xs
xsm
sm
md
lg

คุณป้า... 3 ป้ายสลายแค้น ทวงถามความยุติธรรม!! (รีวิวหนัง Three Billboards Outside Ebbing, Missouri)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


หลังจากเหตุการณ์สะท้านเมือง “ข่มขืนหญิงสาวจนตาย” ผ่านไปนานนับปี ก็ยังไม่มีทีท่าว่าทางการจะจับผู้ร้ายใด้ หรือมีความคืบหน้าใดๆ ผู้เป็นแม่ของเหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย จึงตัดสินใจเช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ 3 ป้าย ซึ่งติดตั้งข้างถนนนอกเมือง ส่งสาส์นท้าเจ้าหน้าที่ เรียกร้องความยุติธรรม และเพียงแค่วันเดียว ก็ทำให้ตำรวจเมืองเอ็บบี้ สะเทือนไปทั้ง สน.

... นั่นคือเรื่องราวโดยย่อของภาพยนตร์ที่ถือว่าเป็น 1 ใน 2 ตัวเต็งสุดท้ายบนเวทีออสการ์ในสาขาหนังยอดเยี่ยมซึ่งกำลังจะประกาศผลในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ที่ต้องบอกว่า รายละเอียดบางอย่างในหนัง ดูแล้วทำให้นึกถึงเมืองไทยบ้านเรายิ่งนัก อย่างกรณีล่าสุด เรื่องคุณป้าทุบรถกระบะ ก็มีจุดคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเล่นกับเรื่องของ “ป้าย” ที่ใช้ติดประกาศเพื่อบอกกล่าวเล่าความคับแค้นแน่นอกให้โลกได้รับรู้ ดูแล้วก็ชวนให้คิดถึงถ้อยคำคำหนึ่งที่ว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า แท้จริงแล้วก็คือความอยุติธรรมอีกแบบหนึ่ง”

“ฟรานเซส แมคดอร์มาน” รับบทเป็น “มิลด์เรด เฮย์ส” คุณป้าผู้สูญเสียลูกสาวในเหตุการณ์สะเทือนขวัญ “แองเจล่า” ลูกสาววัยรุ่นของเธอ ถูกฆาตกรรมด้วยการข่มขืนจนตายแล้วเผาร่างจนไหม้เป็นตอตะโก ความเจ็บปวดนั้นฝังแน่นอยู่ในหัวใจ ขณะที่วันเวลาผ่านไปวันแล้วคืนเล่า ก็ไม่มีเค้าว่าเจ้าหน้าที่จะสะสางคดีนี้หรือจับผู้ร้ายมาดำเนินการได้อย่างไร นั่นก็จึงเป็นที่มาของพล็อตเรื่องดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเอ็บบี้ การที่ประชาชนคนตัวเล็กๆ สักคน จะลุกขึ้นมาเรียกร้องอะไรๆ แบบอึกทึกครึกโครม ดูจะเป็นเรื่องแปลกประหลาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า การลงทุนจ่ายเงินเพื่อติดป้ายใหญ่โตขนาดนั้น ก็ดูเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดมีมาก่อน ถึงแม้ทางการจะปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร เพราะป้ายนั้นอยู่ในบริเวณนอกเมืองที่มีแต่คนหลงทางกับพวกขี้เมาเท่านั้นที่จะผ่านไปเห็น แต่พอสื่อท้องถิ่นเริ่มทำข่าว โด่งดังไปทั่วเมือง ก็ทำเอาเจ้าหน้าที่เต้นเร่าเป็นเจ้าเข้า ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มิลด์เรดต้องตกอยู่ในสภาพต้องรับศึกอีกด้าน จากการคุกคามและทำทุกวิถีทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งต้องการะจะให้เธอโละป้ายโฆษณาออก แต่มีหรือที่เธอจะยอม เพราะมันเป็นสิทธิที่เธอสามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย

เรียกว่าต้องคัดง้างกันอย่างหนัก แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ... ในฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีนักแสดงอย่าง “วู้ดดี้ ฮาเรลสัน” เป็นหัวหน้า และมี “แซม ร็อคเวลล์” เป็นลูกน้องที่ต้องใช้คำว่า “ชั่ว” มากๆ ไล่ตั้งแต่เรื่องการทำงานและปมประวัติเสื่อมเสียที่ชอบระรานคนผิวสี มีอคติอยู่เต็มหัวใจ

จะว่าไป ด้วยบทและการแสดงที่หนุนส่งกันอย่างลงตัว ส่งผลให้ทั้งนักแสดงหลักทั้งสามคนได้เข้าชิงออสการ์ทั้งหมด “ฟรานเซส แม็คดอร์มาน” นั้นได้ชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะเป็นผู้พิชิตตุ๊กตาทองคำ) ขณะที่นักแสดงฝ่ายตำรวจทั้งสองคน ได้เข้าชิงสาขาเดียวกัน คือ “นักแสดงสมทบชาย” ... ทั้งหมดทุกคนได้ร่วมกันทำหน้าที่ตีแผ่ระบบงานราชการที่ชักช้ายืดยาด รวมถึงความอัปลักษณ์ในแวดวงตำรวจผู้ถือกฎหมายออกมาให้เราเห็นแบบสุดติ่ง จนบางทีก็แทบแยกแยะได้ยากว่าระหว่างตำรวจกับอันธพาลนี่ต่างกันยังไง

ไม่ว่าจะอย่างไร ... ในแง่มุมของการต่อสู้คัดง้างกันระหว่างผู้สูญเสียกับผู้ที่ทำหน้าที่ติดตามสืบสวน Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ยังมีแง่มุมอีกด้านที่พูดได้ว่า มีความเป็นมนุษย์ๆ ซึ่งมีทั้งความเข้มแข็ง เปราะบาง, หยาบกระด้าง ละมุนละไม, โหดร้ายรุนแรง และอ่อนโยน ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน สลับกันแสดงบทบาทไปตามเวลาวาระ ... ในด้านหนึ่งมันดูเหมือนจะเป็นหนังที่ชวนสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดกับอะไรๆ ในโลกนี้ที่ดู “บัดซบ” สิ้นเชิง แต่อีกด้านก็ยังส่องประกายเรืองรองของความหวังว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ดังนั้น เราจะได้เห็นว่า สถานการณ์ในเมืองเอ็บบิ้ง มิสซูรี่ นั้น จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป นับตั้งแต่ “ป้าย 3 ป้าย” ที่คุณป้าคิดขึ้นมาด้วยความแค้น แต่ผลลัพธ์ของมันกลับทรงพลังถึงขั้นที่ไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงโลกใบเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ อย่างเอ็บบี้ แต่ยังมีส่วนอย่างสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตัวตนและความคิดของคนได้ด้วย

เหมือนๆ จะมีต้นทางมาจากความเคียดแค้นชิงชัง แต่บทสรุปของหนัง กลับให้สติและแสงสว่างทางปัญญาบางอย่างที่ดูแล้ว “รู้สึกดี” (feel Good) สุดๆ ครับ

ป.ล. Three Billboards Outside Ebbing, Missouri เป็นหนังที่มีไดอะล็อกเจ๋งมากๆ บางประโยคคำพูด โดยเฉพาะในจดหมาย 2 ฉบับนั้น คมมากๆ ถึงขั้นต้องจดต้องจำไว้ ส่วนคำพูดซึ่งป้าเหน็บตำรวจแต่ละประโยคนี่พูดได้ว่า “จี๊ด” ไปถึงขั้วหัวใจ และโดยส่วนตัว ผมมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า ผลงานชิ้นนี้จะเป็นผู้ชนะบนเวทีออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่กำลังจะมาถึง...











กำลังโหลดความคิดเห็น