ฉาวสนั่น อ้างเมีย - ลูกดารา “ปราปต์ปฎล” โผล่! เมียเก่าเผยตั้งใจ ไม่ใช่ความผิดพลาด “เจมส์” รับพ่อไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดู ขอเงินซื้อโต๊ะปิงปอง บอกจะโอนแล้วก็หายจ้อย บอกชีวิตความเป็นอยู่สุดลำบาก ออกมาประกาศไม่ได้เรียกร้องแค่อยากกอดสักครั้งหนึ่ง ยังขำถูกขู่จะทำให้ไม่มีที่ยืน
วงการบันเทิงมีเรื่องสะเทือนวงการอีกแล้ว เมื่อ 2 แม่ลูก คือ “นางอิณธิรา นาธาน” และ “นายติณห์ทยุต เมี้ยกลาง” หรือ “เจมส์” พร้อมด้วย “นางลำจวง ทางกลาง” ยายของเจมส์ ออกมาร้องเรียนผ่านรายการ “เจาะประเด็น” ทางช่อง 8 โดยมี “ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์” เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โดยเผยว่าตนคือภรรยาและลูกของดารามากฝีมือ อักษรย่อ ป และถูกทอดทิ้งไป 20 กว่าปี ไม่รับผิดชอบ ไม่เหลียวแลส่งเสียเลี้ยงดู แถมดารา ป ยังบล็อกเฟซบุ๊กเจมส์ตัดขาดไม่ให้ลูกติดต่อ ซึ่งในภายหลังเจมส์ได้เปิดเผยชื่อว่าพ่อของตน คือ “ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง”
แม่ : “รู้จักที่กรุงเทพฯ ทำงานด้วยกัน คบหากัน 2 ปี เริ่มตั้งแต่ 2532 หลังจากนั้นก็มีลูกด้วยกัน ไม่ใช่การผิดพลาด เราตั้งใจที่จะมีลูก แต่หลังจากคลอดได้ 15 วัน ก็กลับไปอยู่ที่โคราช เพราะต้องการหารายได้เพิ่ม ตอนนั้นเขากำลังเข้าวงการบันเทิง หลังจากนั้น เขาก็ติดต่อทางเราได้อีกแค่ 7 วัน หลังจากนั้นคุณแม่เขาเสีย เรายังไปร่วมงานศพอยู่เลย”
คุณยาย : “หลังจากที่พาไปเผาแม่เขาแล้ว เขาก็ไม่มาหาเราอีกเลย”
เผยแม่กับยายเป็นคนบอกว่าคนนี้คือพ่อ เคยคุยด้วย ขอเงินซื้อโต๊ะปิงปอง บอกจะโอนให้แต่ก็ขาดการติดต่อ
เจมส์ : “แม่กับยายเคยบอก แต่ทีแรกไม่ค่อยเชื่อ หลังจากนั้นผมเคยติดต่อกับพ่อตอน 11 ขวบ ซึ่งตอนนี้ผมอายุ 25 ย่าง 26 ที่คุยกันก็ถามว่าสบายมั้ย เขาก็ถามผมสบายดีมั้ย คุยกันสักพักก็เข้าเรื่องเลยว่าของเงินซื้อโต๊ะปิงปอง พ่อบอกว่าจะโอนเงินให้สุดท้ายก็หายไปเลย และผมก็ไม่ได้ติดต่อไปอีกเลย”
แม่ : “ที่ผ่านมาพยายามติดต่อค่ะ แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่าจะติดต่อยังไงดี เราติดต่อไปทางกองถ่าย เขาก็ไปถ่ายเรื่อยๆ ไม่รู้จะติดต่อยังไง”
เปิดใจพ่อไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดู ชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ประกาศไม่ได้เรียกร้องแค่อยากกอดสักครั้งหนึ่ง
เจมส์ : “เท่าที่รู้ไม่มีครับ ชีวิตความเป็นอยู่ของเราก็ลำบากอยู่แล้วต้องเช่าบ้านอยู่ ตั้งแต่ผมเกิดมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเลย ถามว่าผมออกมาเรียกร้องอะไร ที่ผมออกมา ผมไม่ได้อยากได้เงิน เพราะผมโตแล้ว แต่ผมอยากเจอพ่อ อยากกอด ผมโตแล้วอยากเจอพ่อสักครั้งหนึ่ง ตอนเด็กๆ ไม่เจอก็ไม่ได้คิดมาก แต่โตแล้วเราก็อยากเจอสักครั้ง”
ไม่กลัวอีกฝ่ายขู่จะไม่มีที่ยืน
ยาย : “ไม่กลัวค่ะ เพราะไม่มีอะไรเลย”
เจมส์ : “เท่าที่แม่กับยายเล่าให้ฟังก็ไม่มีเรื่องอะไรนะครับ”
แม่ : “ก่อนเขาไป 15 วันเราไม่ได้ทะเลาะกัน อยู่ๆ เขาก็หายไปเลย ไม่ได้ทะเลาะกัน ทำให้เราต้องดิ้นรนทำงานเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว พอเราโทร.ไปเขาบอกว่างานยุ่ง เราเลยไม่อยากรบกวนและทำใจแล้วว่าเราต้องดิ้นรนเอง”
ไม่ได้แต่งงาน อยากให้แสดงความรับผิดชอบในความเป็นพ่อ
แม่ : “ไม่ได้แต่งค่ะ อยู่กินกันแล้วมีน้องเลย หลังจากนั้นเขาหายไป โดยที่เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ก็เป็นไปได้ที่เขาไม่อยากเปิดเผยเพราะเข้าวงการ แต่ตอนที่เราไปงานศพแม่เขาเราก็ได้คุยอะไรกันมาก วันนั้นไปงานศพเสร็จก็กลับ ไม่ได้คุยกัน แล้วเขาก็หายไปเลย คุณยายเลยเป็นคนเลี้ยงเจมส์กับสุนัขอีก 4 ตัว”
“เรื่องติดต่อเพื่อเคลียร์ จริงๆ แม่ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกค่ะ แค่ต้องการให้เขาแสดงความรับผิดชอบความเป็นพ่อนิดหนึ่ง ว่า มีความรับผิดชอบกับลูกมั้ย เวลาลูกถามว่าทำไมพ่อไม่มาหาบ้าง แม่ก็ไม่รู้จะตอบลูกว่ายังไง เขาก็อยากจะไหว้พ่อเขา คนอื่นเขาได้ไปไหนมาไหนกับพ่อ แต่ทำไมเขาได้เห็นพ่อแค่ในทีวี พอเจอคำถามนี้บ่อยๆ ก็รู้สึกไม่ไหว ตอนแรกก็พยายามลืม แต่น้องเขาไม่ลืม เขาอยากรู้ว่าใช่พ่อเขาจริงมั้ย”
เซ็นรับรองบุตร แต่เปลี่ยนนามสกุลใช้นามสกุลคุณตา เพราะพาน้องไปอยู่ต่างประเทศ
แม่ : “มีเซ็นใบเกิดรับรองบุตรค่ะ ตอนแรกเกิดน้องใช้นามสกุลพ่อ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลคุณตา สาเหตุที่เปลี่ยนเพราะแม่จะเอาน้องไปอยู่ต่างประเทศด้วย (แม่แต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติ) ก็เลยไปฮอลลิเดย์เฉยๆ น้องเปลี่ยนนามกุลตอนอายุได้ 12 ปี”
เจมส์ : “ถามว่าทราบมั้ยว่าพ่อเป็นดารา พอ 9 ขวบแม่กับยายก็บอกว่าพ่อผมอยู่ในทีวี ผมก็คิดว่าแม่กับยายพูดเล่นรึเปล่า ยังไม่เชื่อ ถามว่ารู้สึกยังไงพอรู้ว่าเขาเป็นพ่อ ตอนนั้นมันอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกนั้น ติดต่อพ่อครั้งแรกตอน 11 ขวบเพื่อขอโต๊ะปิงปอง ผมติดต่อพ่อด้วยการโทร.ไปหาเขา เพราะมีคนเขียนเบอร์โทร.พ่อไว้ที่บ้าน ผมเลยโทร.ไป คำแรกที่คุยกับพ่อคือ นี่เจมส์นะครับ พ่อใช่พ่อเจมส์มั้ย เขาก็บอกเจมส์เหรอลูก เป็นยังไงสบายดีมั้ย แล้วเราก็คุยกัน ผมก็ขอโต๊ะปิงปองจากพ่อ แล้วพ่อก็บอกว่าจะโอนเงินให้สุดท้ายก็หายไปเลยจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้ติดต่อไปเบอร์นั้นอีกเลย”
คาดถูกบล็อกเฟซบุ๊ก โดนตัดขาดถาวร
เจมส์ : “ติดต่ออีกครั้งตอนอายุ 19 ย่าง 20 ปี ผมตามพ่อในเฟซบุ๊ก เพื่อนส่งเฟซบุ๊กพ่อมาให้ ผมเลยเข้าไปกดติดตาม ผมเองก็กดไลก์ตลอดแต่ไม่เคยอินบ๊อกเข้าไปคุย แต่ไม่ถึงปีผมก็ไม่ได้สังเกตว่าเฟซบุ๊กพ่อหายไปตอนไหน เพิ่งมาสังเกตว่าไม่เห็นเฟซบุ๊กพ่อแล้ว (เราคิดว่าพอพ่อรู้ว่าเป็นเฟซบุ๊กเราเขาเลยบล็อก?) ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่รู้ว่าโดนบล็อกไปแล้ว”
“ถ้าคิดว่าโดนตัดขาด ผมคิดตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ผมโตแล้วผมแค่อยากเจอพ่อ ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว ถ้าตอนเด็กผมคิดว่าผมยังต้องการเงิน แต่ตอนนี้ผมโตแล้วหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ที่ออกมาแค่อยากเจอ เพราะวันพ่อผมก็ไม่เคยได้เจอพ่อ”
แม่ : “ถามว่าทำไมเพิ่งมาตอนลูกอายุ 25 - 26 เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ มาอยู่ถาวรเมื่อ 3 - 4 ปีที่ผ่าน มา พอดีติดต่อทางเพื่อน เพื่อนแนะนำว่าให้ลองมาออกรายการ เพื่อลูกได้เจอกับพ่อ เพื่อนก็สงสารเห็นว่าเป็นแม่ด้วยกัน เพราะลูกถามแต่ว่าพ่ออยู่ไหน ยายก็จะบอกไปหาดูในทีวี และก็ต้องไปออกรายการจะได้รู้ว่าพ่อคือคนไหน เขาอยากเห็นหน้าสดๆ ตัวเป็นๆ สงสารลูก บางทีลูกนั่งเหม่อเมื่อตอนเป็นเด็ก นั่งเหม่อ ก็ไม่รู้ว่าเหม่อเพราะอะไร เจตนาอยากให้เขามาแสดงตัวว่าเป็นพ่อ”
ไม่คาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับ
แม่ : “แล้วแต่น้องเขา เพราะคุณแม่แค่อยากให้เขามาเห็นว่านี่คือลูกนะ ไม่คาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับ ตอนนี้คือทำหน้าที่ของแม่ ต่อจากนี้ก็แล้วแต่ว่าเขาจะติดต่อลูกหรือไม่”
เฉยๆ ถูกขู่ไม่มีที่ยืน บอกไม่มีที่ยืน นั่งก็ได้ค่ะ
แม่ : “เฉยๆ ค่ะ ไม่มีที่ยืนหมายความว่ายังไง ไม่มีที่ยืนนั่งก็ได้ค่ะ แค่เราเลี้ยงลูกมาก็ว่าเยอะแล้วนะคะ ทำไมถึงยังไม่มีที่ยืนอีก”
เจมส์ : “ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกันตอนแรก ผมก็ไม่อยากถามแม่มาก ผมก็คิดอยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี”
ยาย : “นิสัยคนมันเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไร ยายไม่มีอะไร”
เจมส์ : “ถามว่าถอดใจมั้ย ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก ถามว่ายังอยากเจอมั้ย ผมตั้งใจมากผมอยากเจอครับ ถามว่าถ้าเจอแล้วจะทำยังไง ผมยังไม่ทราบครับ ต้องเจอก่อน ตั้งแต่ลืมตาแบเบาะมาผมไม่เคยเจอพ่อสักครั้ง ผมไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง ยังไงผมก็เป็นลูก ถ้าพ่อจะเจอก็ยินดีครับ ถ้าไม่เจอก็ได้ครับ ยอมรับได้ ยอมรับมา 20 กว่าปีแล้วแต่ถามว่าเสียใจมั้ยมันเสียใจอยู่แล้วครับ ไม่มีใครไม่เสียใจหรอก”
มีรูปถ่ายเป็นหลักฐาน เอกสารใบเกิด
แม่ : “มีรูปถ่ายที่เราไปเที่ยวกาญจนบุรีกับเพื่อนๆ กันช่วงท้องได้ 7 เดือน มีรูปที่เขาบวช เอกสารใบเกิด และเอกสารเปลี่ยนชื่อลูกที่เขาเป็นคนเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบัน ในเอกสารมีชื่อของเขาอย่างชัดเจน แต่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ทางครอบครัวเขาก็รู้ว่าเขามีลูกเพราะเราไปงานศพแม่เขา”
แม่ : “ถามว่าทางบ้านเขายอมรับมั้ย ตอนเด็กๆ เขาก็อุ้มหลานนะ เราเองในฐานะแม่เราแค่อยากให้ลูกรู้ว่าใครคือพ่อที่แท้จริง ต่อจากนั้นลูกจะทำยังไงก็แล้วแต่เขา”
บอกเรียนจบแค่ ม.ต้น อ้างไม่มีเงิน ตอนนี้ไม่ได้ทำงาน พูดชัดพ่อชื่อปราบต์ปฎล
เจมส์ : “ครับ เพราะอาจจะมีเกเรบ้างตามภาษาวัยรุ่น รวมทั้งเรื่องรายได้ของทางบ้านก็ไม่มีเงินด้วย ผมเองตอนนี้ไม่ได้ทำงาน อยู่เฉยๆ ครับ”
แม่ : “ออกมาครั้งนี้ ก็อยากให้กระทบให้น้อยที่สุด ไม่ทราบจะทำยังไง หนักอกเหมือนกัน ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเลยออกมาให้สื่อมวลชนช่วย”
เจมส์ : “ถามว่าอยากบอกอะไรกับเขา จะบอกอะไรได้ บอกได้แค่รักพ่อครับ ผมคิดถึงพ่อ ผมอยากเจอพ่อ ผมมาหาพ่อแล้ว พ่อมาผมได้มั้ย พ่อชื่อ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ครับ”
...
“ปราปต์” เคลื่อนไหวแล้วหลังถูกแฉทิ้งเมีย-ทิ้งลูก)