น่าสนใจไม่น้อยสำหรับบทสัมภาษณ์ของนักแสดงหญิง “พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์” กับทาง THE STANDARD หลังเจ้าตัวกลับมารับงานภาพยนตร์ใน “ไม่มีสมุยสำหรับเธอ” (Samui Song) ของผู้กำกับ “ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง” อันเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของทั้งคู่นับตั้งแต่ Last Life in the Universe เมื่อ 15 ปีก่อน
นอกจากมุมมองทัศนะต่างๆ ที่เกี่ยวกับบทบาท “วิยะดา” ที่ได้รับจากภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ประเด็นหนึ่งที่นักแสดงวัย 35 ได้มีโอกาสพูดคุยก็คือเรื่องราวความรู้สึกระหว่างที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะปรากฏเป็นข่าวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่นเอง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2557 สาวพลอยได้ตกเป็นข่าวใหญ่ หลังเธอได้จับแขนนักข่าวคนหนึ่งพร้อมพยายามดึงมาสอบถามว่าได้แหล่งข่าวมาจากไหน? หลังนักข่าวจี้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เธอโพสต์ภาพนิ้วกลางจิ้มเค้กพร้อมข้อความข้อความหนึ่งว่าต้องการจะสื่อถึงไฮโซคนหนึ่งอยู่หรือไม่?
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สื่อบางสื่อได้ประกาศขอแบนเธอในเวลาต่อมา...
“มีหลายคนด่าพลอยนะ แต่พลอยไม่โต้ตอบเลย ตอนนั้นบางทีรู้สึกนะคะว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วยังมากระทืบกันอีก ตั้งแต่มีข่าวว่าทุกคนจะแบนพลอย โฆษณาก็เลยโดนถอด เพราะคิดว่าพลอยจะไม่มีงานจริงๆ คิดว่าพลอยเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ถอดหมด พอพลอยเงียบก็มีคนมาด่าพลอยอีก เขียนอีกว่าพลอยเป็นฮิสทีเรียถึงได้อารมณ์รุนแรงโน่นนี่นั่น พลอยก็เสียใจนะ”
“แต่พลอยก็คิดว่ามันคือช่วงเวลาหนึ่งแหละที่ถ้าเราผ่านไปได้ เราจะเป็นคนเก่งขึ้น ท่องไว้แบบนี้อย่างเดียวเลย “ผ่านไปได้เธอจะเก่ง ผ่านไปได้เธอจะเก่ง” ใช้ชีวิตแบบเรียบๆ สบายดี ทำงานเป็นปกติ มีงานมาก็ทำ รอจังหวะที่มันใช่จริงๆ”
รับป่วยเป็นโรคซึมเศร้า!
“จริงๆ แล้ว…พลอยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ พลอยเคยป่วยเป็นแบบนี้ตอนอายุ 19 รุนแรงเหมือนกัน แล้วก็หายไป พลอยเพิ่งกลับมาเป็นอีกครั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วตั้งแต่เริ่มโดนแบน ทรมานเหมือนกัน แต่เราคิดว่าเราจะพยายามรักษาตัวเองให้ได้ ถ้าล้มก็ต้องยืนขึ้นมาให้ได้ ยืนไม่ไหวก็ต้องคลาน คลานไปที่ใดที่หนึ่ง หาอะไรเกาะ แล้วดึงตัวเองขึ้นมาให้ได้ นี่คือวิธีการที่พลอยสู้กับตัวเอง”
“นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่พลอยรักษาตัวเองด้วยการไม่ให้สัมภาษณ์อะไรเลย พลอยกลัว กลัวมาก ต่อให้พลอยพูดความจริงก็ไม่ดี ไม่พูดความจริงเลยก็ไม่ดี จริงใจมากก็ไม่ดีกับตัวเอง เหมือนทุกอย่างมันวกกลับมาแล้วทิ่มแทงตัวเองหมด พลอยโดนมีดแทง 10 เล่ม 20 เล่ม พลอยทนนะ พลอยทนจริงๆ แต่พอเริ่มมีดเล่มที่ 21-22 พลอยแค่ร้องโอ๊ยขึ้นมาบ้างก็ถูกมองว่าเป็นตัวร้าย มองเราเป็นลบ พลอยคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้น เราออกมาก่อนดีกว่า”
ในบทสัมภาษณ์นักแสดงหญิงระบุว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ มาได้ก็คือ...
“หาหมอ แล้วก็อยู่เฉยๆ ที่ต้องกลับไปหาหมอครั้งล่าสุดเพราะอยู่คนเดียวมากเกินไป พยายามแก้ไขด้วยตัวเองจนกลายเป็นความเก็บกดสะสม แล้วมันทรมาน มันทำให้พลอยจมอยู่ในความทุกข์แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด กลัวข้างนอก กลัวคน ออกไปเดินห้างแล้วแพนิก ตัวสั่น แล้วก็กลัว ร้องไห้ อยากกลับบ้าน”
“ก็เลยพยายามรักษาตัวเองด้วยการอยู่บ้าน ดูหนัง ออกกำลังกาย หากิจกรรมทำ อ่านหนังสือ ทำบุญ ชอบทำบุญ แต่ไม่ชอบลงอินสตาแกรมว่าตัวเองทำบุญหรอก ทำเสื้อผ้ากับเพื่อน ทำชุดว่ายน้ำ ทำกระเป๋า ฯลฯ เราพยายามมีกิจกรรมให้ตัวเองทำตลอดเวลา แต่ของบางอย่างคงต้องให้หมอรักษาจริงๆ (หัวเราะ)”
“ตอนนี้พลอยใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ก็ต้องจัดการกับชีวิตตัวเองให้มากขึ้น เพราะหลังจากสูญเสียคุณยายไปแล้ว พลอยค่อนข้างจมดิ่งมากเลยค่ะช่วงนี้ (ยิ้ม) ไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้”
ในตอนท้ายของบทสัมภาษณ์นักแสดงหญิงที่เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 12 ยังบอกด้วยว่าอาชีพนักแสดงเป็นสิ่งที่ตนรักมากและทำได้ดีที่สุด แต่กระนั้นตนคิดว่าอีกสัก 5 ปีก็คงจะพอแล้ว
“พลอยสามารถพูดได้ว่านักแสดงเป็นอาชีพเดียวที่พลอยทำได้ดีที่สุด รองลงมาคือธุรกิจส่วนตัว กับการได้ทำอะไรใหม่ๆ อย่างดีไซน์เสื้อผ้า พลอยว่าเท่านี้ก็โอเค พลอยก็ไม่เป็นขยะแล้วล่ะ ได้ทำประโยชน์บ้าง ได้ดูแลแม่ให้มีความสุข ชีวิตที่เหลือนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไร พลอยกะว่าอีกสัก 5 ปีพลอยจะพอแล้ว พลอยกะว่าจะรีโนเวตอพาร์ตเมนต์คุณแม่แล้วก็เก็บค่าเช่า แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว”
...
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ โดนแบน ซึมเศร้า รักแท้ รีไทร์ และอีกหลายเรื่องที่ พลอย เฌอมาลย์ พูดเป็นครั้งแรก