“มาเรีย โอซาวา” อดีตนักแสดงหนังผู้ใหญ่ชื่อดังออกมาโพสต์โวยแท็กซีฟิลิปปินส์ ถึงความไม่เป็นมืออาชีพ หลังเจอชายหนุ่มลึกลับโทรมาหยอด ก่อนรู้ว่า แท็กซีเป็นผู้แจกเบอร์โทรศัพท์ให้
มาเรีย โอซาวา ได้โพสต์ระบายลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับแชร์ภาพหน้าจอที่เธอแคปบทสนทนาระหว่างเธอกับหนุ่มนิรนาม โดยชายหนุ่มรายนี้ใช้ชื่อว่า “เบ็น” ได้ส่งข้อความมาถามเรื่องส่วนตัวของมาเรีย พร้อมยอมรับว่า เขาได้เบอร์โทรศัพท์ของมาเรีย มาจากคนขับอูเบอร์
จากนั้น มาเรีย โอซาวา ก็ได้ลบภาพดังกล่าวออก พร้อมกับเขียนข้อความแสดงความอัดอั้น โดยระบุว่า “พนักงานของอูเบอร์ฟิลิปปินส์ โทรมาหาฉัน แล้วบอกว่าจะจัดการแท็กซีคนที่ปล่อยเบอร์ฉันออกไปให้ แล้วเขาก็รู้แล้วว่า ผู้ชายที่ส่งข้อความมาหาฉันก็คือ คนขับอูเบอร์ที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว! เขามาขอโทษ แล้วบอกว่า เขาได้เบอร์โทรฉันมาจากอดีตคนขับแท็กซีอูเบอร์ ไม่อยากจะเชื่อเลย ส่วนทีมงานก็บอกว่า เขาจะจัดการและดำเนินการอย่างเด็ดขาดให้...แล้วพวกเขาก็ต้องการให้ฉันลบโพสต์ ตอนนี้ฉันจะลบให้ แต่ถ้าฉันใช้อูเบอร์อีกครั้งเมื่อไหร่ (ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีครั้งต่อไปอีกแล้ว) แล้วมันยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ฉันจะฟ้องเขา และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแน่นอน ถ้าได้ลงทะเบียนหรือทำงานในฐานะคนขับมืออาชีพแล้ว พวกเขาก็ไม่ควรที่จะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาใส่ในงาน บางทีมันอาจจะยากที่ต้องสอนทุกคนแต่อย่างน้อยที่ญี่ปุ่น เราก็ถูกสอนกันมาแบบนี้ในโลกของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาต้องรับมือกับเรื่องส่วนตัวของลูกค้า”
มาเรีย ยังอธิบายด้วยว่า ตามปกติแล้ว เวลาที่เธอเรียกใช้บริการรถสาธารณะแบบเครือข่ายออนไลน์ เธอมักจะไม่ใช้ชื่อจริง แต่ก็ยังมิวายถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวออกไปจนได้
ตอนนี้ มาเรีย ที่กำลังทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ฟิลิปปินส์ ก็ได้แต่กล่าวว่า “ฉันรักฟิลิปปินส์นะคะ แต่ทำไมฉันถึงไม่สามารถไว้ใจประเทศนี้ได้อีกต่อไป ? ทำไมผู้คนที่นี่ถึงไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย ?”
ส่วนชาวเน็ตก็ได้มาแสดงความเห็นอย่างมากมาย โดยเฉพาะคนฟิลิปปินส์ ที่บางส่วนก็เห็นด้วยกับมาเรีย พร้อมระบายว่าเคยโดนเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน ขณะที่บางคนก็แนะนำให้เธอพรางตัว ซึ่งเธอก็ยืนยันว่า เธอทำตลอด
“แน่นอนค่ะ ฉันสวมแว่นตาแล้วก็เปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ บางครั้งฉันสวมหมวกด้วย ปัญหามันอยู่ที่ว่า พอเป็นเรื่องแบบนี้ คนที่ประเทศนี้กลับไม่เป็นมืออาชีพเลย เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ ที่ญี่ปุ่น ไม่มีทางเกิดขึ้นเลย !”
งานนี้ชาวฟิลิปปินส์บางส่วนก็ถึงขั้นไม่พอใจกล่าวกับเธอว่า ถ้าไม่พอใจก็ขอให้เธอกลับญี่ปุ่นไปซะ! พร้อมระบุว่า อย่างน้อยเธอควรมีเซนส์หน่อยว่าควรจะใช้เบอร์อื่นที่ไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวในการติดต่อ
