“เวียร์ ศุกลวัฒน์” ปลื้มที่สุด บทเกย์พาเฮง ถูกเสนอชื่อเข้าชิงดารานำชาย เอเชียน ฟิล์ม อวอร์ด ครั้งที่ 12 เทียบระดับซูเปอร์ตาร์แห่งเอเชีย รับเป็นเกียรติประวัติครั้งหนึ่งในชีวิต แฮปปี้นัดสังสรรค์ “แม่เบลล่า” อีกฝ่ายรักเหมือนลูกชายเพราะเข้าตามตรอก ออกตามประตู
แม้จะเล่นหนังแค่ไม่กี่เรื่อง แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าความสามารถในการแสดงของพระเอกหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” นั้นเต็มเปี่ยมขนาดไหน เพราะหนังเรื่องล่าสุด มะลิลา ก็สามารถส่งเจ้าตัวเข้าชิงรางวัลดารานำชาย ในงานประกาศรางวัล เอเชียน ฟิล์ม อวอร์ด ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นเวทีที่เทียบชั้นรางวัลออสการ์ฝั่งเอเชีย ที่มาเก๊า ซึ่งเจอหนุ่มเวียร์ในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ ณ G Village Bangkok ลาดพร้าว เจ้าตัวก็เผยว่าตนต้องเวิร์กช็อปหนักมากกับเรื่องนี้ และดีใจที่ประสบความสำเร็จ
“ตอนแรกที่รู้ก็คือจากผู้กำกับไลน์มาบอกว่ามีข่าวดีมาบอก เขาบอกว่าภาพยนตร์ของเราได้เข้าชิง 2 สาขานะ จัดขึ้นที่มาเก๊าครับ เขาบอกเวียร์ได้เข้าชิง คือ จริงๆ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ เพราะมันเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่ผมเล่นนะครับ ไม่เกิน 5 เรื่องครับ เราก็ใช้ความพยายาม เวิร์กชอปค่อนข้างเยอะ เพื่อที่จะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดีที่สุด ก็อาจจะเพราะเราฝึกฝนเยอะ ผลที่ออกมามันก็ต้องดีล่ะวะ ถูกมั้ยครับ เราก็เต็มที่ของเราล่ะ ทุกคนก็เต็มที่ของเขา เรารู้ว่ามันต้องดีในทุกๆ ส่วน และมันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ทุกส่วนประกอบกัน มันก็เลยดี ไม่ใช่ว่าผมดีแล้วจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดี คือทุกอย่างตั้งแต่บท ผู้กำกับ ทีมงานทุกคนให้ความสำคัญกับหนังนอกกระแสเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเราทำด้วยใจ”
ปลื้มสุดๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตเข้าชิงดารานำชาย เทียบระดับซูเปอร์สตาร์แห่งเอเชีย
“พอเราได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมา เราได้รับรางวัลจากอีกหลายๆ ประเทศที่เราไปร่วมในเทศกาล ก็เป็นตัวการันตีว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำมันก็เกิดผลโว้ย (ยิ้ม) พอมาล่าสุดนี่ยิ่งดีใจ จริงๆ เราเคยมีดาราไทยหลายๆ ท่านได้เข้าชิงในสาขาสมทบ แต่นี่มันคือครั้งแรกที่ได้เข้าชิงนำชาย ก็ดีใจ มีดาราระดับซูเปอร์สตาร์ได้เข้าชิงหลายคน ผมแค่ได้มีชื่อเข้าชิงและเขาได้ดูภาพยนตร์ของเรา ผมก็ดีใจแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิต มันเป็นอีกโลกหนึ่งของผม ผมอยู่ในโลกละครมา ผมก็จะมีความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง แต่พอผมมาเจอโลกของภาพยนตร์ ซึ่งคือโลกใหม่ของผม แต่มันคือสายงานแสดงเหมือนกัน โลกนี้มันก็น่าสนุก ตื่นเต้น ได้เจอสังคมใหม่ๆ เลยรู้สึกดีที่ตัดสินใจเล่นครับ”
“ก็จะไปร่วมงานวันที่ 17 มีนาคมครับ ก็คิดว่าประกาศผลวันนั้นเลย ผมก็ไป แต่ไม่ได้คาดหวัง เพราะนักแสดงส่วนใหญ่ที่เข้าชิงด้วยเขาเป็นนักแสดงที่มากฝีมือและเก่งกันทุกๆ คน ก็คงไปด้วยกันกับผู้กำกับ และอาจจะมีโปรดิวเซอร์หรือผู้อำนวยการสร้างไปด้วยกัน เรียกว่าโกอินเตอร์มั้ยเหรอ เรียกว่าเป็นอีกโปรเจกต์หนึ่งครับที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวผม ทีมงานและประเทศไทย สำหรับในอนาคตมันจะไปถึงขั้นไหนผมก็ต้องเตรียมพร้อมตัวเอง แต่ยังไงก็ตามเราก็ยังเป็นนักแสดงของช่อง 7 อยู่ เราก็ต้องทำงานเต็มที่ของเราต่อไป แต่ถ้ามีโปรเจกต์ที่มันดี น่าสนใจ ถ้าช่องโอเคเราโอเคกับงาน ผมว่ายังไงผู้ใหญ่ก็อนุญาตอยู่แล้ว เพราะมันเป็นการสร้างชื่อเสียงของโปรดักส์ของเขาก็คือผม”
“เรียกว่าเป็นปีของผมมั้ย ผมโชคดีที่โอกาสเข้ามาเรื่อยๆ มากกว่าครับ คือไม่ใช่ว่าเราเก่งหรืออะไร แต่เราพยายามที่จะคว้ามันไว้ก่อน แล้วทำตัวเองให้ดี อย่างภาพยนตร์เรื่องนี้เราก็ตัดสินใจว่าเราต้องเล่นเรื่องนี้ เหมือนเราโตขึ้นด้วยครับ และคนรอบข้างเรามีแต่คนดีๆ ครับ”
เผยก้าวข้ามเส้นของตัวเอง เพราะรับบทเกย์ครั้งแรก
“เรื่องเลิฟซีนคือเราเอาความรู้สึก ธรรมชาติของมนุษย์ที่รักกัน พอมันออกมาผมว่ามันดูจริง ไม่เฟก ดูเหมือนผู้หญิงกับผู้ชาย ซึ่งผมก็ไม่รู้นะว่าผู้ชายกับผู้ชายต้องขนาดไหน ก็มีเวิร์กช็อปครับ แต่ไม่ได้เวิร์กช็อปฉากนั้นนะ แต่เป็นฉากก่อนนั้น คือพิชกับเชนมันเป็นคนรักกัน เป็นแฟนกัน พิชคือผู้ชายคนเดียวที่เชนรัก แล้วเขาก็ไม่ได้ไปรักผู้ชายมั่วนะ เขารักผู้ชายคนนี้มาก”
“ก็ถือว่าก้าวข้ามขีดของตัวเองไปอีกขั้น ผมว่ามันก็สนุกครับ คงเป็นอีกความท้าทายที่เรามีโอกาสได้เล่น และพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ผมไม่รู้นะว่าผมทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องให้คุณผู้ชมเข้าไปดู เวอร์ชั่นของไทยกับเมืองนอกก็ 18+ เหมือนกันครับ ถ้าคนจะมองว่าเล่นหนังเกย์ ผมว่ามันต้องเป็นภาพที่ดี คนต้องมองในมุมที่ดีมากกว่า เพราะเกย์ก็เท่าเทียมเรา และอยากรู้ว่าพอเวียร์มารับบทเป็นเกย์จะทำได้ดีแค่ไหน มันไม่ได้เป็นภาพลักษณ์ว่าเวียร์ต้องเป็นเกย์ คือทุกเพศทุกวัยมันมีความสวยงามแตกต่างกันไป ผู้ชายสวยงามแบบหนึ่ง ผู้หญิงสวยงามแบบหนึ่ง เกย์หรือกะเทยก็สวยงามอีกแบบหนึ่ง ผมไม่เคยบอกว่าผมเป็นผู้ชายแล้วจะดีกว่าคนที่เป็นเกย์หรือผู้หญิง เพราะเราเท่าเทียมกัน”
“เบลล่า ราณี” ไม่แซว แต่อยากรู้ว่าตนจะพัฒนาไปถึงขั้นไหน
“เบลล่าไม่แซวเลยครับ เขาบอกว่าเขาอยากรู้ว่าพี่เวียร์พัฒนาไปถึงไหน เพราะการแสดงแบบนี้มันต้องเวิร์กช็อปนะ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปเล่นได้ ผมเวิร์กช็อปเยอะมาก ผมก็เล่าให้เขาฟังว่าเล่นกับพี่โอ อนุชิต เพราะน้องก็เคยร่วมงานกับพี่โอแล้ว ผมก็บอกว่าสนุก เธอต้องไปดู ต้องกรี๊ดแน่นอน เขาบอกว่าต้องมาดูให้ได้ตั้งแต่บอกว่าผมเล่นแล้ว”
แฮปปี้เมื่อช่วงปีใหม่ได้ไปทานข้าวกับคุณแม่เบลล่า บอกรักเหมือนตนเป็นลูกชาย
"ก็ตามที่บอกไว้ว่าจะไปครับ เราก็หาเวลาจนลงตัวว่าเราว่างตรงกันพอดี ก็ไปทานข้าวกัน บรรยากาศดีครับ อาหารก็ถูกปาก คุณแม่ก็ไม่ได้ฝากฝังอะไร คุณแม่เป็นคนเลือกอาหารครับ อยากกินอกเป็ด ก็ให้น้องช่วยหาให้ เลยได้ไปนั่งทานกัน ก็คุยกันปกติเลยครับ เหมือนผมเป็นลูกชาย ก็ถามว่างานเหนื่อยมั้ย เป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้ถ่ายละครหรือเปล่า ก็ถามเรื่องสุขภาพทั่วๆ เจอกันบ่อยครับ ผมเข้าตามตรอกออกตามประตูครับ (ยิ้ม) ยังไงผู้ใหญ่ต้องเห็นตลอด”