เบื่อเป็นนายจ้าง “วู้ดดี้ วุฒิธร” คัน ผันตัวเป็นพิธีกรรับจ้างให้ “บอย ถกลเกียรติ” แฮปปี้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ต่อไปจะตบหน้าคนดูด้วย “วู้ดดี้เวิลด์” ทางช่องเวิร์คพอยท์ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ บอกทำทีวีที่ผ่านมาคือความผิดพลาด เปลี่ยนแนวรายการให้มีความละมุนมากขึ้น ฟุ้งครึ่งปีที่ผ่านมากวาดเม็ดเงินโฆษณาจากโซเชียลมากกว่าทีวี
พักงานหน้าจอไปลุยโซเชียลนานพอดู หลังเคยประกาศจะไม่ทำรายการทีวีอีก เพื่อลุยทำรายการเสนอผ่านโซเชียล แต่พอกลับมาอีกทีก็ควบ 2 รายการเลยทีเดียว สำหรับ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” โดยเป็นพิธีกรให้รายการเดอะวอร์ ทางช่องวัน และทำรายการของตัวเอง “วู้ดดี้เวิลด์” กับช่องเวิร์คพอยท์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับระหว่างมาร่วมงานเปิดตัว “ดินเนอร์ อินเดอะสกาย” ว่า การได้ร่วมงานกับ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” เป็นเพราะความคัน
“ก็เสาร์อาทิตย์นี้แล้วอันแรกรายการเดอะวอร์ ทางช่องวัน เวลา 6 โมงเย็นโดยประมาณ แล้วก็เป็นเกมโชว์ที่เมืองนอกทำมาหลายประเทศแล้ว เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก เพราะกว่าจะสร้างเสร็จเวทีที่ว่าหาสตูดิโอยากมาก ในเอเชียไม่มีสตูดิโอที่สูงพอที่จะรองรับกำแพงที่ใหญ่ขนาดนี้ มีที่เดียวคือ สตูฯ ของทีวีธันเดอร์ ซึ่งพอไปเห็นกำแพงมันอลังการมาก แล้วก็คนเข้าแข่งขันที่เป็นคนดีแล้วก็คุณค่ากับเงินหลายล้านบาท ก็เลยตัดสินใจมาร่วมงาน เราแล้วความสนุกก็คือเราจะอยู่ฝั่งเดียวกับคนเข้าแข่งขัน ก็จะลุ้นอยู่ตลอดเวลา”
“ก็หนึ่ง พี่บอย ถกลเกียรติ ช่องวัน แล้วด้วยความที่มันเป็นคอนเทนต์ที่สามารถออนได้ทุกแพลตฟอร์ม ออนทั้งโซเชียลมีเดียด้วย ออนทั้งเฟซบุ๊กไลฟ์ด้วย เราก็เลยตัดสินใจกลับมาทำตัวนี้ เพราะถ้าออนแค่ทีวีเราก็ไม่ทำ”
“อันนี้ไม่ได้ทำเอง ผมรับจ้าง ได้ค่าตัวเป็นพิธีกรอย่างเดียวครับ ทุกอย่างเป็นของช่องวัน เป็นลิขสิทธิ์ของช่องวัน ความคันก็คืออยากรู้ว่าเป็นลูกน้องเขาแล้วโดนด่ามันเป็นยังไง เพราะเราสั่งตลอดชีวิตไง เราก็รู้สึกว่าเราทำมาตลอดชีวิตแล้วที่สั่งคน เรามาเป็นคนที่ถูกสั่งบ้างดีกว่า”
“พอทำแล้วสนุกมาก แล้วเขาให้เกียรติเรามาก แล้วเขาก็บอกตรงๆ ว่า บางอย่างที่พูดมันไม่โอเคนะ อยากได้วู้ดดี้ที่มันธรรมชาติกว่านี้ แล้วเรารู้สึกว่า เออ เวลามีคนมาพูดกับเราตรงๆ เรารู้สึกดีขึ้นมาก ได้พัฒนา ดีกว่าทำรายการเป็นนายเองแล้วก็ไม่ฟังฟีดแบ็ก บางทีลูกน้องผมเองก็ไม่บอกไง เวลาผมพูดเนี่ยตาจะกระพริบบ่อยมากนี่คือหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ตัวนะ คือทีมงานเขาก็จะบอก เวลาไฟมันเยอะผมจะกะพริบบ่อยมาก สองเนี่ยตั้งแต่เด็กเราจะชอบเกาจมูก ซึ่งเป็นสองบุคลิกที่เราไม่คิดว่าเราทำบ่อย แล้วเขาก็แนะนำ แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่เราไม่ทราบคือเราพูดเร็วมากจนเสียงแหบ ผมพูดเร็วมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็ได้ค้นพบตัวเองจากรายการเดอะวอร์”
ลั่นวู้ดดี้เวิลด์ เป็นทอล์กโชว์ที่เหมือนหนัง จะมีความประณีต หมดเวลานั่งสัมภาษณ์ตามข่าวรายวัน
“ส่วนอีกรายการหนึ่งเนี่ยเรารอคอย คุยกับเวิร์คพอยท์มานานมากรายการนี้ ว่า ทำดีไม่ทำดี ทางเวิร์คพอยท์เองเขาก็มองว่าเขาก็เชื่อว่าอยากได้รายการทอล์กโชว์ดีๆ สักหนึ่งอัน เราเองก็บอกว่าถ้าจะทำทอล์กโชว์แบบวู้ดดี้เราจะไม่ทำข่าวซุบซิบแล้วนะ เราไม่ทำแบบรายวัน เพราะรายวันก็คือที่ทำกันอยู่นี่ไง สัมภาษณ์แบบนี้ คือ มันหมดเวลาที่เราจะมานั่งทำแบบนั้นแล้ว ไม่งั้นเราก็ต้องมาถือไลฟ์ตามทุกคน ซึ่งเราไม่มีเวลาก็กลายเป็นทอล์กโชว์ที่มีความประณีตมากขึ้น จะเหมือนหนังมากขึ้นชื่อว่าวู้ดดี้เวิลด์ เอาง่ายๆ เลยคือโลกของวู้ดดี้ ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา เรารู้สึกว่าเราอยู่ในวัยที่ทุกอย่างมันน่าสนใจหมด ทำไมเราไปเที่ยวถ้ำนี้แล้วมันน่าสนใจเราอยากแชร์ หรือทำไมเราไปวิ่งกับตูนแล้วรู้สึกเขา inspire เรามาก แล้วก็มีเบื้องหลังที่คนไม่เคยเห็นที่เราอยากแชร์ มันเลยจะไม่ใช่ทอล์กโชว์แต่มันจะเหมือนกับแชริ่งโชว์มากกว่า วู้ดดี้เวิลด์เป็นรายการแชร์ แชร์เรื่องราวรอบข้างชีวิตเราที่คนจะสนใจ คนสงสัยและคนอยากรู้โดยการเจาะลึก จะออกอากาศตอน 22.15 น. ผ่านทางไลฟ์ เฟซบุ๊กไลฟ์ ยูทูปไลฟ์ ไลน์ไลฟ์ แล้วก็ทางเวิร์คพอยท์ครับ อันนี้ผมเป็นเจ้าของผู้ผลิตครับ”
ยังไม่ล้างมือ แต่เปลี่ยนจุดยืนใหม่ ทำรายการให้มีความละมุน ไม่แรง ไม่แซ่บ แต่เป็นแรงบันดาลใจ ตบหน้าให้คนดูลุกมาทำอะไรใหม่ๆ
“สิ่งเดียวที่ผมเกร็งคือว่ามันจะแซ่บมั้ย บอกเลยว่าไม่แซ่บ ถามว่าแรงมั้ยบอกเลยว่าไม่แรง พูดตรงๆ ถามว่าละมุนมั้ยละมุน ผมการันตีว่าคุณดูวู้ดดี้เวิลด์เนี่ยคุณนอนหลับแบบอมยิ้ม คุณตื่นมาเช้าวันจันทร์คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณอยากทำอะไรมากกว่านี้”
“ไม่ใช่ล้างมือจะไม่แซ่บไม่แรงแล้ว แต่รู้สึกว่าแซ่บกับแรงเนี่ยมันอยู่ได้ แต่มันก็อยู่ได้แค่ชั่วคราว แต่เรารู้สึกว่าถ้ามันอินไซด์มากเนี่ย ที่ผมทำทีวีที่ผ่านมาผมพลาดอย่างเดียว คือ ผมพลาดว่าคนดูเขาจะได้อะไร คือสมัยก่อนเราได้แค่ซุบซิบไง แต่เรารู้สึกว่าอยากให้ชีวิตมันดีขึ้นไง ดังนั้นดูแล้วมันจะต้องละมุนขึ้นชีวิต รวยขึ้น มีความกล้ามากขึ้น กล้าคิดกล้าทำมากขึ้น แล้วก็อยากสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตตัวเอง ใครก็ตามที่ดูวู้ดดี้เวิลด์จะรู้สึกว่าชีวิตฉันไม่ต้องจบแค่นี้ ชั้นสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย มันไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจ มันคือตบหน้าแล้วให้คุณทำเลย อันนี้ก็ทำแชริ่งครับ กับเวิร์คพอยท์ ก็แบ่งครึ่งๆ”
แจงเหตุกลืนน้ำลาย มีช่องทางออนแอร์มากกว่าเดิม 4 เท่า ถ้าไม่ออนแอร์ผ่านโซเชียลก็จะไม่ทำแน่นอน
“วันนี้เวิร์คพอยท์เป็นแค่คอนเทนต์หนึ่งครับ ซึ่งแต่สุดท้ายแล้วที่ผมทำอยู่เนี่ยมันจะออนในเฟซบุ๊กไลฟ์ ยูทูปไลฟ์ ไลน์ไลฟ์ เป็นหลัก แล้วพอดีที่อยู่ในช่องเวิร์คพอยท์ แต่ว่านั่นมันต่างจากที่ผมทำรายการใหม่ในทีวีแล้วไม่มีโซเชียลเลย คราวนี้มีมากกว่าเดิมอีก 4 เท่าด้วยกัน นี่คือเหตุผลที่กลับมาเลือกทำคอนเทนต์แบบนี้ แต่ถ้ากลับมาทำรายการที่ไม่ได้ออนในโซเชียลเลยไม่ทำแน่นอนครับ”
โวครึ่งปีที่ผ่านมากวาดเม็ดเงินจากโซเชียลได้มากกว่าทำทีวี
“เอาตรงๆ นะฮะ ที่ผ่านมาครึ่งปี เม็ดเงินของผมในโซเชียลมากกว่าทำทีวีด้วยซ้ำ แล้วจนกระทั่งวันนี้ก็มากกว่าด้วยซ้ำ ทีวีก็เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่จะสามารถกระจายในแง่ของคนดูได้ แต่ว่าเม็ดเงินผมว่ามันสู้โซเชียลไม่ได้ โซเชียลเม็ดเงินสูงมากครับตอนนี้”
“ถามว่าคาดหวังมั้ย อยากให้คนดูแล้วก็อยากให้คนมีความสุขขอแค่นี้ ช่วยดูและมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรมาก สบายๆ 4 ทุ่มเปิดมาวันอาทิตย์ ช่องเวิร์คพอยท์ ก็มาดูว่ามันทำอะไรของมันวะแล้วก็จบ ขอแค่นี้”
