เรียกได้ว่า ข่าวการเสียชีวิตของ “จงฮยอน SHINee” ยังคงช็อกความรู้สึกแฟน ๆ ทั่วโลก ล่าสุด มีการเปิดเผยข้อมูลจากเพื่อนสนิท และคนใกล้ชิด ยืนยันว่า “จงฮยอน” มีปัญหาด้านสภาพจิตใจมานาน และเคยส่งจดหมายลาสุดท้ายให้ช่วยเผยแพร่หลังตนเองลาโลก ครอบครัวและเพื่อนยืนยัน ทราบปัญหา แต่ช่วยไม่ทัน ส่วนศิลปินร่วมสังกัด SM Entertainment ยกเลิกแผนงานทั้งหมดชั่วคราว
การตัดสินใจฆ่าตัวตายของ จงฮยอน จากวง SHINee เป็นสิ่งที่หลาย ๆ ฝ่ายเชื่อว่า เจ้าตัวได้เตรียมการที่จะปลิดชีพตนเองมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทั้งเรื่องการเช่าอพาร์ตเมนต์อื่น เพื่อปลีกวิเวก และจบชีวิตเพียงลำพัง รวมไปถึงการมอบจดหมายลาให้เพื่อนสนิท โดยทางเพื่อนสนิทอย่าง ไนน์ จาก Dear Cloud ได้ออกมาเผยว่า เธอทราบเจตนาของ จงฮยอน ที่จะลาจากโลกนี้ และได้บอกครอบครัวของเขาแล้ว โดยทุกคนพยายามช่วยเหลือ แต่ในวันสุดท้ายของชีวิตเขา ช่วยไว้ไม่ทันจริง ๆ
ตัวแทนของไนน์ ได้เผยว่า จงฮยอน ได้ฝากจดหมายไว้กับเธอ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวของเขาเอง
“จงฮยอน ได้ส่งจดหมายบอกเจตนารมณ์ของเขาไม่กี่วันก่อนที่เขาจะขึ้นคอนเสิร์ตเดี่ยว ไนน์ ค่อนข้างช็อก และบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไม่รู้ว่าจะทำยังไง ดังนั้น เราเลยไปร่วมคอนเสิร์ตของเขา และบอกเรื่องนี้ให้ครอบครัวเขาได้ทราบ”
“ครอบครัวของเขาทราบเรื่องแล้วว่า เขากำลังทุกข์ทรมาน ดังนั้น เราเลยพยายามที่จะอยู่ให้กำลังใจเขาให้มากขึ้น หลังจากที่ ไนน์ ได้รับจดหมายบอกเจตนารมณ์ของเขา ไนน์ก็พยายามติดต่อพูดคุยกับเขาให้บ่อยขึ้น”
“จงฮยอน ได้บอกลาครั้งสุดท้ายกับพี่สาว และไนน์ ในวันที่เขาเสียชีวิต มันเป็นข้อความเดียวกันตามที่มีรายงานข่าวออกไป ไนน์ กับพี่สาวของเขา ได้แจ้งตำรวจจนกระทั่งพบตัวเขา แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป”
ข้อความบอกลาสุดท้ายที่ส่งให้พี่สาว และไนน์ ในวันที่เขาเสียชีวิต คือ “มันยากมากตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ไปส่งผมที บอกทุก ๆ คนว่า ผมกำลังเจ็บปวด นี่เป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายของผม”
ส่วนจดหมายฉบับเต็มที่ ไนน์ ได้รับก่อน จงฮยอน ขึ้นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งสุดท้ายของตนเองนั้น ทางครอบครัวของจงฮยอนได้อนุญาตให้ทำการเผยแพร่แล้ว โดยไนน์ได้เขียนข้อความบอกเล่าถึงสิ่งที่เธอได้รับจาก จงฮยอน โดยมีใจความว่า
“ฉันมาลาจงฮยอนครั้งสุดท้าย ฉันได้เห็นรอยยิ้มของเขาจากภาพถ่ายหน้าศพที่สถานที่เก็บศพ มันยังคงรู้สึกเหมือนจงฮยอนมาหาฉัน และยิ้มให้ฉันราวกับว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย นานแล้วที่จงฮยอนแชร์เรื่องราวด้านมืดข้างในจิตใจให้ฉันฟัง เขาต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน เมื่อไหร่ที่ฉันเริ่มสังเกตถึงสิ่งแปลก ๆ ฉันก็จะบอกครอบครัวเขาให้รับทราบ และพยายามที่จะนำทางเขาให้เดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่ที่สุดแล้ว ในวันสุดท้ายของเขามันก็สายเกินไป และมันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดเขาได้ ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่า เขาได้จากโลกนี้ และไม่อยู่กับพวกเราอีกต่อไปแล้ว มันเจ็บปวดมากนะ ฉันไม่แน่ใจว่า ฉันควรจะโพสต์ความประสงค์ครั้งสุดท้ายของชีวิตเขาหรือไม่ ยังคงพิจารณาเรื่องนี้อยู่ แต่จงฮยอนได้ขอเอาไว้ว่าให้เผยแพร่ความตั้งใจของเขาถ้าเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ฉันหวังมาตลอดว่าวันนี้จะไม่มาถึง....
หลังจากที่ฉันได้ปรึกษากับครอบครัวของเขาแล้ว เราก็ได้ตัดสินใจว่า เราจะเผยแพร่จดหมายที่เป็นจุดประสงค์ครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงได้ฝากจดหมายฉบับนี้ไว้กับฉัน ฉันรู้ดีค่ะว่านี่จะเป็นการจุดประเด็นให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ฉันรู้ด้วยว่า เขาเองก็คิดไว้แล้วว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้เช่นกันตอนที่เขาส่งจดหมายนี้ให้ฉัน นี่เป็นหน้าที่ของฉันที่จะทำตามคำขอครั้งสุดท้ายของเขา ดังนั้น ฉันเลยตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่เขาอยากให้ฉันทำ ฉันหวังจริง ๆ ว่าในที่สุดแล้ว ทุกคนจะได้ทราบว่า จงฮยอนไม่ได้โดดเดี่ยว และฉันก็อยากขอบคุณเขาที่เขาทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว ได้โปรดบอกเขาว่า เขาทำดีแล้ว เขาทำได้ดีมาก และขอบคุณที่อดทนกับความเจ็บปวดมาจนถึงตอนนี้ จงฮยอนที่งดงาม ฉันรักนายมาก และจะยังรักนายมาก ๆ ต่อไป ขออย่าได้เจ็บปวดอีกเลย หลับให้สบายอยู่บนนั้น ไปสู่สุขคตินะ....ไนน์ Dear Cloud”
ส่วนข้อความในจดหมายของ จงฮยอน ที่มอบไว้ให้กับ ไนน์ ครั้งสุดท้าย มีใจความว่า
“ข้างในฉันแตกสลาย ความเศร้าต่าง ๆ ค่อย ๆ คืบคลานฉันช้า ๆ และสุดท้ายมันได้กลืนกินฉันจนหมด และฉันไม่สามารถเอาชนะได้เลย ฉันเกลียดชังตัวเอง ฉันเอาแต่ยึดติดกับความทรงจำที่แปลกแยก และพยายามที่จะด่าทอพวกมันโดยพยายามรวบรวมมันทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แต่สิ่งที่ฉันเจอ คือ ไร้การตอบสนองใด ๆ ถ้าฉันไม่สามารถช่วยให้ตัวเองหายใจได้อย่างดีแล้ว มันคงดีกว่าถ้าฉันจะหยุดหายใจไปเลย ฉันถามตัวเองว่า แล้วใครจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้... ฉันเอง ที่สุดแล้ว คือ ฉันเองคนเดียว มันง่ายที่จะพูดถึงจุดจบ แต่มันยากที่จะให้มันจบจริง ๆ ฉันมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้ได้ก็เพราะความยากนั้น ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันต้องการหนี ใช่ ฉันอยากหนี หนีจากตัวเอง หนีจากคุณ ฉันถามว่า แล้วใครอยู่ที่นั่นล่ะ ก็ฉันเองไง ฉันเองอีกแล้ว และยังเป็นฉันเองคนเดียว ..ฉันถามว่า ทำไมฉันถึงเอาแต่ลืมความทรงจำต่าง ๆ นั่นก็เพราะว่า มันเป็นนิสัยของฉัน ฉันเข้าใจละว่าสุดท้ายแล้วนั่นเป็นความผิดของฉันเองทั้งหมด ฉันอยากให้คนสังเกตเห็น แต่ก็ไม่มีใครเห็น พวกเขาไม่แม้แต่มาเจอฉัน แน่นอนว่า พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ฉันไม่อยู่แล้ว ฉันถามว่า ทำไมพวกเขาถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะพวกเขาแค่ยังอยู่ แค่ยังมีชีวิตอยู่ และถ้าคุณถามว่า ทำไมฉันถึงตาย ฉันก็จะตอบว่า ฉันเหนื่อยมากยังไงล่ะ ฉันเจ็บปวด และคิดมาก ฉันไม่เคยเรียนรู้ว่าต้องเปลี่ยนความเหนื่อยล้าเจ็บปวดนี้ไปเป็นความสุขได้ยังไง เจ็บก็คือเจ็บ
พวกเขาต่างด่าฉันว่าอย่าทำแบบนี้ ทำไมเหรอ? ทำไมฉันถึงจะจบทุกอย่างในแบบที่ฉันต้องการไม่ได้? พวกเขาบอกฉันให้ค้นหาว่า ทำไมฉันถึงเจ็บปวด ฉันรู้ดี ฉันเจ็บปวดก็เพราะตัวฉันเอง ฉันผิดเอง และทั้งหมดนั่นก็เพราะฉันไร้ความสามารถ หมอครับ นี่คือสิ่งที่หมออยากได้ยินใช่ไหม? ไม่ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อเสียงนุ่ม ๆ นั่นกล่าวโทษความคิดของผม ผมก็คิดแค่ว่า ‘บ้าชิบ เป็นหมอมันง่ายนิ’ มันแปลกมากนะที่มันเจ็บ มีคนที่แย่กว่าผมแล้วยังอยู่ได้อย่างสบายดี มีคนที่อ่อนแอกว่าผมแต่ทนรับมันได้อย่างดี บางทีนั่นคงไม่จริง ไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่ที่แย่กว่าผม หรืออ่อนแอกว่าผมอีกแล้ว
แต่ยังไงผมก็ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ผมเอาแต่ถามตัวเองเป็นร้อย ๆ ครั้งว่า ทำไมผมจะต้องอยู่ด้วยล่ะ และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมเลย มันดีสำหรับคุณต่างหาก ขอร้องอย่าพูดอะไรเลยถ้าคุณไม่เข้าใจ พยายามค้นหาว่า ทำไมผมถึงเจ็บปวดเหรอ? ผมบอกคุณไปแล้วไงว่าทำไม มันผิดมากเหรอครับที่เจ็บปวดมาก เพราะเรื่องแบบนั้น ผมจำเป็นต้องมีเหตุผลที่มันดรามากว่านี้อีกเหรอ? ต้องมีเหตุผลที่มันเฉพาะเจาะจงกว่านี้อีกเหรอ? ผมบอกคุณไปแล้ว คุณไม่ได้ฟังหรือไง? สิ่งที่คุณเอาชนะมันได้จะไม่สร้างบาดแผลให้กับคุณเลยตลอดชีวิต การอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้มีความหมายกับผม ชีวิตที่มีชื่อเสียงไม่ได้มีความหมายกับผม นั่นเลยเป็นเหตุผลทั้งหมดว่า ทำไมมันถึงเจ็บปวด ผมดัง แต่ทำไมผมถึงเลือกทำแบบนี้ มันตลกมากนะ มันน่าสงสัยมากกว่าว่า ทำไมผมถึงอยู่มาได้นานขนาดนี้ สิ่งที่ผมจะพูด คือ แค่บอกผมว่า ผมทำดีแล้ว นั่นดีพอแล้ว บอกว่า ผมตั้งใจทำงานหนักมากแล้ว แม้ว่าคุณจะยิ้มไม่ออก ก็อย่าโทษว่าเป็นความผิดผม คุณทำดีแล้ว คุณตั้งใจทำอย่างดีแล้ว ลาก่อน”
ในจดหมายที่เขาได้มอบให้กับ ไนน์ เพื่อนสนิทของเขาครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่เกินคาดสำหรับใครหลายๆคนที่เคยได้เห็นและรู้จักกับจงฮยอน ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใส และการแสดงออกอย่างร่าเริงทุกครั้งที่ปรากฏตัวในที่สาธารณะ ทำให้หลายๆคนไม่เคยระแคะระคายถึงเรื่องความเศร้าในจิตใจของเขามาก่อน โดยก่อนหน้าวันที่เขาจะเสียชีวิต จงฮยอนเองก็ได้ไปถ่ายทำมิวสิควิดีโอตัวใหม่กับงานเพลงที่กำลังจะปล่อยออกมา ซึ่งคนในกองถ่ายได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า
“มันเป็นเพลงใหม่ที่มีแต่ความสดใส เขาก็ดูปกติเหมือนทุกครั้งเวลาอยู่ที่กองถ่าย ผมไม่รู้เลยว่าเขากำลังทุกข์ทรมานมาก”
ซึ่งเพื่อนของจงฮยอนเองก็ยืนยันว่า เจ้าตัวกำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ จึงช็อกกับข่าวการจากไปของเขาครั้งนี้มาก “เขากำลังเตรียมผลงานเดี่ยวชิ้นใหม่ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ผมไม่รู้ว่าเพลงจะปล่อยออกมาวันไหน แต่เขากำลังทำเพลงเดี่ยวเพลงใหม่จริงๆ คอนเซ็ปท์ครั้งนี้ค่อนข้างสดใสกับธีมที่ว่า จงฮยอนรักเสียงเพลง”
นอกจากนั้น ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาก็เพิ่งเสร็จสิ้นกับคอนเสิร์ตเดี่ยวของตนเอง และเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำรายการ Night Goblin ของช่อง JTBC ด้วย ล่าสุด ผลงานเพลงของจงฮยอน ได้เข้ามาครองแชมป์ในหลาย ๆ ชาร์ตเพลงทั่วโลก หลังแฟนคลับทั่วโลกต่างอยากได้ยินผลงานเพลงของเขาอีกครั้ง
แม้ทางต้นสังกัดอย่าง SM Entertainment จะยังไม่มีการยืนยันว่าจะปล่อยผลงานเพลงชิ้นใหม่ของเขาออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอีกหรือไม่ แต่สิ่งที่ทางค่ายออกมาเคลื่อนไหวล่าสุด คือ สั่งแคนเซิลงานทุกอย่างของศิลปินในสังกัดเอาไว้ชั่วคราว
คังตะ พี่ใหญ่จากค่าย SM Entertainment ที่มีรายการวิทยุอย่าง Kangta’s Starry Night ทาง MBC FM ก็ได้ขอลาไม่จัดรายการ โดยได้เชิญแขกพิเศษรายอื่นมาจัดรายการแทน แจฮยอนและจอห์นนีจากวง NCT ก็ยกเลิกการจัดรายการใน NCT’s Night Night ของ SBS Power FM ส่วนแทยอน จากวง Girls’ Generation ที่สนิทกับจงฮยอน ก็ยกเลิกงานแจกลายเซ็นของตนเอง ด้านคีย์เพื่อนร่วมวง SHINee ที่กำลังติดงานถ่ายแบบอยู่ที่โปรตุเกส ก็เดินทางกลับเกาหลีทันทีเช่นกัน
ทางครอบครัว และต้นสังกัด ได้เปิดให้แฟน ๆ ได้ร่วมบอกลา และเคารพศพจงฮยอน เป็นครั้งสุดท้าย ที่ห้อง IN A MEMORIAL ROOM ชั้น 1 ห้องที่ 3 ณ Asan Medical Center กรุงโซล ในวันที่ 19-20 ธ.ค. นี้ด้วย