วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดใหญ่ฉลอง 10 ปี “เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ”(TIJC) ระหว่างวันที่ 26-28 ม.ค. 61 ที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยงานปีนี้ชูไฮไลท์เด็ด วงซุปเปอร์ กรุ๊ป - Will Vinson ที่ได้รับฉายาว่า “วงรวมเทวดา” นอกจากนี้ก็ยังมีวงดนตรีแจ๊สมากฝีมือทั้งจากต่างชาติและเมืองไทยมาร่วมแสดงตลาด 3 วัน การแสดงของวงบิ๊กแบนด์หลากหลายทั้งไทยและเทศ การนำบทเพลง “น้อยใจยา”และ“เสเลเมา” ของจรัล มโนเพ็ชร มาสำเสนอใหม่ในรูปแบบแจ๊สออร์เคสตร้า รวมถึงกิจกรรมด้านการศึกษา การแข่งขันแสดงเดี่ยวดนตรีแจ๊ส และ ค่ายดนตรี สำหรับคอเพลงแจ๊ส และผู้รักในเสียงดนตรี ไม่ควรพลาด
ประกาศศักดาทางดนตรีแจ๊สให้แฟนเพลงทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้รับรู้ จนก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 แล้วสำหรับ โครงการเทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ เพื่อการเรียนรู้ Thailand International Jazz Conference (TIJC) ซึ่งจัดขึ้นโดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยในปีนี้ เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 10 หรือ TIJC 2018 จะจัดขึ้นในวันที่ 26-28 มกราคม 2561 ประกอบด้วยกิจกรรมหลักๆ 4 ส่วน ได้แก่ การแสดงดนตรีแจ๊ส (Jazz Music Performance) กิจกรรมด้านการศึกษา(Jazz Education Activities) การแข่งขันแสดงเดี่ยวดนตรีแจ๊ส (Jazz Solo Competition) และ ค่ายดนตรีแจ๊ส (Jazz Camp)
ดร. ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า งาน TIJC สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้ถึงการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ได้เป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่มีการจัดงานนี้มา ได้เกิดกระแสตื่นตัวกับสังคม และให้ความสำคัญกับดนตรี Jazz เป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆนักดนตรีใหม่ๆ ให้กับวงการดนตรี Jazz ทั้งในประเทศไทย และของโลกด้วย เป็นการขับเคลื่อนทางด้านดนตรี โดยอาศัยการศึกษาเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแวดวงดนตรีและสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้เราจะสามารถสร้างวงดนตรีระดับนานาชาติที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
“เทศกาลนี้เป็นการร่วมมือระหว่างชุมชนคนรักดนตรี Jazz จากทุกๆสถาบันทั่วประเทศ รวมไปถึงนักดนตรีจากต่างประเทศที่ให้ความร่วมมือในการเข้ามาแสดง ร่วมจัด workshop และ master class เพื่อการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนของวงการดนตรีแจ๊สในประเทศไทย ทุกคนเข้าใจและให้ความสำคัญ และถือว่าเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงาน และมองเรื่องค่าตอบแทนเป็นเรื่องรอง การจัดงานในแต่ละครั้งเราไม่เคยแบ่งแยกค่ายหรือสถาบัน ทุกคนมีความเข้าใจในความร่วมมือเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับวงการดนตรีในรูปแบบนี้และเต็มใจที่จะร่วมในกิจกรรมที่สร้างสรรค์ด้วยกัน ซึ่งผลงานทุกปีที่ผ่านมามีความโดดเด่นจนทำให้ผู้คนในวงการ มองเห็นความหวังที่จะก้าวไปสู่ระดับนานาชาติในอนาคตอันใกล้นี้” ดร. ณรงค์ กล่าวถึงหัวใจสำคัญของการจัดงาน
ส่วนหัวเรือใหญ่อีกคนหนึ่งของงาน อาจารย์ดริน พันธุมโกมล หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส กล่าวถึงไฮไลต์งาน TIJC ครบรอบ 10 ปีว่า จะได้พบกับ Super Group นำโดยมือแซ็กโซโฟนระดับเทพ Will Vinson ที่มากับวงดนตรีห้าชิ้น (Quintet) ของเขา ต้องบอกว่าเป็นวง “รวมเทวดา” อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น Mike Moreno ที่ถือว่าเป็น “ตัวพ่อ” คนหนึ่งในวงการกีต้าร์แจ๊สสมัยใหม่ Keven Hayes นักเปียโนฝีมือจัดจ้าน Orlando Le Fleming มือเบสระดับพระกาฬ และ Henry Cole มือกลองความสามารถสุดล้ำ
นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีแจ๊สชั้นนำทั้งจากต่างชาติและเมืองไทย อาทิ วง Alfredo Rodriguez Trio จากคิวบา รวมทั้ง วง Claudio Filippini Trio และ Enrico Zanisi นักดนตรีจากประเทศอิตาลี มาร่วมแสดง โดยความสนับสนุน จากสถานทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย วง Pomelo Town วงศิลปากร แจ๊ซ ออร์เคสตร้า วงรังสิต แจ๊ส ออร์เคสตร้า วงมหิดล แจ๊ซ ออร์เคสตร้า และ เก่ง ธชย เป็นต้น
ที่สำคัญยังมีการแสดงดนตรี ซึ่งเป็นการบรรเลงร่วมกันระหว่างวง Thailand Philharmonic Orchestra (TPO) กับวง Pomelo Town จะนำบทเพลงพื้นบ้านของภาคเหนือ ได้แก่เพลงน้อยใจยา และ เสเลเมา ที่ครั้งหนึ่ง วง Pomelo Town ได้นำมาบรรเลงในรูปแบบแจ๊ส และในครั้งนี้ บทเพลงดังกล่าว จะถูกนำมาเรียบเรียงใหม่สำหรับวง Symphony Orchestra โดย ดร. ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะเปิดมิติใหม่ในวงการการประพันธ์ดนตรีของไทย ที่ผู้ฟังจะได้รับฟังผลงานไทยในลักษณะของ Jazz Symphony เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส กล่าว
ไม่เพียงได้สนุกสนานไปกับศิลปินแจ๊สระดับโลกเท่านั้น อ.นพดล ถิรธราดล รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาชีพ และผู้ดูแลโครงการ TIJC ยังมีกิจกรรมดีๆ มาฝากผู้ที่สนใจจะเรียนรู้ด้านวิชาการเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สอีกด้วย อาทิ การ Workshop และ Master class ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีแจ๊สทั้งในด้านการแสดงดนตรีการประพันธ์และเรียบเรียงดนตรี การควบคุมวงดนตรี และการอำนวยเพลง ฝึกสอนโดยนักดนตรี และบุคลากรดนตรีชั้นนำที่ได้รับเชิญมาร่วมเทศกาลดนตรีครั้งนี้ รวมถึงการแข่งขันแสดงเดี่ยวดนตรีแจ๊ส ที่เน้นถึงมาตรฐานที่สูง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Type A: Open Division ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และ Type B: Junior Division ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท
“TIJC ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางงานแจ๊สเฟสติวัลของเมืองไทย ยังเป็นงานแจ๊สเพื่อการศึกษา(Jazz Education) ทาประสบความสำเร็จ และมีงานวิจัยรองรับ เพื่อให้เห็นพัฒนาการชัดเจน งานนี้ได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เติบโตด้วยจำนวนเงิน แต่โตด้วยคอนเทนต์เป็นหลัก ก้าวต่อไปของ TIJC คือเดินหน้าพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ ให้เป็นงาน Center of Jazz Education ที่ทุกคนมา และได้รับความรู้ควบคู่ไปกับความบันเทิง และคาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศมากขึ้น เพื่อพัฒนาให้งานมีสีสันที่หลากหลาย เรายังมีแนวคิดที่จะทำ Big Band Camp เพื่อพัฒนาความสามารถให้กับวง Big Band ในไทย และจะเพิ่มพื้นที่การแสดงให้กับกลุ่ม Big Band ด้วย” ผู้ดูแลโครงการ TIJC มองไกลไปถึงการพัฒนาดนตรีแจ๊สที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับคอเพลงแจ๊ส หรือคนรักดนตรีทุกเพศทุกวัย สามารถมาสัมผัสกับความสนุกเพลิดเพลิน ฉลองครบรอบ 10 ปี เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ เพื่อการเรียนรู้ ได้ในวันที่ 26-28 มกราคม 2561 ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ผู้สนใจติดตามรายละเอียด และข้อมูลเกี่ยวกับงาน TIJC 2018 เพิ่มเติมได้ที่ www.tijc.net หรือ facebook.com/tijc.net