ความเตี้ยเป็นอุปสรรค!! “นน ชานน” รับมีผลต่องานที่เข้ามา เผยความในใจมีวางแผนคิดจะไปตัดต่อกระดูกเสริมความสูงอีก 10 ซม. ยันอาจจะไม่ได้ทำเร็วๆ นี้ แต่ก็มีคิดไว้ ตอนนี้ก็ออกกำลังกาย ยืดตัวตามทฤษฎีเพิ่มความสูงโดยไม่ต้องเพิ่งการผ่าตัด รับค่าใช้จ่ายสูงเกิน 2 ล้านบาท
“นน ชานน สันตินธรกุล” หรือที่รู้จักกันในนาม “นนกุล” ได้เผยแบบเป็นกันเองกับ MGR ว่าตอนนี้ได้วางแผนจะตัดต่อกระดูกเพื่อเพิ่มความสูง พร้อมกับหาข้อมูลเพิ่มเติมทำวิทยานิพนธ์หนังสั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเป็นการจดบันทึกผ่านการอัพผ่านยูทูปชื่อว่า NONKUL ยันว่านี่ไม่ใช่ความฝันแต่ตั้งใจอยากจะทำให้เป็นความจริง เพราะความสูงมีผลต่องานที่จะเข้ามา รวมไปถึงเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตในประจำวันอีกด้วย
"จริงๆ แค่ 3 เดือนแรกของปีที่จะรับงานน้อยลงเพราะต้องทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จ วางแผนไว้ที่จะกระโดด โยคะ ว่ายน้ำ ฝังเข็ม ดื่มนมให้ได้วันละ 1 ลิตร และนอนก่อน 3 ทุ่ม คือส่วนนึงของวิทยานิพนธ์ที่ผมเลือกหัวข้อเอง อย่างคนอื่นที่เรียนภาพยนตร์ เขาอาจจะเลือกทำหนังสั้น ตัดต่อ และผมเลยคิดว่าถ้าเราอยากจะเพิ่มความสูงอยู่แล้ว เราก็เลยเสนอหัวข้อนี้ไป ทำคู่กันไปเลย จะได้ไม่เสียเวลา แต่ไม่ถึงขั้นวิจัยลงลึกขนาดนั้น แต่ผมทำหมดทุกอย่างที่ทุกคนบอกว่าสามารถเพิ่มความสูงได้ สุดท้ายแล้วบางทีก็ไม่ได้บอกว่าจะทำอันนี้แล้วมันจะสูงนะ แต่ผมทำแบบเป็นการหาข้อมูลโดยรวม"
"แรงบันดาลที่อยากให้ผมทำหัวข้อนี้ บางคนอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับสาขาที่ผมเรียน ผมว่าถ้าเราสูงขึ้น มันก็จะมีโอกาสให้เราได้ทำงานต่างๆ หลากหลายมากขึ้น และก่อนหน้านี้ผมได้ไปเจอบทความนึงว่าเขาเป็นนักกีฬา ที่ตอนอายุ 21 ปี และเขาสามารถสูงขึ้นได้อีก ซึ่งถ้าจำไม่ผิดคือจาก 180 ซม. พุ่งไป 190 ซม. กว่า ผมก็เลยเอาว่ะ ตอนนี้เราก็อายุ 21 เราก็น่าจะโตได้อีก และผมยังได้อัพลงยูทูป เพื่อเป็นการเตือนตัวเองว่าถ้าเราไม่ทำ เราจะไม่มีชิ้นงานไปส่งอาจารย์นะ เพราะเราก็ถ่ายวิดีโอทุกๆ วันที่เราออกกำลังกาย เพื่อจะนำทั้ง 90 วันมาตัดต่อส่งอาจารย์ประมาณ 15 นาที มันก็เป็นหนังสั้นเรื่องนึงอยู่ดี"
ไม่รับประกันว่าจะสูงขึ้นจริงไหม? แต่ยืนยันว่าขนาดคนอายุ 30 ปี ก็ยังสูงเพิ่มขึ้นมากว่า 10 กว่า ซม. แล้ว พร้อมศึกษาทางการแพทย์ขั้นตอน “การตัดต่อกระดูก” ว่าทำได้จริง
"บอกตรงๆ ว่าในระยะเวลา 3 เดือนที่เราทำนั้น คือเราไม่รู้ผลลัพท์ของมันหรอก แต่เราเชื่อว่าเราจะสูงขึ้น เราทำทุกอย่างตามที่อินเตอร์เน็ตบอกว่ามันน่าจะสูงขึ้น เพราะกิจวัตรประจำวันจะต้องกระโดด 15 นาทีพัก 1 นาที แล้วกระโดดต่ออีก 3 เซท และดื่มอย่าง 1 ลิตร รวมไปถึงนอนก่อน 3 ทุ่ม นี่คืออย่างน้อยวันนึงเราต้องทำ ส่วนจะโยคะ ฝังเข็ม ว่ายน้ำอันนั้นก็แล้วแต่ตารางงานของแต่ละวัน คือผมทำแบบนี้ทุกวัน แต่เพิ่งอัพลงยูทูปไปแค่ 3 อีพีเอง เพราะไม่มีเวลาตัดต่อ และพอผ่านมาเดือนกว่า ผลที่เห็นคือมันทำให้เห็นว่าเรามีวินัยมากขึ้น ตอนแรกยังไม่ชินเลยเพราะตื่นขึ้นมา ต้องมาตั้งกล้อง มาออกกำลังกาย คือไม่ชินมากๆ"
"ในเรื่องของทางการแพทย์ อย่างที่บอกมันก็แล้วแต่คนนะครับว่าจะสูงได้แต่ไหน และผมเพิ่งได้ยินข่าวมาว่ามีนักบินอวกาศ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในอวกาศ อายุ 30 แล้ว แต่ด้วยในอวกาศไม่มีแรงโน้มถ่วง เขาจึงสูงขึ้นมา 9 เซนติเมตร แต่ที่เขาสูงเพราะมีบรรยากาศภายนอกที่มันแตกต่างจากโลก มันจึงทำให้ผมเชื่อว่าการที่คนเราจะสูงขึ้นได้นั้น มันยังเป็นไปได้อยู่ แค่มันยากเฉยๆ ผมเลยคิดว่าถ้าเราไม่ได้อยู่เท่าเขา แต่เราออกกำลังกายในทุกๆ วัน ยืดตัวทุกวัน มันอาจจะทำให้ร่างกายใกล้เคียงกับสภาพนั้นให้เท่าที่สุด ซึ่งมันหนักกว่าเราออกกำลังในฟิตเนสอีก เพราะถ้าดูในยูทูปที่ผมออกกำลังกาย คือจะออกกำลังกาย 47 นาทีไม่หยุดเลย แต่ตอนนี้ร่างกายเริ่มจะชินแหละ แต่มันก็มีบางวันที่ผมไม่ได้ทำ เพราะเวลาที่ทำต่อๆ กันมาเรื่อยๆ เส้นเอ็นมันก็เริ่มจะยืดแหละ มันจะเจ็บแปลบขึ้นมา (เราหวังว่ามันจะสูงขึ้นเท่าไร?) ผมหวังสูงครับ ประมาณ 190 ซม. (ยิ้ม)"
"และถ้าต่อกระดูกจริงๆ ที่ผมได้ไปศึกษามาแล้ว มันจะมีกระดูก 2 ท่อนที่เขาศึกษากันมาคือฟีเมอร์ (กระดูกต้นขา) และทีเบีย (กระดูกแข้ง) เวลาทำคือเขาจะสอดน็อตเข้าไป โดยจะทำได้ครั้งละส่วนของกระดูก คือถ้าจะทำทั้งหน้าแข้งและต้นขาเลยก็ได้ แต่ห้ามทำพร้อมกัน โดยเป็นการนำน็อตเข้าไปตัดต่อกับกระดูก แล้วก็ทำการยืดกระดูก สักพักหมอเขาก็จะเอาออก แล้วให้เรากินแคลเซียมเข้าไปทดแทนเหล็กพวกนั้น แต่อันนี้เป็นการศึกษาผ่านเน็ตหมดเลยนะ ยังไม่ได้คุยกับหมอจริงจัง เพราะหมอเหล่านั้นอยู่อเมริกา เกาหลี (เปอร์เซ็นต์ที่คนทำสูงกับแพทย์ เขาสูงขึ้นกี่เซนติเมตร?) ทางทฤษฎีคือจะสูงขึ้นกี่เซนก็ได้ แต่มันต้องสัดส่วนของร่างกายด้วย ให้มันบาลานกันทั้งร่างกาย"
ค่าใช้จ่ายสูงเกิน 2 ล้านบาท แต่ก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ เผยถ้าอยากสูงขึ้น 10 ซม. ก็ต้องตัดต่อกระดูกทั้งหน้าแข้งและหน้าขา เผยเหตุผลที่อยากสูงเพื่อเพิ่มความั่นใจและเปิดโอกาสได้รับงานมากขึ้น
"ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายจริงๆ คือถ้าจะทำนั้นมันก็เป็นล้านเลยนะ แต่ไม่ใช่เซนละแสนอย่างที่ทุกคนเข้าใจนะครับ คือจริงๆ ที่บอกว่าราคาเป็นล้านก็เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ อย่างถ้า 2 ล้านก็อาจจะขึ้นวันละมิล และค่อยๆ หมุนน็อตปรับไปเรื่อยๆ คล้ายการดัดฟัน (ยิ้ม) แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันทันสมัยมากกว่าเดิมแหละ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันจะมีแท่งออกมาให้หมุนตลอดเวลา อันนั้นเสี่ยงติดเชื้อ เดี๋ยวนี้มีกดรีโมท แต่ยืดได้แค่วันละมิล (ถ้ามันยืดได้ขนาดนี้ แล้วผิวหนังเราล่ะมันจะยืดตามได้เหรอ?) มันถึงเป็นเรื่องอันตรายไงครับ หมอจึงไม่แนะนำให้ยืดเยอะ และที่ผมบอกว่าอยากได้ 10 ซม. คือมันต้องยืด 2 ท่อนนะ คือหน้าขากับหน้าแข้งนะครับ"
"แต่ถามตอนนี้ว่าผมจะเริ่มทำเมื่อไรนั้น ผมยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้เลยนะครับ เพราะถ้าทำจริงๆ มันก็ต้องมีเวลาพักฟื้นที่ยาวประมาณปีนึง แต่ถามว่าทำไมผมไม่กลัว เพราะผมเคยเส้นเอ็นคู่หน้าขาด ไปผ่าตัดเข่ามา ก็รักษาปีนึง ผมก็เลยคิดว่ามันปกติ เลยไม่ค่อยกลัวสักเท่าไร แต่คงยังไม่ทำเร็วๆ นี้ เพราะมันก็แพงด้วย แต่ถ้าผมทำตามโปรแกรมที่ผมวางไว้ แล้วอยู่มันได้ผล มันสูงขึ้นมา ผมก็ไม่ไปผ่าตัด แต่อีก 3-4 ปีค่อยทำ เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว ดีไม่ดีอีก 3-4 ปี เทคโนโลยีอาจจะล้ำหน้าไปกว่านี้ก็ได้นะครับ"
"ผมว่าความสูงมันก็มีผลต่องานเรานะครับ มันอาจจะไม่ถึงว่าเราต้องพลาดงาน แต่มันอาจจะมีผลต่อความมั่นใจของเรามากกว่า สังเกตได้จากบทที่ดังๆ คนที่ได้รับมักจะตัวใหญ่ อย่างบทซุปเปอร์ฮีโร่ ซึ่งมันมีผลแบะเป็นความมั่นใจในการใช้ชีวิตในทุกๆ วันด้วย ผมว่าทุกอย่างมันเกื้อหนุนกันหมดทั้งหน้าตา ความสูง ความสามารถถ้ามีเยอะมันก็จะมีโอกาสเยอะขึ้นตาม (อันนี้ไม่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่นนอยากจะทำให้มันเป็นจริง?) ใช่ครับ และหลังจากนี้ก็พอทำวิทยานิพนธ์เสร็จ ประมาณเดือน พค. ก็ได้ไปถ่ายซีรี่ย์ที่จีน และหลังจากนั้นก็มีโปรเจคอีก 2-3 อย่างที่ไทย"