xs
xsm
sm
md
lg

“ชอว์น เมนเดส” หนุ่มหน้าใสสุดฮอตขโมยหัวใจสาว ๆ หลังเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยสำหรับ “ชอว์น เมนเดส” หนุ่มน้อยหน้าใส ที่โด่งดังจากการคัฟเวอร์เพลงใน Vine ก่อนที่จะกลายมาเป็นศิลปินแถวหน้า พร้อมกับเดินสายทัวร์ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศที่เต็มใจต้อนรับหนุ่มเสียงหวานให้มาแสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่ชื่อว่า “Shawn Mendes Illuminate World Tour live in Bangkok” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ณ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี

การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ของ ชอว์น เมนเดส หนุ่มน้อยหน้าใสวัย 19 ปี เรียกได้ว่าเป็นการรอคอยมาอย่างยาวนานของแฟน ๆ ชาวไทยเลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่ที่เขาออกผลงานเพลงของตนเองครั้งแรกเมื่อปี 2014

ชอว์น นับเป็นเด็กหนุ่มชาวแคนาเดียน ที่ประสบความสำเร็จจากการคัฟเวอร์เพลงลงในโซเชียล จนหลาย ๆ คนพากันเปรียบเทียบว่า ทั้งรูปร่าง หน้าตา น้ำเสียง และความน่ารักของเขา น่าจะทำให้เขาประสบความสำเร็จตามรอยรุ่นพี่อย่างจัสติน บีเบอร์ นักร้องหนุ่มชาวแคนาเดียน ที่มีเส้นทางทางดนตรีในแบบเดียวกันได้ไม่ยาก

หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จจากการปล่อย EP แรก หลังจากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยการออกอัลบั้มเต็มของตนเองแบบทันท่วงทีในเดือน เม.ย. 2015 กับอัลบัมที่ชื่อว่า Handwritten ซึ่งทำยอดขายไปอย่างถล่มทลาย โดยที่เพลงจากอัลบัมนี้ยังไม่ทันจะเลิกฮิต เขาก็ปล่อยอัลบัมเต็มที่ 2 ออกมาทันทีในเดือน ก.ย. 2016 กับอัลบัมที่ชื่อว่า illuminate จนทำให้หนุ่มคนนี้ได้รับความนิยมแบบติดลมบนต่อเนื่องจนกระทั่งเกิดเวิลด์ทัวร์ของตนเองได้ในที่สุด

การเปิดการแสดงของชอว์น เมนเดส ครั้งนี้จึงอัดแน่นไปด้วยเพลงทั้งจากอัลบัมเก่าใหม่ให้ได้ฟังเสียงร้องกันแบบสด ๆ ไปอย่างเต็มอิ่ม เริ่มต้นคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยกราฟิกสุดตระการตาบนจอแอลอีดีด้านหลังที่ครีเอตภาพมาแบบกึ่ง 3 มิติ เพื่อเปิดตัวหนุ่มชอว์น ที่เดินขึ้นเวทีมาพร้อมกีตาร์อคูสติกคู่ใจในเพลง There’s Nothing Holding Me Back ซึ่งก็กรี๊ดกันสนั่นลั่นฮอล ก่อนจะตามมาด้วยเพลง Lights On ที่เพลงนี้แฟน ๆ ร่วมกันเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือเป็นไฟส่องสว่างพร้อมกับร้องเพลงท่อน “I Wanna Love You With The Lights On” กันดังสนั่น ซึ่งเจ้าตัวก็ดูจะปลื้มใจอยู่ไม่น้อยถึงขั้นยกนิ้วโป้งให้แฟน ๆ ระหว่างร้องเพลง

หลังจากเปิดตัว 2 เพลงดังจากอัลบั้มล่าสุดไป ชอว์น ก็จัดเต็มอัลบัมเก่าให้แฟน ๆ ได้ฟัง โดยขนมาแบบเมดเลย์กันเลยทั้ง I Don't Even Know Your Name , Aftertaste และ Kid in Love ซึ่งแม้จะเป็นผลงานเก่า แต่แฟน ๆ ก็ร้องตามกันดังลั่น เจ้าตัวก็ถึงขั้นเอ่ยปากขอบคุณ และเผยว่าดีใจที่ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเจอแฟน ๆ ที่นี่ ก่อนจะลากกันไปยาว ๆ กับเพลงอัลบั้มแรกกันต่อทั้ง The Weight , A Little Too Much ซึ่งเพลงนี้พิเศษตรงที่การดีไซน์กราฟิกกึ่ง 3 มิติ เสมือนชอว์นยืนอยู่ในโถงขนาดใหญ่ โดยตัวเขาได้พูดให้ผู้ชมฟังว่า เขาอยากให้เพลงนี้เป็นเพลงที่คอยให้กำลังใจ และเตือนใจผู้อื่นเมื่อโตขึ้นด้วย

ก่อนจะตามมาด้วยเพลงที่ทำเอากรี๊ดสนั่น ร้องตามกันทั้งฮอลอย่าง Stiches ผลงานซิงเกิลที่ 3 ของชอว์น ที่หลังจากปล่อยออกมาก็ฮิตติดอันดับท็อปบิลบอร์ด และขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตฝั่งอังกฤษมาแล้ว

มากันที่บทเพลง Bad Reputation ที่เพลงนี้ถือเป็นช่วงปล่อยของ มีการใช้กราฟิกเป็น Eclipse พร้อมกับที่ลูกบอลตรงกลางคอนเสิร์ตก็โดนสาดแสงใส่เปลี่ยนเป็นพระจันทร์ดวงกลมโต ขณะที่สปอตไลต์ดวงใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนลงมาพร้อมกับหมุนรอบตัวเขา เมื่อประกอบกับจังหวะดนตรีที่หนักหน่วง และเสียงร้องที่หนักแน่น ก็ทำให้โชว์นี้ออกมาสวยงามมีมนต์ขลังไม่น้อย

ต่อด้วยเพลง Ruin ที่เพลงนี้พอชอว์น ร้องไปถึงช่วงท้าย ๆ ก็ขอให้แฟน ๆ ร้องตามในท่อนที่ว่า “Do I ever cross your mind?” ก่อนจะสละกีตาร์ สละขาไมค์ เดินร้องเพลงทักทายผู้ชมแถวหน้าให้ได้เห็นกันชัด ๆ และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะเดินไปฝั่งไหน ผู้ชมพากันส่งเสียงกรี๊ดตาม และเมื่อถึงขั้นชอว์นกระโดดลงมาทักทายร้องเพลงกับผู้ชมถึงด้านล่างให้ได้สัมผัสแผงอก และจับมือจับกล้ามแขนกันใกล้ ๆ ก็ทำเอาผู้ชมแถวหน้าสติพังไปตาม ๆ กัน

จากนั้น ตามมาด้วยผลงานซิงเกิลแรกสร้างชื่อของชอว์น เมนเดส อย่าง Life of The Party ที่เจ้าตัวมาโชว์ดีดเปียโน ก่อนที่จะโชว์รวดผลงานเพลงจากอัลบั้มล่าสุด Illuminate พร้อม Bonus Tracks โดยขนมาทั้ง There Empty Words , Patience, Roses ซึ่งเพลงนี้ ชอว์น บอกว่าเป็นเพลงที่พิเศษที่สุดเพลงหนึ่งในอัลบัม Illuminate และเป็นเพลงที่ติดอยู่ในใจ จึงอยากให้ทุก ๆ ช่วยกันร้องตามดัง ๆ และแฟนไทยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ช่วยร้องแบบไม่มีอิดออด ก่อนตามมาด้วยเพลง No Promises , Understand , Don’t Be a Fool และ Mercy

โดยเพลง Never Be Alone ซึ่งถือว่าเข้าสู่พาร์ตสุดท้ายคอนเสิร์ต แฟน ๆ ก็มีการทำโปรเจกต์เปิดจอโทรศัพท์เป็นสีฟ้า แต่แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จกับโปรเจกต์นี้ แต่หลาย ๆ คนที่ไม่รู้ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชไลต์ส่องแสงโบกมือตาม และปิดท้ายด้วยเพลง Use Somebody ของ Kings of Leon ที่เขานำมาร้องในสไตล์ตนเอง ก่อนจะส่งแฟน ๆ กลับบ้านในช่วงอังกอร์ด้วยเพลงที่ทุกคนพร้อมใจกันลุกขึ้น และร้องตามเสียงดังอย่าง Treat You Better ก็ต้องบอกว่าเป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่แฟน ๆ ของหนุ่มชอว์น เมนเดส ได้เต็มอิ่ม และฟิน กับการแสดงสดของเขาจนแทบไม่อยากกลับบ้านกันเลย

ต้องบอกว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้การนำเสนอในรูปแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงความเท่แบบคลุมโทนเอาไว้นั้น ถือว่าเหมาะสมกับตัวชอว์น เมนเดส มากทีเดียว เพราะชอว์นเองก็โด่งดังจากการเป็นนักร้องที่มีสไตล์การร้องเป็นของตนเอง คือ เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ เมื่อผนวกกับกราฟิก และเอฟเฟกต์ ที่ทำออกมาแบบไม่หวือหวาจนเกินไป แต่เน้นเรื่องธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเรื่องพระจันทร์, Eclipse, สายฝน, ป่าเขา, ต้นไม้ อันเกี่ยวเนื่องกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ก็ถือเป็นการสะท้อนตัวตนของหนุ่มคนนี้ที่มีความเป็นธรรมชาติสูง ซึ่งเชื่อได้เลยว่า พ่อหนุ่มที่แค่ยิ้มมุมปากก็พาเอาใจละลาย แถมยังทำให้เรานึกถึงศิลปินสุดคูล 2 คนรวมกันอย่าง จัสติน บีเบอร์ และจอห์น เมเยอร์ น่าจะเติบโต และประสบความสำเร็จ บนเส้นทางดนตรีสายนี้ต่อไปได้อีกนานเลยทีเดียว


































กำลังโหลดความคิดเห็น