“ป๋อมแป๋ม” แฮปปี้กระบอกเสียงเพศที่สาม เผยคาดไม่ถึงคว้ารางวัลผู้ดำเนินรายการบันเทิงยอดเยี่ยม จากสิงคโปร์ พร้อมเผยที่มาประโยคเด็ดที่โดนใจกะเทยทุกคน
นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ “ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร” ผู้ดำเนินรายการ “ทอล์ก-กะ-เทย Tonight” ผลิตโดย “บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด” ออกอากาศทางช่อง GMM25 คว้ารางวัล Best Entertainment Presenter/Host (รางวัลผู้ดำเนินรายการบันเทิงยอดเยี่ยม) จากงานประกาศรางวัล “Asian Television Awards 2017” ครั้งที่ 22 ที่ ประเทศสิงคโปร์ โดยป๋อมแป๋มได้ขึ้นไปรับรางวัล พร้อมวาทะเด็ดที่ทำคนในงานถึงขั้นเฮเสียงดังนั่น ด้วยประโยคที่บอกว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลแห่งความเท่าเทียมทางเพศทั่วเอเชีย ล่าสุด เจ้าตัวก็เผยว่าตอนพูดประโยคดังกล่าวเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ และคาดไม่ถึงว่าตนจะคว้ารางวัลดังกล่าวมาได้
“ก็ยินดีมากนะ แต่เราก็ไปแบบงงๆ พูดจริงๆ เราก็คุยกับเจ้านายว่าเหมือนไปเปลี่ยนที่กินเหล้า (หัวเราะ) และไปเล่นกาสิโนอย่างถูกกฎหมายกัน เพราะดูจากรายชื่อแล้วเขาเป็นระดับบิ๊กเนมกันหมด แต่เราเป็นใครก็ไม่รู้ และเป็นคนต่างชาติคนเดียวด้วย เราก็ไป เขาเชิญให้ไป กะว่าเสร็จแล้วก็จะเข้ากาสิโน”
“ตอนที่รู้ว่าได้เข้าชิงก็เราก็งงเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าส่งไปตอนไหน จริงๆ ที่บริษัทมีการส่งไปทุกปีอยู่แล้ว แต่ในส่วนของเรา จำไม่ได้ แต่ก็มีการมาขอให้ช่วยตัดอันนั้นอันนี้หน่อย เราก็ทำไปตามหน้าที่ แต่จำไม่ได้ว่าตัดเพื่อส่งเข้าร่วมงานนี้ พอมีชื่อเข้าชิงก็ตกใจ ว้ายตายแล้ว”
เผยเรื่องฮา ไม่คิดว่าจะได้รางวัล ยังหันไปเมาท์มอยกับ “อลัน วู” ที่นั่งอยู่ข้างหลัง
“เอาจริงๆ ตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ไม่ได้อยู่แล้ว ประเด็นคือผู้เข้าชิงในสาขาเดียวกัน เขาจับนั่งใกล้ๆ กัน อลัน วู ก็นั่งข้างหลัง เราก็หันไปบอกเขาว่า ยูๆๆๆ ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเลย เพราะไม่คิดว่าจะได้ขึ้นไปอยู่แล้ว คือ พอประกาศชื่อเรา ก็หันรีหันขวางว่ายังไงดีวะ แล้วมันเป็นการประกาศเป็นรางวัลที่ 2 ด้วย ยังโก๊ะๆ กังๆ อยู่เลย”
ยอมรับไม่ได้เตรียมคำพูดบนเวที แต่สิ่งที่บอกนี่คือรางวัลแห่งความเท่าเทียมทางเพศทั่วเอเชีย เป็นสิ่งที่นึกย้อนจุดเริ่มต้นของรายการเท่านั้น
“ก็เป็นสิ่งที่มาจากในใจ คือเราไม่ได้เตรียมมาก่อน ตอนเดินขึ้นไปก็คิดว่าเราจะพูดอะไร ก็ย้อนกลับไปนึกถึงจุดเริ่มต้นของรายการนี้ รายการทอล์ก-กะ-เทย เกิดขึ้นมา เพื่อจะส่งต่อความสุข เราเชิญแขกรับเชิญมา เขาก็ไม่ต้องมาตอบคำถามที่เขาไม่อยากตอบ คนที่ตอบรับเรามา เราก็รู้สึกยินดีที่เขาสนใจในจุดนั้น ในส่วนของความสนุกสนาน เขาไม่ได้มาสนใจว่าเราเป็นตุ๊ดเป็นกะเทย พอขึ้นไปเลยพูดเรื่องนี้ ถึงพูดสั้นมากไง (หัวเราะ) พูดเสร็จลงไปเลย”
“ถ้ามองว่าเป็นกระบอกเสียงเพศที่สาม มันเป็นสิ่งที่เราอยากบอกเหมือนกัน จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องเพศที่ 3 ไม่ได้พูดว่าเป็นเพศทางเลือก แต่เราพูดในเรื่องที่ว่าไม่ว่าเพศไหน ผู้ชาย ผู้หญิง ตุ๊ด กะเทย สมมติเขาทำงานออกมาแล้วมันโอเค แปลว่าโอเค ไม่ใช่ว่าทำออกมาโอเคปุ๊บ แต่พอรู้ว่าตุ๊ดทำแล้วจะมองว่ามันจะโอเคมั้ย เราไม่เชื่อเรื่องนี้ไง คือรางวัลนี้มอบให้กับพิธีกรที่เขาเป็นกะเทย ที่เขาทำงานโอเค นั่นแปลว่าไม่ว่าเป็นใคร ถ้าทำงานโอเคก็คือโอเค ซึ่งสิ่งที่กลับมาก็โอเคนะ คนที่แสดงความยินดีกับเราก็เยอะ ส่วนเรื่องที่พูดบนเวทีก็มีคนพูดถึงกัน คนก็จะบอกว่าเก๋ (ยิ้ม)”
ตกใจที่คนชอบ ไม่หวังต่อยอดไประดับโกอินเตอร์
“คงไม่ถึงกับการที่จะไปเป็นแกนนำอะไร ไม่ใช่ว่าเราจะไปแหม...ถือธงถือดาบสู้เขา หลักๆ คือเราก็ทำงานของเราให้ดี ไม่ไปทำร้าย ไปสู้รบกับใคร มีหน้าที่อะไรในมือก็ทำของเราให้ดีที่สุด สำหรับเราเท่านี้มันก็พอแล้ว ตอนนั้นที่พอเราพูดจบ เราก็แอบตกใจเหมือนกันที่คนก็เฮเหมือนกันกับสิ่งที่เราพูดไป คือเราดีใจนะ เพราะเรารู้สึกว่ารางวัลนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทาง เพราะว่าเป็นรางวัลจากทั่วเอเชีย แต่เรารู้ว่าในเอเชียหลายๆ ที่ยังมีความต้องห้ามในเรื่องนี้ หรือบางทีก็ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของเพศที่ 3 อยู่ เราอาจจะไม่ได้ทำอะไรเยอะ แต่แค่เรารู้สึกว่าประเทศไทยสามารถมีแบบนี้ได้แล้ว ส่วนจะไปต่อยอดอะไรมั้ย โอ้ย เราไม่คิดจะไปโกอินเตอร์หรืออะไร ทำแค่นี้แหละ ทำแค่นี้ไปก่อน โอกาสมันมาแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
