“หมอดูต๊อกแต๊ก A4” ทุ่มเงิน 1.5 ล้าน ศัลยกรรมยกเครื่องหน้าที่เกาหลี เผยใช้เวลา 11 ชม. แซะคาง ตัดกราม ถลกหนังหน้าให้ตึง ปลื้มทำหมดทุกสัดส่วน มีผัวได้ เปิดใจทำปุ๊บสินค้าติดต่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่สนกระแสวิจารณ์เสียเงินเป็นล้าน แต่ได้แค่นี้ เผยโหงวเฮ้งเรียกทรัพย์ หน้าผากแบบ “อั้ม พัชราภา” จมูกแบบ “ชมพู่ อารยา”
แม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปชนิดหลังมือเป็นหน้ามือ แต่หมอดูชื่อดัง “ต๊อกแต๊ก A4” ก็ออกปากว่าแฮปปี้กับหน้าใหม่ที่ย่องไปทำไกลถึงเกาหลี ไม่ว่าจะทั้งแซะคาง ตัดกราม พร้อมถลกหนังหน้าให้ตึงเพื่อให้ดูละมุนเหมือนผู้หญิงมากขึ้น โดยทั้งหมดใช้เวลาไปเกือบๆ 11 ชม. เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังเผยอีกว่าแผลยังไม่แห้งดีราศีคนสวยก็จับ มีสินค้าติดต่อให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ไปอีก พร้อมเผยว่าหน้าดาราแบบไหนที่เรียกว่าทำแล้วได้ทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา
“ตอนนี้เป็นหมอดูหน้าใหม่ไปแล้วค่ะ ตั้งแต่การทำคางด้วยการแซะ เลยทำให้เส้นประสาทมันยังไม่เข้าที่หมายถึงตอนที่เพิ่งทำมาใหม่ๆ นะ และมีการตัดกรามซึ่งไม่ได้เหลานะ ตัดไปข้างละ 3 ซม. และก็ทำจมูกใหม่ ก็ถือว่าพอใจมากที่สุดเท่าที่เคยทำศัลยกรรมมา โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำศัลยกรรมที่ใบหน้าเลย มีแค่ฉีดซิลิโคนเหลวที่คาง ซึ่งอันนี้เป็นผลเสียเพราะหมอเกาหลีไม่สามารถเอามันออกมาได้ มันติดกับเนื้อไปแล้ว เขาเลยปรับกระดูกคางให้ มันจึงทำให้ต้องแซะคาง ซึ่งในส่วนของข้างล่างนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมเพราะได้ทำจากเมืองไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จริงๆ ศัลยกรรมช่วงล่างแนะนำว่าหมอไทยเจ๋งกว่า แต่ถ้าข้างบนต้องยอมเกาหลีเขา เพราะเขามีเครื่องทีซีสแกนวัดหน้าเราให้มันทำออกมาแล้วเบี้ยวน้อยที่สุด หรือผิดพลาดน้อยที่สุด”
“และที่ตัดสินใจไปเกาหลีนั้น แม่หมอจะบอกก่อนเลยว่าเรื่องศัลยกรรมมันอยู่ใกล้ตัวสาวเกาหลีอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเรื่องปรับโหงวเฮ้งนั้นสำคัญกว่า จริงๆ ปีสองปีที่ผ่าน เราเจอปัญหาในชีวิตเยอะมาก แม้เราจะทำบุญ เสริมดวงก็แล้วแต่มันก็ยังเจอปัญหา บวกกับคางของเราที่ไปฉีดซิลิโคนเหลวมามันเริ่มปรับรูปทรง มันทำให้โหวงเฮงของเราเปลี่ยนไปด้วย พอมันเปลี่ยนไปปุ๊บ เรารู้สึกว่าเราอยากแก้ จนพี่บีม (ลูกดี๋ดอกสะเดา) เขาแนะนำให้คุยกับคลีนิกที่หนึ่ง พอเราได้คุยกับเขาปุ๊บ เขาบอกเลยว่าเราต้องไปแก้หน้าที่เกาหลี และเราโชคดีไปอีกคือเราได้หมอที่เกาหลีที่เขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เป็นหมอที่เก่ง เคยอยู่ในรายการ let's me in ซีซั่นแรกๆ เขามีเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้โอเคได้ภายใน 2 วีก เพราะเราต้องกลับมาทำงาน แต่เรื่องนี้ว่าไม่ได้นะ พอทำเสร็จแล้วยังไมได้กลับจากเกาหลีเลย เครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีเขาติดต่อเรามาถ่ายแคมเปญโฆษณา มันเริ่มดี มันมีโอกาสดี พอกลับเข้ามามันก็มีงานใหญ่เข้ามาอีก”
เผยทุกขั้นตอนผ่าตัด 11 ชม. เริ่มตั้งแต่แซะคาง ตัดกราม เสริมจมูกใหม่ พร้อมถลกหนังหน้าให้ตึง แถมเล่นของขอบารมีองค์แม่ฯ ให้ออกมาสวยเป๊ะ
“ในส่วนของขั้นตอนการศัลยกรรม ซึ่งก่อนผ่าตัดเราก็ต้องตรวจร่างกายปกติเหมือนเมืองไทย เพราะเราบอกหมอไปแล้วว่าขอให้สวยขึ้น ให้ละมุนขึ้นกว่าเดิม เพราะส่วนหนึ่งที่ตัดกรามออกไป มันจะได้ดูละมุนเป็นผู้หญิงขึ้นมาหน่อย ผ่าตัดไปทั้งหมด 11 ชม. และนอนโรงพยาบาล 1 คืน และก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม และเท่าที่เขาอธิบายคือเขาจะเริ่มจากการทำคางก่อน กรีดที่ข้างแก้มเพื่อจะตัดคาง เขามีเครื่องเจียรกระดูกออกไปเลย ไม่ใช่เครื่องเหลานะ เพราะถ้าเหลามันต้องแซะเข้าทางปากและใช้ตะไบเหลา ในส่วนของซิลิโคนเลวนั้นหมอบอกว่าแซะไม่ออก เพราะถ้าเอาก้อนซิลิโคนเหลวที่เราไปฉีดมาออก ก็จะทำให้ปากเบี้ยวและเส้นประสาทอาจจะขาด หมอเลยปรับกระดูกคางเพื่อจะให้มันยื่นออกมาให้มีความเป็นชะนีนิดหนึ่งให้เป็นตัววี และใช้วิธีเฟสลิปเพื่อเป็นการดึงหนังหน้า จากเมื่อหน้าเราเป็นหลุมเป็นบ่อ ตอนนี้มันก็ตึงขึ้น มันตื้นขึ้น เป็นการดึงหนังหน้า แล้วก็เย็บเก็บ เราก็แครองพื้นนิดเดียว ในส่วนของการทำจมูกก็ใช้กระดูกแทนซิลิโคน ซึ่งคนไทยส่วนมากจะเข้าใจว่าต้องใช้กระดูที่กกหู แต่ที่เกาหลีเขาจะใช้กระดูกอ่อนที่อยู่ตรงจมูกของเราเลย มันใช้ได้ 1 ครั้งกระดูกอ่อนที่จมูกเรียกว่าเซทตรัม เพราะจมูกที่รับเงินหรือห้ามเชิดมาก ห้ามเห็นรูจมูก”
“และการทำศัลยกรรม 11 ชม. เราคิดอย่างเดียวว่าเราไว้ใจหมอ และก็ขอบารมีองค์แม่พระอุมาฯ อย่างที่เราได้ผ่าตัดวันที่ 19 หมอบอกว่าคิวเยอะมากเลยนะ แต่เราได้ดูฤกษ์ไปแล้วว่าต้องผ่าวันนี้นะ แต่หมอยืนยันว่าจะผ่า 22 เราก็ขอองค์แม่อุมาฯ ว่าไม่เอาวันอื่น จะเอาวันที่ 19 เท่านั้น ผ่านไป 2 ชม. หลังจากที่ตรวจร่างกายไปแล้ว หมอเดินมาบอกว่าจะผ่านให้วันที่ 19 เลย และพอออกมาจากห้องผ่าตัด หน้ายุบเร็วมากเลยคะคุณผู้ชมขา ยุบเร็วกว่าคนที่ไปทำพร้อมกับเราด้วย”
ไม่แคร์ขี้ปากชาวบ้าน บินไปศัลย์ถึงเกาหลีแต่ทำได้แค่นี้ ยันภูมิใจเพราะหน้าเปลี่ยนไปเยอะมาก แผลยังไม่แห้งสนิท งานพรีเซ็นเตอร์ก็ติดต่อเข้ามาทันที
“พอเราตื่นมาเรารู้ว่าหน้าเราเพิ่งผ่านการศัลยกรรมมา เราก็ไม่ตกใจ แค่หงุดหงิดจากฤทธิ์ยาสลบมันทำให้เราเบลอๆ พอ 4 ชม. เริ่มเดินในโรงพยาบาลได้ บวกกับอากาศมันเย็นมันทำให้หน้าเรายุบเร็วขึ้น การทำศัลยกรรมที่เกาหลีคนมีเงินเท่านั้นถึงจะทำได้ เราก็เอาหน้าที่เราทำศัลยกรรมเดินรับลมที่เกาหลีไป (แต่เราไปถึงเกาหลี ทำไมเราไม่ทุบให้เป็นคนใหม่เลยล่ะ?) ไม่ได้ค่ะคุณขา เพราะถ้าหน้าใหม่เดี๋ยว ตม. จำไม่ได้ เอาแค่นี้ดีกว่า อยากให้มีความเป็นต๊อกแต๊กอยู่ เดี๋ยวมันจะเหมือนคนอื่น”
“หน้านี้ลงไป 45 ล้านวอนหรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.5 ล้านบาท ตอนนี้ก็ภูมิใจกับหน้าเรามาก รู้สึกว่าหน้าตัวเองเปลี่ยนไป บางคนบอกว่าไม่เห็นเปลี่ยนไปเลย แต่ถ้าเทียบบีฟอร์กับอาฟเตอร์ มันจะรู้สึกว่าเปลี่ยนไปเยอะ แต่คนจะบอกว่าหนังหน้ามันดีขึ้น แต่คนที่เห็นก็ว่าแค่แปลกตาว่าเราไปทำอะไรมา และอย่างที่บอกว่าพอยังไม่ลงจากเตียงหมองานก็ติดต่อเข้ามา และตอนนี้ก็จะมีโฆษณาอีกตัวติดต่อเข้ามา พอกลับมางานมันเยอะขึ้น และตอนนี้เราจะไม่ปรับอะไรกับหน้าเราแล้ว ห้ามแค่ตาตกกับคิ้วตกเท่านั้นเอง เพราะหมอก็ปรับคิ้วมาให้ด้วยการตอนเสริมจมูกแล้วดึงคิ้วกับตาให้ด้วย เพื่อให้ตาโตขึ้น ตอนนี้ครบหมดแล้วทั้งหน้า นมและข้างล่างจบแล้ว มีสามีได้เลย (หัวเราะ)”
หมอดูชื่อดังแนะโหงวเฮ้งแบบ “อั้ม พัชราภา” คือ หน้าผากราชินี ส่วนจมูกทรง “ชมพู่ อารยา” คือ เรียกทรัพย์ พร้อมเตือนใช่ว่าทุกคนจะทำหน้าสไตล์เกาหลีได้เหมือนกันหมด
“ก่อนหน้านี้ ที่เราอยากปรับโหงวเฮ้ง เพราะตอนแรกจมูกของเราไม่ได้ตัดปีกนะ แม้จะเสริมมาบ้าง แต่เงินจะออกหมดเพราะจมูกบาน แต่ที่นี้ให้หมอปรับให้มีส่วนโค้ง ปลายไม่เชิดเกินไป ส่วนคางที่แก้เพราะมันแหลมลงมาบวกกับมันมีรอย มันทำให้เงินที่เราหามาได้หมดไป เราก็รู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมาผู้ใหญ่ไม่ค่อยโอเคกับเราสักเท่าไหร่ และถ้าใครนึกไม่ออกว่าหน้าไหน เหมาะกับการเป็นหน้ารับทรัพย์ ให้นึกหน้าของอั้ม พัชราภา เพราะหน้าผากของนางเป็นหน้าผากของราชินีมาก หน้าผากเปิดแล้วสวย รับเงิน รับทอง อีกคนก็คือ เต้ย จรินทร์พรที่เป็นดาราผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ได้ประกบดาราตัวใหญ่และมีกระแสตลอด ชีวิตของเขาก็รุ่งเรือง นี่คือหน้าที่ดี และหน้าผากที่ดีอีกคนคือเนย โชติกา ส่วนจมูกจะต้องเหมือนชมพู่ อารยา ซึ่งบางคนอยากได้บล็อกเกาหลีแต่มันไม่เหมาะกับหน้าไทย ใช่ว่าทุกคนจะทำได้เหมือนหน้าคนเกาหลี จมูกไม่ควรเชิดเกินไปหรือว่าแหลมเกินไป คือ หน้ามองตรงๆ แล้วห้ามเห็นรูจมูก ส่วนคางต้องรับกับจมูก ทั้งหน้าผาก จมูก คางต้องเท่ากันทั้งหมด”