จบแบบหล่อๆ “มาริโอ้” ขอโทษแท็กซี่หัวร้อนยิงหนังสติ๊กใส่รถหรูกระจกแตก จ่ายค่าปรับอีก 1 พัน ยอมรับตกใจแต่คุมสติ ไม่อยากทำร้ายใคร โอดรถคันเกิดเหตุยืมผู้ใหญ่ที่รู้จักมาขับ ต้องจ่ายค่าซ่อมเอง เพราะอีกฝ่ายจ่ายค่าซ่อมไม่ไหว
ซวยรับต้นปี หลังจากที่มีเรื่องกับแท็กซี่หัวร้อน ขับรถปาดหน้ากันไปมา จนคู่กรณียิงหนังสติ๊กใส่รถ “มาริโอ้ เมาเร่อ” กระจกแตก ต้องไปเคลียร์กันที่โรงพัก แถมต้องจ่ายค่าปรับอีกต่างหาก แม้จะจบสวยเพราะต่างฝ่ายต่างขอโทษขอโพย แต่หนุ่มโอ้ก็เผยว่า เพราะรถหรูเป็นรถของผู้ใหญ่ที่รู้จัก ทำให้ตนต้องจ่ายค่าซ่อมเอง เชื่อคู่กรณีคงรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ไหว จบไปแบบหล่อๆ
“ผมก็ไม่อยากจะพูดย้อนไปมาก แต่ว่าก็คือมีปัญหามีปากเสียง โอ้เองก็ยอมรับว่าใจร้อนด้วย ที่มีการขับรถหวาดเสียว ซึ่งโอ้เองก็ขอโทษพี่เขาแล้วพี่เขาก็ขอโทษโอ้ แล้วโอ้ก็ให้อภัยครับ เรื่องของค่าใช้จ่าย โอ้ก็บอกว่าไม่เป็นไรขอรับผิดชอบเอง ขอให้ทุกอย่างจบไปดีกว่า เราก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่อง พี่เขาก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่อง คือเหตุการณ์มันเหมือนมีปากมีเสียงกันนั้นแหละครับ สุดท้ายแล้วก็มีการที่พี่เขายิงกระจก ยอมรับว่าตกใจแต่ว่าก็เข้าไปคุยกับพี่เขาดีๆ ว่าพี่ทำแบบนี้ได้ยังไง เราก็บอกพี่ๆ ตำรวจตรงนั้น”
“ตอนเขาใช้หนังสติ๊กยิงก็ค่อนข้างรุนแรงนะครับ มันก็คือตอนพี่เขายิงคงแรงพอสมควร ก็เข้ามาตรงหน้าเลยครับ คือสติก็ตกใจเหมือนกันนะครับ รถกระจกแตก ก็เลยเข้าไปหาพี่เขา เราก็ไม่คิดว่ามันจะต้องใหญ่โต ก็คิดว่ามันเป็นการทะเลาะกันบนถนน แต่ว่ามันเป็นเรื่องเป็นราวมันก็ห้ามไม่ได้ ส่วนคดีก็จบแล้วครับ ไม่มีอะไรครับ ตำรวจเขาให้โอ้เสียค่าปรับ เพราะว่าต่างคนเขาต่างขับรถประมาท เสียค่าปรับทั้งคู่ในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย เราก็ให้อภัยพี่เขา บอกพี่เขาว่าไม่เป็นไร”
ชี้คู่กรณีต้องชดใช้ค่าเสียหาย แต่คุยกับผู้ใหญ่ บอกให้อภัย เพราะคงรับผิดชอบไม่ไหวเรื่องซ่อม
“จริงๆ ตามหลักแล้วพี่เขาต้องชดใช้ในสิ่งที่พี่เขาทำเสียหายนะครับ แต่โอ้คุยกับผู้ใหญ่เขาบอกว่าให้โอ้ให้อภัย อย่าไปถือโทษโกรธเขาเลย พี่เขาคงรับผิดชอบไม่ไหวในการซ่อม โอ้ก็บอกว่าไม่เป็นไร เราดูแลเอง โอ้ก็เข้าใจว่าพี่เขายอมรับว่าเขาอารมณ์ร้อน เขายกมือไหว้ขอโทษโอ้ โอ้ก็ยกมือไหว้ขอโทษเขา ส่วนรถคันเกิดเหตุโอ้ยืมผู้ใหญ่ที่รู้จักมาครับ โอ้ก็ต้องรับผิดชอบค่ากระจก ก็ต้องสั่งมา โอ้ก็ต้องชดให้เขา”
ตกใจแต่คุมสติ จะไม่ทำร้ายใคร
“เอาจริงๆ ตอนเกิดเรื่องตื่นเต้น ตกใจ แต่ว่าโอ้ก็คุมสติ ยังไงก็ไม่ทำร้ายพี่เขา ซึ่งพี่เขาก็ไม่ทำร้ายอะไรโอ้นอกจากนั้นแล้ว ก็คือออกมาคุยแล้วก็พี่ก็บอกว่าจริงๆ จะเคลียร์กันตรงกัน ไม่ได้จะไปโรงพัก เขายิงก็อารมณ์ด้วยนะครับ ต่างคนต่างโกรธกัน เราไม่ขอพูดแล้วกันว่าใครปาดใคร จบไปแล้ว แต่ว่าผมสุดท้ายมีการทำร้ายทรัพย์สินกัน โอ้ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต แต่ว่ามีคนหนึ่งไลฟ์สด ถ้าเห็นโอ้จะบอกว่าพี่อย่าไลฟ์ได้มั้ย เราไม่อยากมีปัญหา คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราเคลียร์กันได้ ไม่ใหญ่โต แต่ว่าสุดท้ายต่างคนต่างโดน 1,000 บาท”
เปิดใจขับรถระวัง แต่มันก็ห้ามที่จะเกิดเรื่องไม่ได้
“ผมว่าก็ระวัง เราเองก็ไม่เคยมีเรื่องราวอะไรแบบนี้ มันก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเราเองก็ทำได้เพียงใจเย็นแล้วคุยกับพี่เขาดีๆ จริงๆ เขาก็เคยมีอุบัติเหตุทั่วไป”
เป็นเกียรติเดินแบบที่มิลานครั้งที่ 2 บอกกว่าจะไปเดินได้ถึงจุดนี้ ต้องสั่งสมชื่อเสียงพอสมควร ถึงจะแฟนคลับฟิลิปปินส์-จีน แต่ทางยุโรปไม่รู้จัก
“ก็เป็นครั้งที่ 2 ครับที่โอ้ได้ไปเดิน ก็ขอบคุณมากๆ ครับที่ทาง GQ พาไปด้วยครับ เขาเลือกตามโปรไฟล์ ซึ่งโอ้เองก็เคยร่วมงานกับเขาแล้ว ก็พอรู้จัก เขาก็เลือกเราไปร่วมงานอีกครั้งหนึ่ง ก็ตื่นเต้นครับ กลัวจะตกเวทีกลัวจะลื่น ก็ต้องควบคุมสติให้ดีครับ มันต่างกับเดินแบบปกติเยอะครับ เราเพราะปกติเดินแบบเตรียมตัวประมาณ 2 ชั่วโมง แต่อันนี้เตรียมตัวกัน 5 ชั่วโมงกว่าจะได้เดิน เจ้าของแบรนด์เขาจะเดินจัดให้ทุกคนเลยก็ต้องใช้เวลา แต่ตอนเดินแค่ 10 วินาทีเอง”
“เรื่องสานต่องานอินเตอร์ คงเป็นที่รู้จักมากขึ้นครับ มีแฟนคลับฟิลิปปินส์ แฟนคลับจีน แต่ทางยุโรปเขาก็คงไม่ได้รู้จักเรา เขาก็งงๆ แต่เราก็มองว่าเรามีโอกาสที่ดีที่เราได้ไปทำงานต่างประเทศ ได้เดินให้แบรนด์ระดับโลก ได้เดินรันเวย์ที่มิลาน สำหรับโอ้ก็เป็นเกียรติมากๆ ครับ ก็ถ้าเขาเรียกไปอีกก็ไปครับ ถามว่าอยากไปเปิดโอกาสที่โน่นมั้ย คือมันเป็นโอกาสมากกว่าครับ ถ้ามีโอกาสมาเราก็รับครับ กว่าจะได้ขนาดนี้เราก็ต้องมีโปรไฟล์ ผ่านหนังผ่านอะไรมา ต้องมีชื่อเสียงพอประมาณ เขาดูแลเราดีมากครับ ไม่ใช่แค่โอ้ กับทุกคนเขาก็ดูแลเท่ากันหมดครับ”