“ชมพู่ อารยา” ตอกดรามาท่าอุ้มลูก บอกต้องทำใจเป็นดารามีคนช่วยเลี้ยงลูกเยอะ รับตั้งแต่มีลูก ไม่มีเวลาสวีต “น็อต วิศรุต” ไม่ประคบประหงมลูกเกินเหตุ เด็กถูกทิ้งถังขยะยังรอด ต้องมีการปรับตัว
เจ้าแม่ดรามาจริงๆ สำหรับ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ล่าสุด โดนชาวเน็ตดรามากับท่าอุ้มลูก ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าขอบคุณทุกคนที่ห่วงแต่ตนไม่ได้ติดตาม ต้องทำใจเป็นดารา มีคนช่วยเลี้ยงลูกเยอะมาก
“ตอนนี้ก็รู้สึกลงตัวขึ้น แต่คงไม่ลงตัว 100 เปอร์เซ็นต์หรอก ชีวิตเราไม่มีวันเหมือนเดิมอีกแล้ว ก็รู้สึกว่ามันคล่องตัวมากขึ้น มันสนิทกันแล้วค่ะ 6 ก.พ. นี้จะคบ 5 เดือนเต็มแล้ว ส่วนพัฒนาการของทั้งสองคนจะต่างกัน ถึงแม้จะเกิดมาพร้อมกันเป็นแฝด จะมีคนนี้ทำอย่างนี้ได้ คนนี้ก็จะนำอีกเรื่องหนึ่งก็ไม่เหมือนกัน แปลกมาก หลักๆ ก็คือจำสมาชิกในบ้านได้ เล่นมากขึ้น ห่วงเล่น ไม่ยอมนอน สายฟ้าก็แสบ ส่วนพายุก็สมชื่อ ส่วนมากเขาจะนิ่งๆ เวลาพายุเข้าก็แรงอยู่”
“ติดลูกมากค่ะ แอบนอยด์ว่าหายไปนานลืมหน้าเรารึยัง มันจะมีห่วง ตอนนี้ไม่กล้าไปไหนนาน ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ ติดแม่มากกว่า แต่เวลาเขาได้ยินเสียงพ่อก็รู้ว่าต้องอ้อนใส่ พ่อก็จะชื่นใจ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีคาแรคเตอร์คนละแบบค่ะ”
เผยสองแฝดติดเที่ยว “น็อต” ไม่ประคบประหงมลูกเกินไป
“ไม่ค่อยนะ เขาอยากให้ลูกเขาลุยๆ แมนๆ แต่ถ้าเราจะซอฟต์มากกว่า จะใช้ความนุ่นนวล เพราะเราเป็นผู้หญิง ถึงลูกเราเป็นผู้ชาย ก็อยากให้เขามีมุมอ่อนโยน ออกนอกบ้านมากขึ้นค่ะ กลายเป็นเด็กติดเที่ยวค่ะ สมมติว่าหยิบเป้หรือรถเข็นออกมา เขาก็รู้ว่าได้ออกข้างนอก ก็ดีใจ ตีขา หรือบางทีแต่งตัวให้เขาเสร็จแต่ไม่พาเขาออกซักที เขาก็จะร้อง เหมือนว่าทำไมยังไม่ออก”
เด็กถูกทิ้งถังขยะยังรอด เชื่อจะมีการปรับตัวที่ดี
“เพื่อนๆ เอ็นดูเยอะ ก็ซื้อของมาฝาก น้าๆ ทั้งหลายอยากให้ใส่ที่ซื้อมา เพิ่งจะมาเริ่มสนุกกับการแต่งตัวเขาช่วงหลังๆ ช่วงแรกๆ เขาเล็กมาก เราเน้นเรื่องความสบายเป็นหลักมากกว่าเพราะว่าไปถมเขามาก เด็กก็ไม่สบายตัว ยังไงก็ต้องนึกถึงหลักความเป็นจริงว่าเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก ว่ามันเท่ ไม่เท่ ก็ต้องให้เขาสบายด้วย”
“เรื่องฝุ่นชมกลางๆ นะคะ ชมคิดว่าทำดีที่สุดอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ ชมก็ไม่ได้ให้เขาอยู่ในสภาวะปลอดเชื้อโรค ชมก็เอาปานกลาง คือเด็กโดนทิ้งไว้ในกองขยะยังไม่เป็นอะไรเลย เราเคยดูข่าว คนเอาลูกไปทิ้งเขายังอยู่รอดได้ เด็กมีการปรับตัวมากกว่าที่เราคิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชมจะเอาลูกไปอยู่ในสถานที่ที่มีแต่เชื้อโรค เราก็เอาตามความเหมาะสม”
“ขอบคุณค่ะที่เอ็นดูเขา (เห็นว่าแจ็ค แฟนฉัน ขออุ้มน้องด้วยเราว่ายังไง?) ก็บอกเขาไปแล้วว่าให้คุยกับคุณพ่อแล้วกัน ส่วนที่คุณพ่อตอบว่าแล้วแต่คุณแม่เลย คือคุณพ่อเขาไม่รู้ว่าคุณแจ็คเขาเป็นสายนี้ แต่พอเห็นเขาไปตอบ เราเลยส่งผลงานของแจ็คให้เขาดู คุณพ่อก็บอกว่า อ้าวเหรอ พี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ (หัวเราะ)”
ไม่ตามดรามาท่าอุ้มลูก บอกเป็นดาราต้องทำใจ มีคนช่วยเลี้ยงลูกเยอะ ฝากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
“มีคนเล่าให้ฟังแล้วค่ะ แต่ชมไม่ได้ไปตาม พอมีลูกเราก็ยิ่งไม่มีเวลาเลย คือเป็นดาราต้องทำใจเนอะ เพราะจะมีคนช่วยเลี้ยงลูกเยอะมาก ถ้าด้วยความเป็นห่วงก็ขอบคุณค่ะ แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ อะไรหลายๆ อย่างเราจะรู้จังหวะเขา รู้ว่าเขาชอบอะไร ลูกชมสองคนยังต้องอุ้มไม่เหมือนกันเลย เขาชอบอะไรไม่เหมือนกันเลย แต่ก็ขอบคุณทุกคนค่ะ”
ไม่สวีต “น็อต วิศรุต” เหมือนเดิม แต่ก็เป็นความสุข ออกจากบ้านให้เวลา 3 ชม. ต้องกลับไปเลี้ยงลูก
“มันไม่เหมือนเดิมจริงๆ นะ เราต้องยอมรับ แต่มันก็เป็นความสุขอีกอย่าง จากที่เคยเป็นเรื่องของเราสองคน แต่ตอนนี้เราต้องมาคุย มาแชร์เรื่องลูก วันๆ ก็ส่งแต่รูปและคลิปลูก จากที่เมื่อก่อนเคยพูดถึงแต่เรื่องของตัวเองกัน มันก็จะเปลี่ยนไปอีกรูปแบบ มีลูกแล้วมันดีจริงๆ”
“ช่วงแรกๆ ชมไม่ได้ไปไหนเลยและไม่กล้าไปไหนไกล แต่ที่เห็นว่าชมไปไหน คือเราต้องรีบไปแล้วรีบกลับบ้าน ก็ต้องออกจากบ้านบ้างไม่งั้นจะเป็นบ้าตาย แต่ไม่กล้าไปไหนไกล ส่วนดินเนอร์ก็เพิ่งจะมีออกช่วงหลังๆ เพราะเราติดเอาลูกเข้านอน อยากเป็นคนที่เอาเขาเข้านอนและไม่อยากจะไปไหน”
“พี่น็อตเขาก็เข้าใจนะ แต่ก็ชวนเราตลอด เผื่อเราเปลี่ยนใจไป คือพอถึงจุดหนึ่งเราจะเบาๆ ลงเอง ก็มีเริ่มออกไปบ้าง ถ้าใครมานัดก็จะนัดแถวบ้าน ยอมเห็นแก่ตัว ฉันจะไม่ยอมไปถิ่นใคร เพราะเรามีลิมิตแค่ 3 ชั่วโมงต้องกลับฐาน ส่วนเรื่องงานก็มีรับบ้าง เป็นลักษณะพรีเซ็นเตอร์บ้าง แต่ละครคงพักก่อนเพราะไม่ไหวจริงๆ สำหรับแม่ลูกอ่อน”
“เรื่องงานติดต่อน้องแฝดถ้ามีแล้วจะไปมั้ย (หัวเราะ) เดี๋ยวเราอัปเดตแล้วกัน ก็มีติดต่อมาบ้างค่ะ แต่อยู่ช่วงเจรจา จริงๆ ถ้าเป็นงานตรงนี้คุณน็อตเขาจะให้ชมดูแลและตัดสินใจ เพราะด้วยความที่เราเป็นแม่และอยู่ในวงการนี้ เราจะรู้ว่าเหมาะสมแค่ไหน เราจะรู้ว่าเด็กถ้ามาทำงานจะต้องเผชิญอะไรบ้างค่ะ”