ตบมือรัวให้ “พิ้งกี้ สาวิกา” สวยและใจงาม ไม่ขอตอบโต้อดีตสามี ขอจดจำแต่สิ่งดีๆ คิดถึงแต่สิ่งดีๆ ที่ไม่ดีก็ปล่อยไป นึกถึงบุญคุณและครั้งหนึ่งเคยเป็นสามี ไม่อยากทำให้เสียหาย ขอให้เจอรักใหม่ที่ดีและเหมาะสม
หลังจากที่ “เพชร อิทธิ ชวลิตธำรง” อดีตสามี “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ออกมาให้สัมภาษณ์เดือดถึงสาเหตุการเลิกกับพิ้งกี้ ว่า เป็นเพราะฝ่ายหญิงผิดสัญญาว่าแต่งงานแล้วจะไม่รับงานในวงการบันเทิง และมีปัญหาเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง โยงไปถึงคุณแม่ของพิ้งกี้อีกด้วย งานนี้พิ้งกี้ตอบสวยๆ ว่า ไม่ขอพูดอะไร อยากจะจำและคิดถึงแต่สิ่งดีๆ เคยดีต่อกันและนึกถึงบุญคุณที่อดีตสามีช่วยเหลือมา
“ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง มันรู้สึกอะไรมากไม่ได้ เพราะตอนนี้เราเป็นคนอื่นซึ่งกันและกันไปแล้ว เราไม่สามารถจะรู้สึกอะไรไปได้มากกว่านั้นเพราะเป็นทัศนคติที่ต่างกัน ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสามีเรา ณ ปัจจุบันนี้เราไม่อยากทำให้ใครเสียหาย เราไม่มีความรู้สึกอะไรเลยที่จะพูดถึงเขาในทางไม่ดี”
“กับสิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์ก็ตกใจ ซึ่งตอนนั้นมีพี่นักข่าวโทรมาเราถึงได้ไปดู ตอนนี้เราพูดอะไรมากไม่ได้ ไม่อยากตอบอะไร เพราะเราเป็นคนอื่นไปแล้ว จริงๆ การที่เขาพาดพิงแม่หรือผู้จัดการ กี้ว่ามันคือทัศนะคติค่ะ ซึ่งตอนนี้เรามองไปถึงจุดที่จะเดินไปข้างหน้าแล้ว อะไรที่เป็นสิ่งที่เราเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กันเราก็คิดถึงและเก็บตรงนั้นไว้ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็คงจะไม่คิดค่ะ ก็ปล่อยไป”
“ก็เสียใจค่ะ แต่ถ้าจะให้กี้มานั่งชี้แจงอีกวันนี้ก็คงไม่จบ กี้คงไม่มีอะไรชี้แจงค่ะ เพราะกี้รู้สึกว่า ณ ปัจจุบันนี้กี้ทำได้แค่เพียงเดินหน้าเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรจะต้องพูดออกมา กี้ไม่อยากทำให้คนที่เขาเคยเป็นสามีเราเสียหายแล้ว”
ข่าวกระทบครอบครัวไม่เป็นไรเพราะเป็นดารายังไงก็โดน แต่ “พิ้งกี้” ไม่ขอพูดถึงอดีตสามีในทางที่ไม่ดีเพราะเป็นนักธุรกิจจะส่งผลกระทบมาก
“กี้เป็นดารา ยังไงก็ต้องเจอข่าวโน่นข่าวนี่ ความเสียหายมันมีอยู่ตลอดค่ะ แต่ในทางกลับกันพี่เขาเป็นนักธุรกิจ กี้พูดในสิ่งที่ไม่ดีไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเซนซิทีฟมากๆ เรารู้สึกอยากมองในสิ่งที่ดีเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้โทรไปเคลียร์ค่ะ คือ มันไปข้างหน้าไกลแล้ว สิ่งที่พี่เขาพูดมามันคือทัศนะคติที่คนหนึ่งมองต่อเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนั้นจะต้องเป็นแบบนั้น”
ไม่ตอบโต้ไม่อธิบายในสิ่งที่อดีตสามีพูด
“เอาจริงๆ นะคะ ตัวกี้โตแล้ว กี้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เพราะฉะนั้นการที่คนเราจะตัดสินใจทำอะไรไม่ใช่เพราะอารมณ์ เราต้องคิดถี่ถ้วนแล้ว เราโตป่านนี้แล้วจะไม่คิดอะไรด้วยอารมณ์ กี้คิดว่าสิ่งที่ทั้งกี้และพี่เขาตัดสินมันคือความคิดที่โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ”
ส่วนที่อดีตสามีให้สัมภาษณ์ถึงคุณแม่ พิ้งกี้ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ทุกอย่างตนเป็นคนตัดสินใจ
“คุยค่ะ เพราะเรามีอยู่กันสองคนอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าตอนนี้เรามองในสิ่งที่ดีแล้ว เรามองว่าเราเคยทำอะไรมาแล้วดีต่อกัน อะไรที่ไม่ดีก็ไม่เป็นไร เพราะเรารู้ว่าตัวเราทำอะไรอยู่ ส่วนตัวแม่เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะ เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากตัวกี้นี่แหละเพราะกี้เป็นคนตัดสินใจ แม่ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจจะทำอะไรอย่างหนึ่ง อย่างการรับงานแม่ก็ไม่สามารถบังคับกี้ได้ เพราะตัวกี้เองก็เป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก การที่รับงานเพราะงานเลือกเรา เราเป็นนักแสดง เราต้องทำหน้าที่ตรงนั้น ทุกอย่างคืองาน ไม่มีใครจะมาบังคับเราได้ว่าต้องทำอันนี้หรืออันนั้น”
ไม่ตอบกรณีอดีตสามีแฉว่า “พิ้งกี้” ผิดสัญญา ถ้าแต่งงานจะไม่รับงานในวงการอีก บอกแค่ว่าไม่มีใครแต่งงานแล้วอยากเลิก
“จริงๆ การที่กี้แต่งงานมันก็คือการตัดสินใจระดับหนึ่งแล้วว่า เราคิดยังไงตอนนั้น แต่ปัจจุบันนี้บอกเลยร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากเลิก ไม่มีใครอยากแต่งงานแล้วล้มเหลว ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ แต่ในวันหนึ่งไม่ประสบความสำเร็จเราก็ต้องยอมรับ มันมีเหตุผลมากมายที่เราไม่จำเป็นจะต้องมาเล่าให้ทุกคนฟัง มันเป็นเหตุผลของคนสองคน บางทีคนสองคนอาจจะมีอะไรที่ไม่เข้ากัน ไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัจจุบันกี้มองเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย บางครั้งในอนาคตอาจจะมีเรื่องที่ดี ผ่านไปปีสองปีเราสองคนอาจจะมองแต่สิ่งดีๆ ของกันก็ได้”
ยันเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยในการเลิกเหมือนที่อดีตสามีออกมาให้สัมภาษณ์
“เรื่องเงินเป็นสิ่งที่เราได้ยินมาจากข่าวหลายๆ ข่าว ก่อนหน้านี้ก็มีข่าว ซึ่งไม่เป็นความจริงเลยว่าให้เงินเดือนเท่านี้ๆ เราก็เข้าใจพี่เขาเพราะพี่เขาก็บอกตามที่เขาบอกว่าไม่ใช่เท่านั้น เราเองก็ไม่เคยให้ข่าวใคร เราตอบทุกข่าวไม่ได้จริงๆ เพราะมันเยอะมาก จนเราไม่สามารถชี้แจง แต่ตอนนี้พูดได้ว่าทุกอย่างตัดสินใจด้วยตัวเรา และเงินไม่ได้เป็นปัจจัยสำหรับกี้ เพราะเราทำงานตั้งแต่เด็ก”
คิดว่าหลังจากนี้อดีตสามีคงไม่ออกมาให้สัมภาษณ์อะไรอีกแล้ว เพราะได้พูดในสิ่งที่อยากพูดแล้ว และโดยส่วนตัวก็ไม่มีอะไรค้างคาอยากจะพูดถึงอีก อยากจะให้ฝ่ายชายไดเจอคนที่เหมาะสมและดี
“คิดว่าเขาคงไม่น่าจะออกมาพูดแล้วค่ะ มันเป็นสิ่งที่พี่เขาคงอยากพูด เราก็ห้ามตรงนั้นไม่ได้ ตัวกี้ก็พูดได้ในสิ่งที่พูดได้แค่นี้ เรามองในจุดที่ดี เราไม่ได้รู้สึกแย่กับพี่เขา เรามองว่าพี่เขาเคยดีกับเราแค่ไหน มีบุญคุณในการที่เคยดูแลเรา ในการที่เป็นสามี หลังจากนี้ต่อไปก็อยากจะให้เขาได้เจอคนที่เหมาะสมกับเขาและดีกับเขา ไม่มีอะไรค้างคาค่ะ เพราะตอนนี้เดินหน้ามากค่ะ สาวิกาไม่มองไปข้างหลังค่ะ เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว”
“เจอหน้ากันได้สิคะ เดี๋ยวงานวิ่งนี้ที่พัทยา แหลมบาลีฮาย พี่เขาก็อยู่แถวนั้น อาจจะวิ่งๆ อยู่เจอก็ สวัสดีพี่เพชร (ยิ้ม)”
ถอนตัวจากหนัง “มังกร ปีศาจ นารี” ที่ทำงานร่วมกับอดีตสามี ต่อไปนี้เดินหน้าวงการบันเทิงเต็มที่
“ไม่ได้เล่นค่ะ กี้ออกมาแล้ว แต่พี่เขาคงทำอยู่ คือเราออกมาแล้วก็คงไม่ได้กลับไปตรงนั้น และหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลย กับชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่เหนื่อยค่ะ แฮปปี้ค่ะตรงที่ข่าวมันผ่านไปและก็ผ่านไป ไม่มีทางที่ต้องกลับมาถามอีกหลายๆ รอบเพราะทุกคนก็ต้องเดินหน้า ปัจจุบันกี้ก็คงไม่นึกถึงเรื่องอดีต”
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ความรัก ชีวิต การทำงาน ทุกอย่างมีบทเรียนในสิ่งที่เราทำทุกอย่าง ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องล้มเหลว มันคือการเรียนรู้ ฉะนั้นจะบอกทุกคนว่าทุกคนไม่ได้ล้มเหลวนะคะ มันคือการเรียนรู้เท่านั้นเอง ชีวิตยังอีกยาวไกล เรายังต้องเจออะไรอีกเยอะ อายุ 30 ก็เป็นจุดเริ่มจะเป็นผู้ใหญ่ตอนปลายแล้ว ก็ต้องตั้งใจทำงานและให้งานออกมาดีที่สุด กับมาในวงการครั้งนี้ก็เหมือนกับว่าไปพักผ่อนมา และกลับมาใหม่ค่ะ ตอนนี้ก็มีละครเรื่อง ภูตพิศวาท ที่พี่ต่าย นัฐฐพนท์ เป็นผู้จัดฯ ของทางช่องวัน ส่วนอีกสองเรื่องเดี๋ยวรอผู้ใหญ่บอกค่ะ”