พูดได้ว่า เป็นหนังที่ทุกคนจับตามองตั้งแต่มีข่าวเปิดตัวใหม่ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฮีโร่ของมาร์เวลสตูดิโอเป็นคนผิวสี แถมทีมนักแสดงก็เป็นคนผิวสีแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสำหรับบ้านเรา หลายคนอาจจะคิดว่า ก็ธรรมดา แต่สำหรับอเมริกาที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาบางส่วนที่เกี่ยวกับคนผิวสีอย่างเข้มข้น พวกเขาก็ย่อมจะอยากรู้อยากเห็นเช่นกันว่า มาร์เวลจะถ่ายทอดหนังเรื่องนี้ออกมาอย่างไร
“แบล็ค แพนเธอร์” หรือชื่อจริงคือ “ที ชัลล่า” โดยพื้นเพเป็นชาววากานด้า ดินแดนสมมุติซึ่งซุกตัวเองอยู่ในพื้นที่ไหนสักแห่งในแถบแอฟริกา ซึ่งตามความเป็นมา... หวากานด้าเป็นอาณาจักรปิด ดำรงอยู่อย่างสันโดษ แยกตัวเองจากโลกภายนอก และสิ่งหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่ามากของวากานด้าคือแร่ไวเบรเนี่ยม (เป็นแร่โลหะดิบที่ใช้ทำโล่ให้กับกัปตันอเมริกา และใช้ทำชุดของแบล็ค แพนเธอร์)
อย่างไรก็ตาม เพราะแร่โลหะอันล้ำค่านี้นี่เอง ที่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งชักพาให้วากานด้าต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ...
ยอมรับครับว่า “แบล็ค แพนเธอร์” เป็นการเปิดตัวฮีโร่คนใหม่ที่ประสบความสำเร็จงดงามจริงๆ ในจักรวาลของมาร์เวล เริ่มตั้งแต่การแนะนำให้เราทำความรู้จักที่มาที่ไปของอาณาจักรแห่งนี้ อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็นระบบ ทำให้เราได้เห็น “ขนบ” และ “ตัวตน” ของคนประเทศนี้ที่สืบทอดกันมายาวนาน หนังมีความยาวราวๆ 130 นาที มีการปูเรื่องราวและนำเสนอปมปัญหา ที่สามารถทำให้เรา “เข้าอกเข้าใจ” และมีความรู้สึกร่วมไปกับหนังได้อย่างลึกซึ้ง
ที่สำคัญเหนืออื่นใด คือความเข้มข้นของตัวเนื้อหา ที่ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากหนังมาร์เวลหลายเรื่องที่มุ่งเน้นความบันเทิงเป็นหลัก แต่แบล็ค แพนเธอร์ ให้น้ำหนักกับแก่นสารตัวเรื่อง พอๆ กับให้ความบันเทิงแก่คนดูผู้ชม หนังมีการพาดพิงถึงประเด็นเรื่องผิวสี ที่ถึงกับมีบทพูดซึ่งหยิบยกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยที่คนผิวสีลุกขึ้นมาประกาศเอกราชจากการกดขี่ของคนผิวขาว, มีการพาดพิงถึงเรื่องการแทรกแซงจุ้นจ้านเข้าไปในกิจการบ้านเมืองของประเทศอื่นๆ (ซึ่งจอมจุ้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คืออเมริกานั่นแหละ)
เอาเป็นว่า ในส่วนของเนื้อหาเรื่องราวนั้น “สอบผ่าน” เต็มๆ ครับ ตั้งแต่ระดับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตัวละครแต่ละตัว ไปจนถึงเนื้อหาที่เป็นบริบทแวดล้อมตัวละคร หนังมีความดราม่าสูงมาก ชนิดที่บางฉากสามารถสร้างความสะเทือนใจที่อาจทำให้ใครบางคนน้ำตาซึมได้เช่นกัน
และแน่นอนที่สุด เรื่องของความบันเทิง มาร์เวลไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง หนังแบล็ค แพนเธอร์ เป็นหนังที่มีอารมณ์ขันพอเหมาะพอควร แต่สิ่งที่ดีงามในแง่ของความบันเทิงก็คือความแอ็กชั่น การต่อสู้ ซึ่งเป็น “ทางถนัด” ที่มาร์เวล “เอาอยู่” อยู่แล้ว
ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดมากไปกว่าคำว่า “ขอต้อนรับฮีโร่คนใหม่” สู่จักรวาลแห่งมาร์เวล “ด้วยความยินดี” แล้วล่ะครับ
