ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ค่ายเพลง "รถไฟดนตรี" ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายเพลงที่สร้างสีสันให้กับวงการเพลงบ้านเราชนิดที่ไม่ได้ด้อยไปกว่า 2 ค่ายใหญ่อย่างแกรมมี่ฯ หรืออาร์เอสฯ แต่อย่างใด
ในบรรดาศิลปินชื่อดังหลายต่อหลายคนของค่าย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นบุกเบิก ทั้ง สาวสาวสาว, ฟรีเบิร์ดส, ต้น สุชาติ ชวางกูร, พราย ปฐมพร, ฤทธิพร อินสว่าง ฯลฯ หรือจะเป็นเพื่อชีวิตคนดังที่สร้างชื่อมาจนถึงทุกวันนี้อย่าง หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง,ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ฯลฯ
หนึ่งในศิลปินในสังกัดที่ถือได้ว่ามีน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเป็นเอกลักษณ์ก็คือนักร้องลูกครึ่งไทย-เยอรมัน อย่าง "โดม มาร์ติน" นั่นเอง
หลังอัลบั้มแรก "หนุ่มไฟแรง" ในปี พ.ศ. 2536 ชื่อของหนุ่มลูกครึ่งไทย-เยอรมันในวัย 22 ณ ตอนนั้นก็เป็นที่รู้จักขึ้นมาทันทีจากภาพของนักร้องหนุ่มผมยาวมาดเท่และบทเพลงติดหู อาทิ เหนื่อยเปล่า, หนุ่มไฟแรง, มีใครอยู่บ้าง
ก่อนที่ต้นสังกัดจะเพิ่มความเป็นร็อคให้เจ้าตัวเข้าไปอีกในอัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง "กุหลาบไฟ" ที่ออกมาในปี 2537 ด้วยการรวมเอานักกีต้าร์สายร็อคทั้ง แหลม มอริสัน, กิตติ กีตาร์ปืน, หมู คาไลโดสโคป, ชัคกี้ ธัญญรัตน์, โอฬาร พรหมใจ และ ลีโอ ร็อกเกอร์ มาร่วมงานกัน
ในอัลบั้มชุดที่ 3 "ป.ล.คิดถึงมาก" ที่ออกในปี 2538 เป็นการนำเอาบทเพลงของศิลปินคนอื่นๆ มาคัฟเวอร์ใหม่ในแนวที่ฟังสบาย ทั้ง ไม่ได้มามือเปล่า, คอย, สิ่งสุดท้ายคือเธอ ฯลฯ ซึ่งปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ขายได้ในระดับล้านตลับก่อนค่ายจะส่งอัลบั้มใหม่ของเจ้าตัวในแนวเดียวกันออกมาในชื่อ "ทั้งหัวใจให้เธอ (คนเดียว)" มีเพลงเด่น อาทิ เอาใจไม่เป็น
อย่างไรก็ตาม หลังจากออกอัลบั้มที่ชื่อ "ร็อค ซีเคร็ท" ที่ออกมาในปี พ.ศ. 2543 จู่ๆ ชื่อของ "โดม มาร์ติน" ก็แทบจะหายไปจากวงการเพลง ทอดยาวมาเนิ่นนานกระทั่งในวันนี้เจ้าตัวได้กลับมาจับไมค์อีกครั้งพร้อมกับบทเพลงใหม่ในรอบเกือบ 20 ปีกับบทเพลงที่ชื่อว่า "ฉันกลับมาแล้ว"
"คือมันเป็นช่วงที่ว่าเราแผ่วไปเองด้วยมั้ง แล้วด้วยกระเแสที่ตอนนั้นอัลเทอร์เนทีฟ กระแสเพลงอินดี้เค้ามา ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวเรา ก็เลยขอเฟดเอ้าท์มาดีกว่า มานั่งดูน้องๆ เค้าดีกว่า" นักร้องดังในอดีตในวัย 46 ย้อนเผยถึงเหตุผลที่ทำให้ตนเองห่างหายไปจากวงการเพลงนานร่วม 20 ปี
"ก็ถือว่าตามยุคแหละครับ เราก็ออกมาทำงานส่วนตัว แล้วก็ไปทำงานกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับบริษัททัวร์ (ช่วงที่หายไปเรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้ร้องเพลงเลย) แทบจะไม่เลยครับ ก็อาจจะไปแจมๆ บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คือนั่งดูเค้า สนุกดี มีความหมั่นเขี้ยวบ้าง (หัวเราะ) แต่ฟิลล์มันยังไม่มาจริงๆ ก็เลยไม่มีความคิดว่าจะกลับมาทำงานใหม่หรือว่าอะไร"
ส่วนสาเหตุที่ทำให้กลับมาทำงานเพลงอีกครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่า..."คือหลังจากที่ออกมาแล้ว สักระยะหนึ่งก็เริ่มมีกระแส มีน้องๆ ที่นั่งคุยกัน แล้วมีน้องคนหนึ่งเค้าเขียนเพลงให้ผมเพลงนึง นานมากแล้วนะประมาณ 7-8 ปี เขาอยากให้เรากลับมาร้อง เราดูเนื้อหาแล้วก็เออ เข้าท่าดี"
"เพียงแต่ตอนนั้นมันยังไม่มีฟิวส์ แล้วเราก็สนุกกับงานเราอยู่ ซึ่งพอมาทำงานเกี่ยวกับทัวร์ ทำออแกไนซ์ มันก็จะมีน้องๆ แบบว่า พี่โดมร้องเพลงหน่อย หาเพลงใหม่ๆ ร้องบ้าง อยากฟังเสียงพี่ เริ่มมีเรียกหา ก็เลยกลับมาย้อนดูเพลงนี้ที่น้องเคยแต่งเอาไว้อีกที แล้วก็มาเจอน้องที่เค้าเป็นโปรดิวซ์ ที่ถูกอกถูกใจ"
"ซึ่งเค้าห่างจากเราไม่มาก เค้ารู้ฟิวส์เราในยุคนั้นว่ามันเป็นยังไง ก็เลยเป็นจุดเริ่มของการกลับมาทำเพลงอีกครั้งกับเพลงฉันกลับมาแล้ว"
ด้วยอายุ ด้วยวงการเพลงที่เปลี่ยนไป เจ้าตัวจึงไม่ขอคาดหวังว่าผลจะเป็นอย่างไร
"ไม่คาดหวังนะว่าผลลัพธ์มันจำเป็นต้องเจ๋ง ต้องเหมือนแต่ก่อน ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เราไม่ได้เร่งว่ายอดวิวมันจะต้องเท่าไหร่ มันต้องอย่างนั้นอย่างนี้นะ ถ้าคนเค้าคิดถึงเราเค้าก็ฟัง เค้าชอบเค้าก็ฟัง คือให้ตัวเลขมันเป็นไปธรรมชาติของมันดีกว่า ไม่ได้ไปเร่งอะไร"
"เอาเป็นว่าเหมือนหยั่งเชิงดูแล้วกัน เพราะเดี๋ยวนี้ตลาดคนไทยเปลี่ยนไปเยอะ ที่จะมาคาดหวังว่าจะโน่นนี่ มันก็ยาก แต่ว่าทำให้หายคิดถึงแล้วกัน แล้วถ้ามันเป็นแนวโน้มที่ดีเนี่ย ก็น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา อาจจะเป็นคอนเสิร์ตหรืออะไรก็ว่ากันไป เพราะว่าด้วยอายุเรา ด้วยเสียงเราก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ช่วงนี้ยังดีอยู่ก็น่าจะลองทำดู"
ต้องรีบทำ?
"ใช่ ต้องรีบนิดนึง (หัวเราะ) จริงๆ ก็มีการพูดคุนกันอยู่บ้าง กับป๋าแหลม (แหลม มอริสัน-วิชัย นวลแจ่ม) นี่แหละ ซึ่งถ้าเกิดทำก็ต้องรีบเลย (หัวเราะ) แต่ใจผมเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างไง เพราะตอนนี้เราทำเอง ไม่มีค่าย ไอ้เรื่องการเติบโตของเพลงก็ต้องให้เวลา กว่าจะเข้าถึงแฟนเพลงก็คงต้องให้เวลามันนิดนึง"
หลัง "ฉันกลับมาแล้ว" วางแผนไว้หรือยังว่าจะมีเพลงใหม่ออกมาอีกมั้ย?
"เพลงที่ 2 ยังดูๆ อยู่ว่าจะยังไง แต่ที่วางไว้คร่าวๆ คือเพลงเร็ว แต่ว่าจะแบบไหน จะเป็นเพลงหนัก เป็นเฮฟวี่แบบแต่ก่อน หรือว่าจะเป็นร็อคแบบกระชับๆ ก็ยังไม่แน่ แล้วก็กะว่าอาจจะมีเพลงระดับกลางๆ อีกสักเพลง คือเราจะมาแบบเร็วมากหรือว่าอะไรก็กลัวเด็กๆ เค้าจะว่าเอาว่าเออพวกลุงทำอะไรกัน (หัวเราะ)"
ศิลปินหลายคนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงเก่าตรงนี้เราติดอะไรมั้ย?
"ไม่มีนะครับ เพราะว่าตอนที่จะออกเพลงใหม่ผมก็คุยกับพี่ย้า (ระย้า ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร-เจ้าของค่ายรถไฟดนตรี) บอกพี่ครับผมจะทำเพลงใหม่ แล้วจะเอาเพลงเก่าๆ มาร้องได้มั้ย แกก็บอกได้เลย เพียงแต่ว่าห้ามเอามาคัฟเวอร์ใหม่ ห้ามทำใหม่ ซึ่งเราก็ให้เกียรติเจ้าของเค้าอยู่แล้ว แต่ถ้าเอาไปทำมาหากิน ไปร้องคอนเสิร์ตได้เลย ไม่มีปัญหา"
สุดท้ายแล้ว เปลี่ยนมาไว้ผมสั้นนานหรือยัง?
"นานแล้วครับ ด้วยอายุ ด้วยการทำงานแล้วก็ตามวัยน่ะครับ ไว้ยาวเดี๋ยวเด็กเค้าจะมาหาว่า เอ๊ะ ลุง มาไว้อะไรผมยาว (หัวเราะ) ก็อาจจะให้ยาวกว่านี้อีกนิด ส่วนเรื่องสุขภาพก็ดีครับ ไม่มีปัญหาอะไร มีอวบๆ นิดนึง ก็ตั้งใจอยู่ว่าจะลดๆ บ้าง (หัวเราะ)"