเมชั่นขนาดสั้น : Dear Basketball
หนังภาษาต่างประเทศ : A Fantastic Woman (ชิลี)
ออกแบบงานสร้าง : The Shape of Water
ผสมเสียงเสียง : Dunkirk
ตัดต่อเสียง : Dunkirk
แต่งหน้า และทำผม : Darkest Hour
ออกแบบเครื่องแต่งกาย : Phantom Thread
ภาพยนตร์สารคดี : Icarus
หลังพลาดมา 13 ครั้ง “โรเจอร์ ดีกินส์” คว้าออสการ์ได้เป็นครั้งแรกจาก
ผู้กำกับ - นักเขียน “เจมส์ ไอเวอร์รี” คว้าออสการ์ครั้งแรกในชีวิตด้วยวัย 89 ปี นับเป็นผู้ชนะรางวัลออสการ์ที่อายุมากที่สุดที่เคยมีมา
“นิโคล คิดแมน” ร่วมประกาศรางวัล
สองนักทำหนังสั้น The Silent Child ที่ว่าด้วยเด็กที่ไม่สามารถพูดได้ ขอบคุณทั้งเป็นคำพูด และเป็นภาษามือ
จิมมี คิมเมลล์ ทำเก๋ชวนดาราในงานออสการ์ไปเซอร์ไพรซ์คนดูในโรงหนังใกล้ๆ
ทีมจาก A Fantastic Woman หนังของประเทศชิลีซึ่งเล่าเรื่องของหญิงข้ามเพศ ที่เอาชนะตัวเต็ง The Square จนคว้ารางวัลหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมมาได้
นักบาสเก็ตบอลชื่อดัง โคบี ไบรอัน คว้าออสการ์
“อัลลิสัน เจนนีย์” นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก I, Tonya
“ริต้า มอเรโน” เจ้าของออสการ์สมทบหญิงจาก Westside Story เมื่อ 57 ปี ก่อนร่วมประกาศรางวัล
“เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์” นักแสดงดาวเด่นอีกคนในยุคนี้ ที่มาร่วมงานออสการ์ด้วย
“จิมมี คิมเมล” กลับมาทำหน้าที่พิธีกรเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
“อาร์มี แฮมเมอร์” และ “เกล กาด็อท” ขึ้นมาประกาศรางวัล