“จีจ้า” รับแยกทางกับสามีมาเป็นปี แต่ยังคุยกับอดีตสามีอยู่เกือบทุกวัน ยังคอยให้คำปรึกษากันและช่วยหาเงินเลี้ยงลูก ย้ำ ไม่เคยตกลงกันเรื่องค่าเลี้ยงดู บอกลูกถึงสถานะของพ่อแม่ อยากให้รู้ตั้งแต่เด็ก เพราะตนก็เกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ปัดคบหนุ่มฝรั่ง บอกแค่ลองคุยแต่ไปไม่คลิก ตอนนี้ยังโสดสนิท
ออกมาเปิดเผยว่าเป็นซิงเกิลมัมสักพักหนึ่งแล้ว สำหรับนางเอกสาวนักบู๊ “จีจ้า ญาณิน วิสมิตะนันทน์” ที่ยอมรับว่าได้เลิกรากับสามี “เอเดรียน โรเบิร์ต เบาว์เดนท์” มาเป็นปี แต่บอกยังคุยกันเกือบทุกวัน มีปัญหาก็ปรึกษากันตลอด โดยเฉพาะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างน้อง “เจย์เดน” ที่ตนขอเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเอง แต่ทางฝั่งอดีตสามีก็ยังคงส่งเสียเลี้ยงดูตลอด
“แยกทางกับพี่เดรียนมาเป็นปีแล้วค่ะ แต่ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนกัน ยังคุยกันอยู่เกือบทุกวันนะ ก็จะส่งรูปลูกไปให้เขาดู เวลามีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาพี่เดรียน เรื่องงานก็ยังมีโทร.ปรึกษากันอยู่ค่ะ มันเป็นเรื่องที่เราปรับตัวกันไม่ได้มากกว่าในหลายๆ อย่าง ต่างคนก็ต่างแยกกันอยู่ การเลี้ยงน้องเจย์เดนก็ไม่มีปัญหาค่ะ ต้องบอกว่าน้องอยู่กับคุณยายตั้งแต่ช่วงเขาเกิดเลย จ้าก็จะเลี้ยงอยู่ที่บ้านคุณยาย แต่พอช่วงที่จ้าออกไปทำงาน น้องก็จะอยู่กับคุณยาย แต่ตอนนี้น้องไปโรงเรียนแล้วก็จะไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ค่ะ”
“กับพี่เดรียนก็คุยเรื่องค่าใช้จ่ายกันปกตินะ อย่างบอกค่าประกันมาแล้วนะ ค่านู่นค่านี่ เหมือนเราช่วยกันหาเราช่วยกันแชร์ค่ะ ก็ไม่ได้คุยว่าค่าเลี้ยงดูต้องแบ่งกันยังไง แค่บอกว่าตอนนี้จะมีอันนี้มาเดี๋ยวเราช่วยแชร์กันเท่านี้ๆ นะ อย่างค่าประกันลูกกี่หมื่นก็ว่ากันไปแล้วเดี๋ยวเรามาช่วยกันออกเท่านี้ๆ มั้ย เราไหวแค่ไหน เธอไหวแค่ไหนก็ต้องช่วยๆ กันค่ะ ไม่เคยตกลงกันว่าต่อเดือนต้องเท่าไหร่ค่ะ แต่เขาก็ให้ความช่วยเหลือ พอบอกเขาปุ๊บเขาก็โอนให้หรือทำอะไรให้เลยทันที”
“จริงๆ แฮปปี้นะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แค่น้องอยู่กับเราแค่นั้นเอง จ้าเองก็โตมาด้วยครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์นะ จ้าก็รู้ว่าพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ เลยนะ ก็ไม่ได้มีปัญหา ก็ดูแลตัวเอง ทุกวันนี้ก็ดูแลครอบครัว ดูแลคุณแม่ จ้ารู้สึกว่ามันเป็นความจริง เราให้เขารับรู้ความจริงตั้งแต่เด็กเลยดีกว่าว่าตอนนี้สถานะของพ่อกับแม่มันเป็นยังไง คือ ต้องค่อยๆ อธิบายไปให้เขารู้ความจริง เข้าใจตรงนี้จริงๆ ดีกว่า ไม่ได้คิดจะปิดอะไรน้องค่ะ น้องก็มีถามบ้าง แต่ตอนนี้น้องก็ติดยายกับจ้ามากค่ะ สมมติวันไหนไม่มีงาน 2 - 3 วันก็จะอยู่กับเขาตลอด หรือบางทีก็หิ้วเขาไปยิมด้วย เอาไปปล่อยไว้ที่ยิม มีคนเลี้ยงเยอะ (หัวเราะ)”
รับเคยลองคบหนุ่มฝรั่งคนหนึ่ง แต่ไปไม่รอด เพราะระยะทางและเวลาที่ห่างกันเกินไป
“ตอนแรกก็มีคุยๆ กันนะคะ แต่ด้วยเรื่องของระยะทาง และระยะเวลา เลยรู้สึกว่าเราเจอกันยาก ดูแลกันยาก แล้วไลฟ์สไตล์เราเหมือนกันมาก คือเราสบายใจที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเข้ามาค่ะ นี่ก็จะรอนัดทริปกับเพื่อนสาวค่ะ (ยิ้ม)”