“จิม เจจินตัย” ฟุ้งพัฒนาการของ "น้องพลอยเจดี" ตอนนี้ท่อง a-z ได้แล้ว รับมีดื้อซนเหมือนเด็กปกติ แต่ก็สนุกดี บอกทุกวันนี้ใช้ภาษาไทยควบอังกฤษที่บ้านเพราะอยากให้ลูกฟังอะไรที่หลากหลาย เผยทำงานหนักแต่แบ่งเวลาให้ลูกได้ แพลนลูกคนที่ 2 ประมาณปี 62
นาทีคงไม่มีใครไม่รู้จัก น้อง”พลอยเจ” ลูกสาวสุดน่ารักเหมือนตุ๊กตา ของคุณพ่อ “จิม เจจินตัย อันติมานนท์” หลังสองพ่อลูกได้มาโชว์ความสดใสน่ารักในรายการ“ลูกจ๋าป๊ะป๋ามาแล้ว The Return of Superman Thailand ซีซั่น 2” ไม่เพียงแต่คนดูจะหลงรักน้องพลอยเจแล้ว คุณพ่อจิมเองพอได้ใช้เวลาอยู่กับลูกโดยไม่มีคุณแม่มาช่วยเลี้ยง ก็เกิดอาการหลงลูกหนักมากเช่นกัน จะออกไปทำงานก็คิดถึงแต่ลูก แค่เห็นน่าลูกก็น้ำตาจะไหลบอกการมีลูกเป็นความสุขที่ไม่ต้องขวนขวาย
“ตอนนี้พัฒนาการของพลอยเจก็โตขึ้นครับ ตอนนี้ท่อง A ถึง Z ได้แล้ว แต่เป็นภาษาของเขานะ ไม่ได้เป๊ะมาก แต่ว่าพูดตามได้ถึง Z แล้ว ให้ทำอะไรเขาก็จะทำตาม เวลาเขาทานข้าวเสร็จเราก็จะเอาสำลีเปียกเช็ดปากเขา เดี๋ยวนี้เขาก็จะหยิบไปเอง พอเราบอกให้เขาเช็ด เขาก็จะเช็ด เราบอกว่า คิส หอมหน่อย เขาก็จะหอมแก้มเรา พอเราทำท่าจะอุ้มเขา เขาก็จะผายมือ พัฒนาการตอนนี้คือเริ่มฟังแล้วก็เริ่มทำตามเราได้แล้ว”
เผยเลี้ยงลูกแบบครอบครัวสองภาษา ...“ถามว่าเขามีดื้อมีซนบ้างไหมก็มีสิครับ เป็นเรื่องปกติ เขาจะงอแงเวลาหิวกับเวลาง่วง ซึ่งทุกคนก็ต้องเจออะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไร ก็สนุกดีครับ แต่ตอนนี้ที่เจอหนักๆเลยคือตอนนี้ทุกอย่างจะไม่เป็นเวลาแล้ว เวลากิน เวลานอน จะไม่ค่อยเป็นเวลาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"
"เพราะเขาจะห่วงเล่นมากครับ ยิ่งเวลาเจอคนเยอะๆเขาจะแอคทีฟมากเลย พร้อมจะทักทายตลอดเวลา ครอบครัวเราจะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาไทยควบคู่กันไปครับ ให้เขาฟังอะไรที่หลากหลาย เขาก็ค่อนข้างจะตอบสนองได้ดี”
ถึงงานละครจะแน่น แต่แบ่งเวลาดูแลลูกได้โดยได้รับความช่วยเหลือในการจัดคิวของกองถ่าย
“ละครแน่นมาก 6 เรื่อง หนังอีก 2 เรื่อง แล้วยังมีรายการอีก ถล่มมากครับ แต่สนุกครับ เพราะตอนละครติดต่อมาเราก็บอกเขาแล้วนะว่าวันมันเต็มแล้ว แต่เขาก็บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดวันให้ สุดท้ายก็ไม่ชนกันเลย เพราะว่าบทเราเป็นตัวร้ายบ้าง ก็จะมีเราประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ในแต่เราอาจจะ 10 กว่าฉาก เก็บทีละ 5-10 ตอน ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ”
บอกออกไปทำงานแต่ละครั้งก็คิดถึงลูกมาก
“ออกไปทำงานก็คิดถึงลูกมากครับ ตอนที่ทางรายการ ลูกจ๋า ป๊ะป๋ามาแล้ว ติดต่อมาเขาก็บอกว่าคอยดูนะรายการนี้จะทำให้เราสนิทกับลูกมากขึ้น เราก็รู้สึกว่าไม่จริงหรอก เราสนิทกับลูกอยู่แล้ว แต่เชื่อไหมว่า 48 ชั่วโมงที่อยู่กับลูก มองตาลูกนี่น้ำตาจะไหลเลย เหมือนมันเป็นรายละเอียดที่ใจต่อใจอะ เราป้อนนมเขา เขามองตาเรา เวลาเราไปทำกิจกรรมเขาก็จะเดินแล้วแหงนหน้ามามองเรา มันเป็นความรู้สึกที่ไร้เดียงสามาก เขาทำจากหัวใจของเขา เรามองแล้วมีความสุขมาก"
"ผมแนะนำนะครับใครไม่มีลูก ต้องมีนะครับ เมื่อก่อนก่อนมีลูก เรามีความสุขกับการที่เราไปเที่ยว ไปปาร์ตี้กับเพื่อน ความสำเร็จเรื่องงาน แต่กว่าจะได้มากมันไม่ได้ง่ายเหมือนมีลูก เวลาลูกมองเรา เรียกเราแต่ละที ตัวมันเหมือนจะละลาย อินกับสิ่งที่ลูกส่งมา ลูกสาวความสุขให้เราตลอดเวลา มันไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องไปขวนขวาย เขาให้เราตลอดเวลา มันเลยเกิดเป็นความผูกพันที่ผมคิดว่ามันเจ๋งมาก”
เปรยเริ่มอยากมีลูกคนที่สอง ถ้าเป็นไปได้อาจจะปี 62 เพราะอยากให้พลอยเจมีเพื่อน และรู้วิธีการเลี้ยงลูกมากขึ้นแล้ว...“ตอนแรกไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่สองเลย คิว่าจะมีแค่คนเดียว คุยกับแฟนเขาก็บอกว่าไม่อยากมีอีกคน เพราะรู้สึกว่ารักพลอยเจมาก คงไม่สามารถที่จะแชร์ความรักให่อีกคนหนึ่งได้ ไม่รู้จะแชร์ยังไง แต่พอเรามีลูกเราเริ่มจินตนาการแล้ว ว่าสงสารลูกถ้าอนาคตโตไปกลัวลูกไม่มีเพื่อน"
"ก็เริ่มมาคุยกันว่าถ้าจะมีอีกอยากได้พูดหญิงหรือผู้ชาย คือผมอยากมีลูกผู้ชายตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอมีเป็นผู้หญิงก็คิดว่าไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็น่ารักสุดๆ ก็แพลนว่าถ้าเกิดจะมีก็คงประมาณปี 2562 อีกประมาณสักปีกว่า ให้ลูกห่างกัน ดูแลกันได้ มีคนเคยบอกให้มีต่อไปเลยจะได้เหนื่อยทีเดียว มันไม่เหนื่อยทีเดียวนะครับ มันคืออีกหนึ่งชีวิต เราก็อยากจะดูแลให้ดีที่สุด แต่เราก็มั่นใจว่าเราจะไม่เหนื่อยเท่าคนแรก คนแรกเรายังไม่เป็นอะไรเลย ทุกอย่างเราทะนุถนอมมาก"
"บางทีลูกเป็นผื่นนิดหน่อย เรารู้สึกว่ามันโคตรร้าแรงเลย แต่จริงๆมันคือเรื่องธรรมชาติ มันรักษาได้ พลอยเจเคยแพ้นม ท้องเสียวันละ 20 รอบ เราก็รู้สึกว่ามันคือเรื่องใหญ่ แต่จริงๆแล้วคือมันเป็นเอฟเฟ็คที่ธรรมดามาก เราก็เลยลองปรับเปลี่ยน เอานมผงมาผสม ให้ค่านมมันเจือจาลง สุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ไม่มีอะไรร้ายแรง ก็ค่อนข้างจะเข้าใจวิธีการเลี้ยงลูกมากขึ้นพอสมควร ตอนนี้ถ้าจะมีอีกคนก็ยินดีครับ(ยิ้ม)”
