“ฮั่น อิสริยะ” ขอโทษ “โอปอล์” มางานสาย แต่ปัดตอบเคลียร์ “ใบเฟิร์น” โบ้ยประสานงานผิดพลาด ลั่นมีบางคนเดือดร้อนเลยต้องออกมาพูด บอกมีสปิริตต่อให้มีคนดูแค่ 2 หรือ 10 คนก็พร้อมเอ็นเตอร์เทนให้ทุกคนมีความสุข
ไปร่วมงานอีเวนต์หนึ่งร่วมกับ “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” และนางเอกดัง “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” แต่ก็มีดรามาตามมา หลังจากที่ “ฮั่น เดอะสตาร์” อิสริยะ ภัทรมานพ โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมกรณีที่ถูกผู้ไม่หวังดีกล่าวหาเบี้ยวงาน และขอเลื่อนงานออกไป ซึ่งเจ้าตัวก็โพสต์ฉะแรงว่าการพูดไม่จริงและโยนความผิดไม่น่ารัก ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเจอตัวหนุ่มฮั่น เลยสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าต้องโพสต์ชี้แจงเพราะมีบางคนเดือดร้อน
“เรื่องดรามาในไอจี ผมได้ชี้แจงไปแล้ว ได้พูดไปหมดแล้วในอินสตาแกรม และผมเคลียร์กับทีมงานที่อยู่ในงานวันนั้นแล้ว จริงๆ ผมว่าเกิดจากความเข้าใจผิด ประสานงานไม่ตรงกันมากกว่า เรื่องที่คนมองว่าเราไปงานเลท ถ้าคนที่เคยทำงานด้วยกัน จะรู้อยู่แล้วว่าทำงานกับผมถ้านัดเวลานี้ สมมติรอไม่ได้จริงๆ ผมก็จะบอกว่าเวลานี้มาไม่ได้จริงๆ แต่ครั้งนี้เกิดจากการที่มีคนพูดขึ้นมาก่อนว่าทางเราขอเลื่อนงาน คือมันจะไม่มีประเด็นอะไรเลยถ้าไม่มีผู้เดือดร้อน คือมีพี่ๆ ที่ร่วมงานในวันนั้น เขาต้องมารอเราเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผมเลยแค่บอกว่าขอให้มีการพูดคุยกัน ให้เขาไปบอกให้หน่อยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเรานะ อาจจะเป็นการประสานงานที่ผิดพลาดหรือเปล่า”
ย้ำรับผิดชอบงานเป็นอย่างดี ปัดตอบเวลานัดหมายคาบเกี่ยวศิลปินคนอื่นๆ
“ทั้งหมดผมไม่สามารถตอบได้ เพราะผมไม่ได้เป็นคนคุมสโคปงานทั้งหมด เราจะรู้แค่เวลางานเรา สิ่งที่เราต้องมา คือ ทำอะไรบ้าง รับผิดชอบในส่วนของเรา และในวันนั้นผมรับผิดชอบหน้าที่ของผมอย่างดี แต่ที่มีการผิดพลาดเกิดขึ้นหรือที่พูดไม่ตรงกัน จริงๆ ผมไม่ทราบเลย และไม่ขอพูดถึงว่าใครเป็นคนพูด”
ขอโทษ “โอปอล์” แล้วแต่ไม่ตอบเรื่อง “ใบเฟิร์น” ยันคำเดิมประสานงานไม่ตรงกัน
“มีโอกาสได้คุยกับพี่โอปอล์ครับ และก็บอกพี่โอปอล์ว่าขอโทษ เพราะทางผมไม่รู้จริงๆ อาจจะประสานงานไม่ตรงกัน และเวลาอาจจะอัปเดตมา แต่อัปเดตไม่พร้อมกัน พี่โอปอล์ก็เข้าใจครับ คือเราเคยร่วมงานกันก่อนหน้านี้ เขารู้ว่าเราทำงานยังไง แบบไหน คือเขาเชื่อว่าคนที่ทำงานในวงการบันเทิง จะรู้ในหน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว”
“ถามว่าข่าวทำให้เราเสื่อมเสียมั้ย วันนั้นที่เกิดเรื่องวันแรก ตอนแรกผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าไม่มีคนเดือดร้อน และเป็นแค่คำพูดหนึ่ง เราอาจจะแก้ไขให้มันผ่านไปก่อน แต่พอรู้ว่ามีผู้ได้รับผลกระทบเลยต้องมาคุยกัน ถ้าเกิดเขาไม่ได้รับรู้ว่าเราไม่ได้ทำจริงๆ มันจะกลายเป็นว่าเดี๋ยวทำงานรอบหน้าด้วยกัน งานจะไม่ดี คือที่ต้องออกมาพูด ผมกลัวว่างานต่อๆ ไปคนจะมองว่าเราเห็นว่าคนไม่มาแล้วเราจะไม่มาร้องเพลง หรือไม่มาร่วมงาน แต่จริงๆ มันไม่ใช่ คือถ้าต่อให้ 2 คนหรือ 10 คน ผมก็ต้องร้องเพลงและทำหน้าที่ให้คนดูมีความสุขอยู่แล้ว เป็นปกตินะครับ แต่ตรงนี้เป็นเรื่องที่พูดยาก บางทีก็คงต้องรอทีมงานมาเคลียร์หรือมาพูดอะไรสักหน่อย ซึ่งทางทีมงานที่เป็นเฮดใหญ่อาจจะไม่ได้เป็นคนพูดประโยคนี้เอง”
วอนแยกแยะเรื่องเป็นพรีเซ็นเตอร์
“ผมมองแยกประเด็นนะครับ ในเรื่องสินค้าของเขาดีอยู่แล้ว ผมก็ได้ทดลองใช้จริง แต่เป็นเรื่องของงานในวันนั้นมากกว่า ที่เป็นข้อขัดแย้งกันในงานวันนั้น”
