“แต๊งค์ พงศกร” ยอมรับเดือด ถูกแฟนเก่าทวงหนี้ผ่านสื่อ ปฏิเสธหนีหนี้ ลั่นตอนคบกันก็ใช้ร่วมกัน ตอนเลิกสัญญาจะคืน โอดไม่รับโทรศัพท์ 2 วันก็เป็นเรื่อง สารภาพตรงๆ ไม่พร้อมจ่ายเงินก้อน อ้างมีปัจจัยซับซ้อน ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่ กลัวเข้าบ้านไม่ได้ พ้องานก็พลาด รักก็มีปัญหา เจอชีวิตขาลง เป็นสิ่งที่กระทบจิตใจแต่ไม่ได้เลวร้าย
ตอนแรกที่ความรักกับแฟนเก่าจบไป “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” ก็ยังดูอาลัยอาวรณ์อยู่ไม่น้อย แต่พอเจอกระแสดรามา หลังจากที่ฝ่ายหญิงโผล่ออกมาทวงเงินกลางไอจี ก่อนแฉฉกบัตรกดเงินสดไปใช้แถมไม่คืน ซึ่งหนุ่มแต๊งค์ก็โต้กลับเผ็ดร้อน ล่าสุดเจ้าตัวขอเคลียร์ประเด็นดังกล่าวระหว่างมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว the launch of laufenn tire thailand ณ ห้อง river side 4 โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน ยันไม่ได้รับโทรศัพท์ 2 วันก็เป็นเรื่อง ออกตัวเป็นเงินที่แชร์ร่วมกันตอนคบ
“ก่อนหน้านี้มีคนบอกเราว่าอย่าเพิ่งไปเสพสื่อนะ เพราะเดี๋ยวเราจะคิดมากหรือว่านอยด์ แต่ก็มีคนส่งมาให้ด้วยเกือบ 70 กว่าคน แต่เรื่องนี้มันมีที่มาและที่ไป มันเกิดจากการที่ผมไม่ได้รับสายเขาเป็นเวลาติดต่อกัน 2 วัน และคนเคยคบกันเนอะ อาจจะมีเหวี่ยงใส่กันเล็กน้อย อาจจะมีอารมณ์ ซึ่งปัญหาเรื่องเงินนี้ผ่านการเจรจา การพูดคุยกันมาตลอด ตั้งแต่สมัยที่คบกันอยู่ และพอเราแยกทางกันมาได้ 7 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้คบกันมา 4 ปีคือค่อนข้างที่จะจริงจังเพราะด้วยอายุแล้ว มีการตกลงกันหลายเรื่อง มีการลงทุนร่วมกัน มีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อาจจะไม่ถึงกับว่าใช้กระเป๋าเดียวกัน แต่บางอย่างก็แชร์กัน”
หลังเลิกต้องทำข้อตกลงกันใหม่ เปิดใจเป็นเงินที่ใช้ร่วมกันตอนคบ และสัญญาจะคืน
“เราก็ได้พูดคุย ลงทุนด้วยกัน มีธุรกิจพัวพันกัน และด้วยความที่เราเป็นผู้ชาย เราก็พูดออกจากปากเองว่าเราจะรับผิดชอบในส่วนตรงนี้ที่เกิดขึ้นเอง มันก็เลยติดพันกันมาถึงวันนี้ ในส่วนของความจริงนั้นมันก็มี แต่ในเรื่องของอารมณ์ที่สาดใส่กันแรงไป มันก็มี พูดตรงๆ เลยว่าตอนนั้นเราสองคนใช้ร่วมกัน ซึ่งในส่วนที่ผมใช้ของเขาและสัญญาว่าจะคืน นั่นก็คือเราใช้ร่วมกัน”
“ในส่วนของตัวเงิน ไม่ขอพูดถึง อย่างที่เราได้โพสต์ไอจี ผมก็โพสต์เบาจะตาย (ยิ้ม) เราไม่ได้จะแข็งใส่เขา แต่จริงๆ มันเกิดขึ้นจากอารมณ์ของเราเอง รวมไปถึงช่วงนั้นเกิดปัญหาติดพัน และพอคนมันทวงมากๆ ซึ่งเราก็รับสายเขามาตลอด จากข้อตกลงเดิมที่เคยทำกันไว้ตอนคบกันมันใช้ไม่ได้แล้ว มันจึงเกิดข้อตกลงใหม่ขึ้นใหม่ เพราะเราแยกทางกันแล้ว ก็ต้องใจเย็นๆ จะมาเอาเดี๋ยวนั้นเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้”
“เรื่องนี้มันเคลียร์กันมาตั้งแต่แรกแล้วว่าผมจะชดใช้ยังไง แต่เพียงว่าผมแค่ไม่รับสายเขาแค่ 2 วัน เพราะก่อนที่เขาจะโพสต์เราก็ได้ตกลงแล้วว่าเราจะชดใช้ให้เขายังไง ไม่งั้นเขาไม่รอมานานถึงขนาดนี้หรอกครับ แต่ตกลงยังไงบ้าง มันเป็นเรื่องข้อตกลงส่วนตัวทั้งเรื่องการลงทุน การใช้เงินร่วมกัน ซึ่งบางทีมันอาจจะกระทบไปถึงตัวน้องเขา ครอบครัวเขา ผมขอไม่พูดถึงในรายละเอียดนะครับ”
ลั่นไม่พร้อมจ่ายเงินก้อน เพราะมีปัจจัยซับซ้อน ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน
“แต่ถามว่าผมจะรับผิดชอบมั้ย ในส่วนตัวของผม ผมรับผิดชอบในส่วนของผมแน่นอน (และการที่เขาโทร.มาก็เพราะมันถึงกำหนดเวลาที่ต้องจ่ายแล้ว?) มันเลยกำหนดมานานแล้ว เขาไม่ได้กำหนด แต่เพียงเขาถามมาเรื่อยๆ ซึ่งในส่วนตัวเราก็ยังไม่พร้อมที่จะจ่ายในก้อนนั้น และมันมีหลายปัจจัยซับซ้อน มันเป็นเรื่องของครอบครัวเข้ามาเกี่ยว เพราะผมกับแฟนเก่าพูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่พอมีอะไรหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวก็เลยต้องขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน”
“คือวันนี้คุยกันลงตัว เคลียร์กันแล้ว เราสองคนก็ต้องร่วมช่วยกันแก้ปัญหาไป เพราะปัญหามันเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 วันนั้นที่เขาโทร.ตามหาผมจริงๆ แต่ผมดันไม่รับสายเท่านั้นเอง เขาก็เลยโมโห และก็ได้เคลียร์กันแล้ว ซึ่งผมก็ไม่พอใจมากเลยว่าทำไมต้องเหวี่ยงขนาดนี้ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเป็นข่าวใหญ่โต ผมก็เกรงใจครอบครัวผมด้วย ผมก็คิดว่ามันก็แรงไป ทางตัวเขาเองก็ได้ขอโทษ แต่ก็ไม่อยากพูดในเรื่องของเขามาก เพราะเขาเองก็เป็นคนนอกวงการ ผมไม่ได้ต้องการที่จะให้ใครมาเข้าใจในเรื่องนี้ แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่กังวลกลัวผู้ใหญ่ทางฝ่ายเราจะคิดมากในความประพฤติและเรื่องความรับผิดชอบของเรา เพราะผมกับน้องก็จะต้องร่วมหาทางออกให้ดีที่สุด”
ยันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก โอดพลาดเรื่องธุรกิจ มีปัญหาเรื่องรัก ชีวิตขาลง
“คงไม่กล้าแล้วล่ะ คราวหน้าโทร.มาก็ต้องรับสาย เพราะผมก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้น เพราะลงทุนมาด้วยกัน และพลาดมาด้วยกัน บวกกับมีปัญหาเรื่องความรัก อีกอย่างเราเองก็ขาลง ซึ่งในส่วนเรื่องหนีหน้า ผมจะหนีทำไม บ้านเขากับบ้านผมห่างกันแค่ไม่กี่หลัง”
“ทางออกของเรื่องนี้ คือเป็นหนี้ก็ต้องใช้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ไม่ฟ้อง แต่ถ้าคุณถูกเขาทำร้ายมา คุณก็ไปฟ้อง แต่อันนี้เราไม่ได้โกรธกัน เพราะในเรื่องที่จะเอาเงินคืนเขา ทางผมมีพร้อมแล้ว แต่ต้องขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน”
“ถามว่าคุณพ่อคุณแม่ว่าไง มันค่อนข้างซับซ้อนนะครับ บางทีผมก็ไม่กล้าจะพูด เพราะอาจจะเข้าบ้านไม่ได้ คุณแม่ให้ไปคุยกันเองก็ตามนั้นแหละครับ ผมก็ทำตามที่คุณแม่บอก ถ้าเรียกว่าแฟนเก่า ความสัมพันธ์มันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิมหรอกครับ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเขาก็ขอโทษเรา”
เผยชีวิตขาลง เป็นความจริงที่กระทบจิตใจ แต่ไม่ได้เลวร้าย
“มันก็เรื่องจริง มันเป็นความจริงที่กระทบจิตใจเราอยู่แล้ว ใครมาพูดใส่หูเรา ซึ่งมันก็คงไม่มีอันเลวร้ายไปกว่านั้นแล้ว เรื่องขาลงมันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นว่าเราโดนคนอื่นรังแกหรือโดนมามรสุมชีวิต เพราะเราเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก มันก็ต้องมีช่วงเวลาที่เราต้องว่างงานบ้าง"
