“ไมค์ พิรัชต์” ดวงพุ่งสุดๆ เซ็นสัญญากับ CAA เอเยนซี่ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ต้นสังกัดเดียวกับ แบรด พริตต์, ทอม ครูซ ลุยงานฮอลลีวูด ฮอตเวอร์หนังจ่อ 3 เรื่อง และเตรียมออกผลงานเพลงที่อเมริกา ใช้โปรดิวเซอร์คนเดียวกับ มารายห์ แครี่
“ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศากุล” และ “Mr.Dean Altit” ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังไมค์เซ็นสัญญากับ CAA เอเยนซีอเมริกา ในการทำงานที่ฮอลลีวูด มั่นใจความสามารถของไมค์ที่ทั้งร้อง เต้น แสดงได้ ไม่เกิน 2 ปี มีผลงานดังระดับโลก
ไมค์ : “CAA เป็นเอเยนซีจากอเมริกา ตัวผมได้มีโอกาศเจอกับ Dean ซึ่งเขาเป็นโปรดิวเซอร์ทำหนังของฮอลลีวูด เราคุยกันมาก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมได้ไปประชุมงานที่อเมริกา ใช้เวลาเดือนกว่าๆ ถึงตัดสินใจเซ็นสัญญา”
Mr.Dean : “ผมรู้สึกว่าไมค์เป็นคนที่ครบเครื่อง มีความสามารถหลากหลาย ทั้งการแสดง ร้องเพลงและเต้น คิดว่าเหมาะกับการที่จะทำงานระดับฮอลลีวู้ด คิดว่าไมค์จะเข้าสู่ฮอลลีวู้ด ประสบความสำเร็จเหมือนนักแสดงคนอื่นๆ ที่ CAA ดูแลหรือเปล่า “แน่นอนครับ ทางCAA ได้เห็นศักยภาพของไมค์ที่ค่อนข้างครบเครื่อง ภายใน 2 ปีจะมีผลงานให้ได้ชมกัน”
Mr.Dean : “ส่วนเรื่องที่ไมค์จะประสบความสำเร็จในฮอลลีวูด เป็นเรื่องที่ตอบยาก แต่ภายใน 2 ปีนี้ เราจะพยายามให้ไมค์โฟกัสของการแสดง การเต้นและการร้อง ตอนนี้มีโอกาสในเรื่องของการทำงานค่อนข้างเยอะ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา”
ไมค์ : “ตอนนี้ก็เตรียมตัวหลายอย่างเลยครับ มีให้เรียนภาษาจีนด้วย มีการเทรนนิ่ง รวมทั้งการกินอาหารคลีนซึ่งค่อนข้างเป็นการเทรนนิ่งอย่างจริงจัง”
ฮอตมากกำลังจะเล่นหนังต่างประเทศอีก 2 - 3 เรื่อง, ซีรีส์จีน และกำลังจะมีผลงานเพลงที่อเมริกาโดยโปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงให้กับ มารายห์ แครี่
Mr.Dean : “ผมคิดว่าไมค์จะเป็นความภูมิใจของคนไทย เป็นตัวแทนในการทำให้คนทั่วโลกเห็นว่าศิลปินไมค์มีความสามารถทั้งการร้องการเต้น เราจะเน้นให้คนได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของไมค์ ซึ่งไมค์ไม่ได้มีแฟนคลับแค่ในจีน เขายังประสบความสำเร็จ เขายังมีแฟนคลับทั้งบราซิล และรัสเซียด้วย”
“ส่วนเรื่องงานั้นจริงๆ เรามีคุยเรื่องโปรเจกต์หนังกันไว้ 2 - 3 เรื่อง แต่ยังเป็นข้อตกลงที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ ยังมีซีรีส์ในจีนด้วย แต่ที่แน่ๆ สามารถบอกได้ตอนนี้ คือ การทำเพลงที่อเมริกา ซึ่งได้ทำกับคิวคิว มิวสิค ของจีน เป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ของจีน เราจะทำกับโปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงให้ศิลปินซูเปอร์สตาร์หลายๆ ท่าน เช่น คนที่ทำเพลงไททานิก, มารายแครี่ เป็นต้น ตอนนี้เราก็ทำเพลงกันอยู่คาดว่าจะได้ปล่อยในช่วงเดือนมีนาคมนี้”
“ไมค์” ไม่คาดหวังกับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ แต่จะทำให้ดีที่สุด
“ตัวผมเองไม่เคยคาดหวังอะไรอยู่แล้ว ส่วนใหญ่คิดแค่ว่าทำให้ดีที่สุดในจุดที่เรายืน และกำลังทำอยู่มากกว่า การได้เซ็นกับ CAA เหมือนกับได้ก้าวขาเข้าไปในฮอลลีวู้ดก้าวหนึ่งแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ถามว่ากดดันไหม กดดันเพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีแต่ศิลปินแถวหน้าหน้า เช่น แบรด พิตต์, ทอมครูซ ,จอนนี่ เดฟ รวมทั้ง เอ็มม่า วัสซัน แต่ล่ะคนเป็นไอดอลของผมทั้งนั้น การที่ได้มาอยู่บริษัทเดียวของเขา เป็นสิ่งที่ผมตื่นเต้น และกดดัน ตอนที่เซ็นสัญญาไปก็นอนไม่หลับอยู่หลายวัน แต่เราคิดว่าเราทำให้ดีที่สุด ผมเป็นดาราไทยตัวเล็กๆ คนหนึ่ง การที่ไปถึงจุดนั้นได้ เราก็รู้สึกภูมิใจ ที่เราก็สามารถทำได้ และเป็นที่ยอมรับในที่สากล”
พยายามดูแลร่างกายให้แข็งแรงทั้งออกกำลังและเข้าคอร์สด้านการให้ถูกต้อง เพื่อทำงานระดับโลก
“เรื่องสุขภาพค่อนข้างดูแลยาก ผมมีผู้ช่วยอีกคนที่คอยดูแลเรื่องสุขภาพ คอยพกยา และเขามีการเทรนด์นิ่งก่อน ซึ่งตอนนี้ผมก็เข้ายิมอยู่ เข้าคอร์สเรื่องการกินให้มันถูกต้อง ช่วงนี้กินแต่ไก่แห้ง ไข่ และข้าว”
ลบคำสบประมาทไม่สามารถโกอินเตอร์ได้จริง
“ผมมักคิดมาตลอดเวลาที่โดนบุคคลเหล่านี้บอกว่าเราทำไม่ได้หรอก ผมไปไม่ถึงหรอก ผมก็ไม่พูดอะไร ไม่ตอบโต้ เพราะผมคิดว่าเราตอบโต้ไปแต่ถ้าเขาจะคิดอย่างนี้มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเขาได้นอกเสียจากวันนี้เขาจะเห็นด้วยตาตัวเองว่าผมสามารถทำได้นะ ผมไม่มีอะไรจะพูด ผมเอาเวลาไปสู้กับงาน ลุยงานตรงนี้ ตั้งใจให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุดดีกว่า ด้านคุณพ่อคุณแม่ก็คอยช่วยเหลืออยู่ ถ้าผมมีงานที่ไทยคุณพ่อคุณแม่ก็คอยช่วยดูแลด้วย คุณแม่ก็คอยช่วยดูแลแมกซ์เวลล์บ้างบางวัน วันที่ซาร่าติดงาน ไม่ว่างไปรับแมกซ์”
ส่วนกรณีที่ “ซาร่า” อดีตภรรยาที่มีลูกกับไมค์โพสต์ข้อความ อย่ามายุ่งกับลูก ทำให้หลายคนคิดว่า อาจเป็นการโพสต์ถึงครอบครัวของไมค์นั้น เจ้าตัวบอกว่า เคลียร์กับซาร่าแล้ว เป็นการพูดถึงบุคคลอื่น
“เห็นแล้วครับ ไม่เกี่ยวครับ ตอนที่ผมเห็นผมอยู่ที่จีน เห็นแล้วเลยโทรไปหาเขา ได้มีการคุยกันแล้วเคลียร์แล้ว เขาบอกว่าเป็นบุคคลอื่น บุคคลที่ 3 ที่ผมไม่ขอเอ่ยถึงแล้วกัน ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น เขาเลยโพสต์ว่าอย่ามายุ่ง มันไม่เกี่ยวกับเรา เพราะก่อนที่ผมจะบินไปจีน ผมยังไปรับไปส่งแมกซ์เวลล์ ยังคุยกันปกติ แล้วอีกวันนึงก็มีโพสต์นี้ออกมา ผมเลยคิดว่าไม่ใช่ผมแน่นอน เรื่องที่ถูกพุ่งประเด็นให้เป็นเรามันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ(ยิ้ม) แต่ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยรูปประโยคหรืออะไรที่ทำให้เข้าใจผิดได้ ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนจะโยงมาเป็นไมค์เพราะมันเกี่ยวกับลูกด้วย”
“ผมว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่คุณแม่ผมไม่เกี่ยว ถ้าใครจะโยงอะไรมา ใครจะด่าหรือต่อว่าอะไรให้เข้ามาที่ตัวบุคคลนั้นๆดีกว่า ไม่ต้องไปโยงคนอื่นหรือคนในครอบครัวผม เพราะคนที่อยู่ในประเด็นก็คือตัวผม ตัวกอล์ฟไม่จำเป็นต้องโยงคนอื่น”
“ผมก็ให้กำลังใจคุณแม่ว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องไปอ่านนะเพราะเราเป็นคนในสังคม เราอยู่ในจุดที่สว่าง มันต้องมีคนหลายความคิดอยู่แล้ว ถ้าเราไปอ่าน ไปสนใจ ชีวิตเราก็ไม่ได้ทำอะไรกันพอดี ความจริงอันนี้ก็เป็นวิธีที่ผมทำมาตลอด ถ้าผมอ่านผมก็ไม่สามารถทำงานต่อได้”
“สำหรับกอล์ฟ เอาตรงๆ ผมรู้ข่าวแค่คร่าวๆ แบบผิวเผินมากๆ ไม่ได้รู้รายละเอียดเพราะปกติครอบครัวผมไม่ค่อยคุยเรื่องพวกนี้กันเท่าไหร่ เรื่องความสัมพันธ์ เพราะพวกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนเราก็ไม่อยากไปยุ่งอะไรมากมาย”