“อาร์ตี้ ธนฉัตร” เปิดใจวิวาห์ฟ้าแลบแฟนสาวนอกวงการ ชมอีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็ม ทำให้ชีวิตดีขึ้น เห็นอนาคตของตัวเองมากขึ้น โต้แต่งเพราะฝ่ายหญิงท้อง ตั้งเป้าอีก 3 ปีค่อยมีลูก แพลนฉลองแต่งเดือน มี.ค. ยอมรับยังงงมีเมีย เตรียมเฟดตัวจากวงการ ช่วยธุรกิจครอบครัวที่ต่างจังหวัด
ซุ่มเงียบวิวาห์ฟ้าแลบกับแฟนสาวนอกวงการนาม “ส้ม ศุภมาศ ทิพยเศวต” แม้แต่เพื่อนสนิทยังตกใจ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร” ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่าแม้แต่ตนก็ยังงงๆ ที่มีเมีย เตรียมฉลองวิวาห์เดือนมีนาคมนี้ พร้อมยันภรรยาไม่ได้ท้อง
“วันนั้นเป็นไพรเวตปาร์ตี้ครับ ช่วงเย็นๆ เป็นงานหมั้นก่อนแล้วก็เป็นปาร์ตี้ช่วงหัวค่ำครับ หลายคนตกใจที่แต่งฟ้าแล่บ ก็ไม่แปลกครับ คนรอบข้างแม้กระทั่งเพื่อนสนิทในกลุ่มที่เรียนด้วยกันมาก็ตกใจเพราะไม่รู้ คนที่รู้คือมีพ่อแม่ผมและพ่อแม่ผู้หญิง เราก็รอให้ทุกอย่างมั่นใจก่อนแล้วค่อยไปบอกเพื่อนๆ”
“มันก็ไม่ได้ตัดสินใจกะทันหันครับ ก็เป็นไปตามวิถี บางคนอาจจะมองว่าเร็วไปด้วยอายุเท่านี้ แต่ผมมองว่าวัยขนาดผม เพื่อนผม คนรอบข้างผม แต่งงานไปแล้วก็เยอะ มีลูกก็เยอะ ยังไม่มีลูกก็เยอะ ผมเป็นคนที่มองไม่เห็นชีวิตตัวเองในอนาคต แต่พอมีผู้หญิงคนนี้เข้ามาเหมือนเราได้เห็นอนาคตตัวเองมากขึ้น เป็นการตัดสินใจที่ผมว่าโอเคมากครับ ผมว่าไม่เกี่ยวระยะเวลาว่าจะนานหรือไม่นาน นานแล้วเลิกกันก็มี แต่ผมมองว่าพอเราเจอคนที่มันใช่ ทุกอย่างมันก็โอเค”
“ถามว่าเป็นคนที่ใช่ยังไง มันบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร อย่างเราใช้ชีวิตโสดคนเดียวจะทำอะไรก็ได้ แต่พอเขาเข้ามา เขามาเติมเต็มเรา เข้ามาทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ทำให้เรามองเห็นอนาคตเลย เพราะตอนผมอยู่คนเดียวผมมองไม่เห็นอนาคตตัวเองว่าจะไปในทิศทางไหน แต่พอมีเขาเข้ามาเราเห็นอนาคตตัวเอง วางแผนได้ว่าอีก 3 - 4 ปี ทำงานเก็บเงินแล้วหลังจากนั้นค่อยมีลูกก็ว่ากันไป”
ปัดแต่งเพราะท้อง เผยพ่อชวนฝ่ายหญิงให้ไปใช้ชีวิตที่ขอนแก่น แฟนเลยท้าให้ขอ บอกปุ๊บก็ขอปั๊บเลย
“คนจะคิดว่าแต่งเพราะท้อง เพื่อนรอบข้างยังคิดเลยว่าท้องเหรอ ก็ไม่ได้ท้องไม่รู้จะว่ายังไง เรื่องงานหมั้นผู้ใหญ่เขาคุยกันแล้วเรียบร้อยครับ ผู้ใหญ่เขารับรู้อยู่แล้ว คร่าวๆ ก็คือว่า บ้านผมอยู่ต่างจังหวัด พอผู้ใหญ่รับรู้ พ่อผมก็ต้องการให้ฝ่ายผู้หญิงไปใช้ชีวิตอยู่ขอนแก่นก็ลองชวนไปหลายวันเกือบอาทิตย์ ฝ่ายหญิงก็บอกว่าถ้าไปนานขนาดนั้นก็มาขอเลย พ่อผมดีใจมากกว่าผมอีกว่าลูกตัวเองจะมีเมียแล้ว พอรู้ปุ๊บก็รีบไปขอเลย”
“เราเจอกันที่สระบุรีครับ เขาเป็นคนสระบุรี คือ ผมไปถ่ายหนังที่สระบุรี ทางกองถ่ายใช้โลเกชั่นร้านอาหารเขา เขามีร้านอาหารอยู่ที่สระบุรี ก็ไม่ใช่รักแรกพบนะ เจอแล้วผมเฉยๆ มีโอกาสได้คุยแล้วก็ไม่ได้คุย ใช้เวลาเกือบๆ ปี เป็นอย่างนี้ประมาณ 2 - 3 รอบ จนครั้งสุดท้ายก็คุยมาจนใช่และยาวมาจนถึงทุกวันนี้ ผมเองก็ยังงงๆ กับตัวเอง นี่เรากำลังจะมีภรรยาแล้วเหรอ”
“ผมก็จีบเขาก่อนครับ เราจีบก่อนแล้วเขาก็ถอยห่างไป รอบแรกโอเคไม่เป็นไร แต่รอบสองผมก็เข้าไปอีก รอบสามก็ไปคุยให้ชัดเจนเลยว่าจะเอายังไง พอคุยแล้วก็คลิกกัน เหมือนเขาเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น”
กำหนดแต่งเดือนมีนาคม ยังไม่ระบุวัน รับแต่งครั้งแรกก็จะยังงงๆ
“เป็นผู้ใหญ่คุยกัน คือ พอรู้ว่าจะแต่ง เรื่องหมั้นก็เบาลง ตอนหมั้นเราแค่อยากจะปาร์ตี้ให้เพื่อนๆ ทั้งสองฝ่ายมีความสุข กำหนดแต่งก็ประมาณเดือน มี.ค.นี้ครับ จัดที่กรุงเทพฯ แต่ยังไม่ได้ระบุวัน เตรียมการกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้คืบหน้า 50 : 50 ก็ไม่รู้เหมือนกัน เป็นครั้งแรกของผมยังงงๆ อยู่ เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าบางอย่างทำแบบนี้เหรอ คงจะจัดงานเป็นไพรเวต เพราะแฟนผมอยู่นอกวงการ ไม่รู้ว่าถ้าคนไปกันเยอะแล้วเขาจะยังไง อยากจะให้เกียรติเขา เขาชื่อส้ม เป็นเจ้าของร้านอาหาร”
เล็งเฟดตัว กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัวที่ต่างจังหวัด
“ไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย กลับกลายเป็นว่าเรามองเห็นอนาคตตัวเอง บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด อนาคตจะต้องกลับไปใช้ชีวิตที่นั่น คงไม่เชิงสลัดงานในวงการ แต่ธุรกิจที่บ้านก็ต้องใช้เวลาศึกษาหลายเดือนเหมือนกัน ถ้าผ่านจุดนั้นไปได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ถามว่าคิดมั้ยว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้าย ก็คงไม่ต้องคิด เพราะผมเบี้ยวพ่อมาหลายรอบแล้ว เขาอยากให้กลับบ้านมาปีกว่าแล้ว เขาอายุ 60 ปี เหนื่อยแล้ว แต่เราก็ยังรับงาน ตั้งใจว่าจบเรื่องนี้จะลองไปคุย จะไปทำ ไปศึกษางานให้เรียบร้อยภายในระยะเวลา 2 เดือน ถ้าผ่านตรงนั้นไปได้แล้วงานยังติดต่อมาอยู่ คุยกันแล้วแฮปปี้ทั้งสองฝ่ายก็ยินดีให้กลับมาทำ ไปๆ มาๆ แต่อาจจะไม่ได้รับหนักขนาดเมื่อก่อน ผมก็ตั้งหลักปักฐานไว้ที่โน่น เราเกิดที่โน่น บ้านเราอยู่โน่น ยังไงก็ต้องอยู่ที่โน่น”
อีก 3 ปีค่อยมีลูก ขอใช้ชีวิตคู่กันไปก่อน ไม่ทราบเรื่องสินสอด
“คุยกันไว้ว่าสัก 3 - 4 ปี เราขอใช้ชีวิตคู่ ทำงานเก็บเงิน มีเวลาก็ไปเที่ยว พร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน เรื่องสินสอดทองหมั้นผมเองก็ไม่ทราบ เพราะพ่อกับแม่เป็นคนจัดการ ให้ท่านตัดสินใจกันเอง”